นนทบุรี ชายหนุ่มเครียดตกงานพาแฟนสาวซ้อนท้าย จยย.มาจอดกลางสะพานก่อนกระโดดสะพานลงเจ้าพระยาต่อหน้า โชคดีคนเรือพบเห็นช่วยรอดปาฏิหาริย์
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 31 ส.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีชายวัยรุ่นกระโดดจากสะพานพระราม 4 ลงไปกลางแม่น้ำเจ้าพระยาและสูญหาย จึงเร่งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบน.ส.สุนีย์ แจ่มใส่ อายุ 18 ปียืนรอเจ้าหน้าที่อยู่กลางสะพานพร้อมกับชี้จุดที่นายฤทธิไกร พันธ์สาย อายุ 25 ปีชาว กทม.เป็นแฟนหนุ่ม ที่กระกระโดดลงไปต่อหน้าต่อตาและสูญหายไปในน้ำ แต่ในระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบถามข้อมูลกับน.ส.สุนีย์ และรอชุดประดาน้ำของทางมูลนิธิร่วมกตัญญูเพื่อมาค้นหาอยู่นั้น มีพลเมืองดีแจ้งไปยัง สภ.ปากเกร็ด ว่ามีคนขับเรือโยงช่วยเหลือชายวัยรุ่น 1 คนไว้ได้ ซึ่งลอยคออยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้เร่งตรวจสอบพร้อมกับนำภาพถ่ายให้น.ส.สุนีย์ ที่อยู่กลางสะพานดูและยืนยันว่าเป็นนายฤทธิไกร แฟนหนุ่มที่กระโดดไปก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือนำตัวนายฤทธิไกร ที่อยู่ในสภาพอิดโรยให้การได้เพียงเล็กน้อยนำตัวส่ง ร.พ.ชลประทานปากเกร็ด
นายธรงค์ กลิ่นเจิญ อายุ 52 ปีคนขับเรือโยงเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าในระหว่างขับรถเรืออยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาได้ยินเสียงเรียกว่า ช่วยด้วย จึงได้พยายามมองหาที่มาของเสียงจนกระทั่งพบเห็นชายคนหนึ่งเกาะกองพักตบชวาลอยอยู่กลางน้ำจึงได้วนเรือกลับมาช่วยเหลือนำตัวขึ้นมาบนเรือพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้และนำตัวชายคนดังกล่าวมารอเจ้าหน้าที่บริเวณท่าเรือวัดกู้
น.ส.สุนีย์ แฟนสาวกล่าวว่าเพิ่งคบหากับนายฤทธิไกร ได้ไม่นานก่อนหน้านี้นายฤทธิไกร เคยเป็นคนงานติดรถส่งของแต่ก็มีเหตุทำให้ออกจากงานหลังจากนั้นมาเป็น รปภ.อยู่ระยะหนึ่งแต่พอทางบริษัทมารู้ว่านายฤทธิไกร มีโรคประจำตัวเป็นโรคลมชัก จึงได้ถูกเลิกจ้างทำให้ปัจจุบันตกงานไม่มีงานทำตัวแฟนหนุ่มเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งค่าห้องเช่า ค่ารถ จยย.ที่ต้องผ่อนรวมถึงค่ากินอยู่ กระทั่งวันนี้แฟนหนุ่มได้พาตนเองนั่งซ้อนท้ายรถ จยย.จากห้องที่อยู่ซอยพหลโยธิน 67 ออกมา โดยตอนแรกเข้าใจว่านายฤทธิไกร นั้นจะพาออกมากินข้าวแต่กับพาขับรถมาตามทางเรื่อยๆซึ่งตนเองพยายามสอบถามว่าจะไปไหนแต่นายฤทธิไกร ไม่ตอบ จนกระทั่งมาจอดรถ จยย.กลางสะพานพระราม 4 และลงจากรถ จยย.โดยไม่รีรอข้ามราวสะพานไปยืนอยู่นอกขอบสะพานก่อนที่จะทิ้งตัวลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาดังกล่าว น.ส.สุนีย์ ยังบอกอีกว่าก่อนนี้นายฤทธิไกร เคยบอกไว้ว่าจะมากระโดดสะพานฆ่าตัวตาย แต่ไม่คิดว่าจะทำจริง ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้มีการพูดคุยโทรศัพท์กับคุณแม่ของนายฤทธิไกร และทราบว่าบุตรชายป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากินยาและพบแพทย์รักษาตัวมาตลอดแต่ระยะหลังนี้บุตรชายไม่ได้ทานยามาระยะหนึ่งแล้ว และจากการตรวจสอบข้อมูลยังทราบว่าก่อนหน้านี้นายฤทธิไกร เคยพยายามก่อเหตุกระโดดสะพานลอยคนข้ามและเป็นข่าวมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 4 เดือนก่อน
ภาพ/ข่าว โดย ต้อง นนทบุรี