พะเยา ไหว้พระขอพรพระสิงห์ 1- 2- 3 อายุ กว่า500 ปีลอดซุ้มใต้ฐานรับโชค
วันที่ 31สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีบรรดา ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างพื้นที่อำเภอดอกคำใต้จังหวัดพะเยาพากัน นำดอกไม้ธูปเทียน เข้ามากราบไหว้ขอพรรับโชคและลอดซุ้มใต้ฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปล้านนา หรือพระ สิงห์ 1-2-3 อายุ กว่า500ปี ภายในวิหารพระสิงห์วัดสว่างอารมณ์ตำบลสว่างอารมณ์ อำเภอดอกคำใต้จังหวัดพะเยา กันอย่างคึกคัก เพื่อมาขอพรรับโชค ก่อนพากันไปเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 กันยายน 2563
จากการสังเกตพบว่าได้มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวพากันเข้ามาจุดธูปเทียน กราบไหว้พระพุทธรูปสิงห์ 1- 2 -3 เพื่อขอพร หลังจากกราบไหว้ขอพรเรียบร้อยแล้วก็ได้พากันลอดซุ้มใต้ฐานพระสิงห์ 1- 2- 3 ที่ตั้งเป็นพระประธานในวิหาร เรียงกันระดับชั้น โดยมีพระประธานองค์ใหญ่ 1 องค์ตั้งเด่นสง่าอยู่ภายในวิหาร ซึ่งพระพุทธรูปทุกองค์ในวิหาร จะมีอายุกว่า500 ปี และเป็นที่สักการะเคารพนับถือของชาวจังหวัดพะเยาตลอดจนต่างจังหวัดและต่างประเทศด้วย ที่มีความเชื่อเมื่อมาขอพรก็จะได้สมดังความมุ่งมาดปรารถนา ตามที่ขอทุกครั้ง
สร้างความฮือฮากันไปทั่ววิหารพระสิงห์หลังจากที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวกราบไหว้ขอพรและลอดซุ้ม ใต้ฐานพระสิงห์ 1 -2- 3 แล้วทางพระครูพระครูกัลยาโณภาส เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ก็ได้นำวัตถุมงคลซึ่งเป็นเหรียญ พระพุทธรูปสิงห์ 1 นำมามอบให้กับบรรดานักท่องเที่ยวชาวบ้านคนละ 1 เหรียญ เพื่อความเป็นสิริมงคลปกปักรักษาคุ้มครอง เมื่อ ต่างคนต่างได้รับแล้วก็มาแกะออกจากซองพร้อมกับดูซีรีย์นัมเบอร์ของพระแต่ละองค์ ซึ่งมีเลข 3 ตัว ปั๊มติดไว้ ต่างพากันดู ตัวเลขดังกล่าวของแต่ละคนนำไปเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 กันยายน 2560 3 นี้กันอย่างคึกคัก โดยผู้ที่มาในนี้ถามบอกว่า เป็นบุญตาที่ได้เข้ามากราบไหว้พระพุทธรูปโบราณและได้รับโชค เพื่อนำไปเสี่ยงโชคได้อีกด้วย
สำหรับพระสิงห์ 1-2-3 เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะล้านนาเนื้อทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตัก 9 นิ้วตั้งวาง อยู่ในซุ้ม แท่นพระ ในวิหาร พระสิงห์ โดยองค์พระสิ่ง 1จะอยู่ด้านบนสุด สิงห์ 2 จะอยู่ด้านขวามือและสิงห์ 3 จะอยู่ด้านซ้ายมือและจะมีพระประธานสิงห์ 3 ซึ่งเป็น พระพุทธรูป องค์ใหญ่ เนื้อทองสัมฤทธิ์ตั้งเด่นสง่า เป็นพระประธาน พระพุทธรูปทั้งหมดมีอายุไม่ต่ำกว่า 500 ปี ที่ทางวัดได้เก็บรักษาไว้ เพื่อให้ผู้คนเข้ามากราบไหว้ขอพร ดังกล่าว
ภาพ/ข่าว โดย ลุงพงษ์ ลุ่มน้ำกว๊าน
