ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวตรวจสอบ

ปทุมธานี – ทุกข์ชาวบ้านขอผู้ว่าสั่งปิดตายจุดพักขยะเทศบาลเมืองลาดสวายใกล้ รร.อนุบาลเด็กเล็ก

ปทุมธานีทุกข์ชาวบ้านขอผู้ว่าสั่งปิดตายจุดพักขยะเทศบาลเมืองลาดสวายใกล้ รร.อนุบาลเด็กเล็ก
กรณีมีชาวบ้านร้องเรียนปัญหาการจัดเก็บขยะตกค้างของเทศบาลเมืองลาดสวาย จ.ปทุมธานีซึ่งได้ว่าจ้างเอกชนรายหนึ่งใน จ.อยุธยาเป็นผู้เก็บขนและลากขยะข้ามจังหวัดไปกำจัดที่ อ.บางไทร จ. อยุธยา

ผู้สื่อข่าวได้เข้าลงพื้นที่ตรวจสอบจุดพักขยะของเทศบาลเมืองลาดสวายประกฏว่าสภาพแทบไม่มีผนังกั้น ลม และฝนผ่านทะลุได้ ไม่ใช่โรงเรือนแบบปิด ไม่พบการฉีดEM น้ำยาดับกลิ่น และขยะบางส่วนยังกระจายออกมาด้านนอก และตั้งอยู่ห่างจากกับโรงเรียนอนุบาลลาดสวายเพียง 200 เมตรโดยประมาณ และห่างจากสำนักงานเทศบาลฯไม่ถึง 400 เมตร ผู้สื่อข่าวยังได้ทำการขอสัมภาษณ์ปลัดเทศบาลเมืองลาดสวาย แต่กลับได้รับคำตอบว่า “ผมไม่ให้สัมภาษณ์คุณ ผมจะรายงานจังหวัดเอง” ทางแหล่งข่าวได้เขาไปพบว่ามีการสร้างโรงเรือนเพื่อพักขยะที่จัดเก็บในแต่ละวันอยู่บริเวณเดียวกับเทศบาลเมืองลาดสวาย และอยู่ในความดูแลของเทศบาลฯ ซึ่งขยะมูลฝอยที่เก็บในแต่ละวันมีปริมาณกว่าร้อยตัน และมีการนำขยะขนออกไปกำจัดยังบ่อขยะบางไทร ในแต่ละวันส่งกลิ่นเหม็นเป็นช่วงเวลาต่อพื้นที่ชุมชนที่เป็นที่พักอาศัย

โดยเฉพาะจุดพักขยะปริมาณมหาศาลขนาดนี้ไม่สมควรที่จะตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงานเทศบาลเมืองลาดสวายซึ่งมีชาวบ้าน ประชาชนเข้าออกในแต่ละวันจำนวนมาก ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเทศบาลฯ ถึงประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา ทั้งยังน่าสังเกตุถึงการตั้งงบประมาณที่ทับซ้อนในเรื่องการเก็บขนขยะ และงบการนำขยะข้ามจังหวัดไปกำจัด พิจารณาถึงความจำเป็น ความเหมาะสม และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าสามารถกระทำได้หรือไม่ ทำไมไม่ให้เอกชนเก็บขนเสร็จแล้วนำไปกำจัดทันที จะไม่สร้างปัญหาให้กับชุมชม รร.อนุบาลฯ ขยะก็จะไม่ตกค้างในชุมชน ไม่เป็นมลพิษ ไม่มีน้ำชะล้างขยะปริมาณมหาศาลที่เกิดขึ้นรอให้บำบัดในแต่ละวัน แต่ทางเทศบาลฯกลับให้เอกชนมาใช้พื้นที่ในการพักขยะ และตั้งงบกำจัดขยะเพิ่มอีกทั้งที่อาจไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงเรือนพักขยะ และบำบัดน้ำเสีย รวมถึงกระทบกับพื้นที่ชุมชนโดยตรง จึงขอวอนมายังผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้พิจารณาสั่งเทศบาลให้ปิดจุดพักขยะของเทศบาลเมืองลาดสวาย ตรวจสอบความซ้ำซ้อนของการใช้งบประมาณในการกำจัดขยะ และเคร่งครัดกับเอกชนในปัญหาขยะตกค้างในแต่ละวัน

เชื่อว่าผู้ว่าฯ จะไม่ทิ้งประชาชนและลงมาตรวจสอบปัญหาด้วยตนเอง เพราะท่านเป็นที่พึ่งสุดท้ายของชาวบ้าน
ทั้งนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตุว่าขณะแหล่งข่าวลงถ่ายภาพมีกลุ่มคน รถหลายคัน และรถพ่วงทะเบียน 72-6221 สระบุรี มาจอดเปิดประตู 2 ข้างปิดกั้นทางออกรถของแหล่งข่าวทั้งที่เป็นที่ดิน ถนน ของเทศบาลฯ แสดงให้เห็นถึงการคุกคามของอิทธิพลในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป