ข่าวพาดหัวทะเลาะวิวาทอาสาสมัครหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัย

คู่อริคว้าไม้เบสบอลหวดหนุ่มไรเดอร์ไม่ยั้งเลือดอาบหัวหวิดดับ ย่านประชาอุทิศ

คู่อริคว้าไม้เบสบอลหวดหนุ่มไรเดอร์ไม่ยั้งเลือดอาบหัวหวิดดับ ย่านประชาอุทิศ

วันที่ 10 สิงหาคม 2565
เวลา 14.30 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาเหตุจากการโดนทำร้ายร่างกาย เป็นชาย 1 ราย บริเวณจุดเกิดเหตุหน้าถนนใกล้เคียง ปากซอยประชาอุทิศ 40 จึงเร่งรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.) เขตราษฎร์บูรณะ เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย อายุ 24 ปี เป็นพนักงานส่งอาหาร อยู่ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่กับพื้นถนน จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้เคียงปากซอยประชาอุทิศ 40 ถนน ประชาอุทิศ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร

จากการตรวจสอบภายในร่างกายพบบาดแผลเปิดขนาดใหญ่บริเวณศรีษะ มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นลักษณะบาดแผลที่เกิดจากโดนของแข็งที่ไม่มีคมฟาดอย่างแรง และบริเวณใบหน้าบวมปูด ภายในบริเวณร่างกายพบบาดแผลถลอกหลายแห่ง อาสาสมัครจึงรีบจัดเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ตามความประสงค์ของผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเร่งด่วน

จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์บอกเล่าว่า ตนนั่งอยู่บริเวณนี้ แล้วมีมอไซค์มา 2-3 คัน มากัน 3 คน มาตีกันตรงนี้เลย เหตุน่าจะเคยมีเรื่องกันมาก่อน เป็นเรื่องเก่า ตนเห็นเข้าไปทำร้ายคนเจ็บกัน 3 คน ตนจะเข้าไปห้าม ก็เห็นฟาดกัน 3 ที แล้วก็หนีกันไปเลย

ส่วนผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกคน บอกว่า ตนนั่งรวมกลุ่มกันตรงนี้แล้วคนเจ็บแยกไปนั่งอีกทีนึงแต่ก็บริเวณเดียวกัน ก็มีมอไซค์มากัน 2 คน ลงมาเดินไปที่คนเจ็บ เอาไม้เบาบอลชี้หน้า แล้วฟาดไปทีนึง คนเจ็บก็จะวิ่งไปฝั่งนู้นแต่มีมอไซค์อีกคันมาขวางไว้ เลยวิ่งไปที่ถนนแล้วฟาดไป 3 ที ก็ขับรถหนีไปเลย ไม่ได้พูดอะไรเลย

เบื้องต้นผู้ที่พักอาศัยภายในบริเวณดังกล่าวต่างก็บอกในทำนองเดียวกันว่าตอนที่เกิดเหตุนั้นผู้ได้รับบาดเจ็บกำลังนั่งรองานอยู่ตรงบริเวณด้านบนฟุตบาทติดกับถนนประชาอุทิศ แล้วอยู่ดีๆก็มีจักรยานยนต์มากัน 2 คัน 3 คน พร้อมอาวุธเป็นลักษณะไม้เบสบอล แล้วก็จอดรถลงมาชี้หน้าผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะเข้าไปรุมตีด้วยอาวุธดังกล่าวโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง จนกระทั่งกลุ่มเพื่อนไรเดอร์ด้วยกันกับผู้ได้รับบาดเจ็บช่วยกันห้ามปรามและแจ้งกู้ภัย จนกระทั่งกลุ่มคนร้ายดังกล่าวได้ยินเสียงของรถกู้ภัยวิ่งมาจึงได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เป็นที่น่าตกใจและทำให้ชาวบ้านแถวนั้นหวาดกลัว แล้วหวั่นเกรงในความไม่ปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องรอให้ทางผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้นหรือพอที่จะให้การได้ก่อนถึงจะรู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดจากสาเหตุอะไร ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.