นนทบุรี จับสึกพระแอบอ้างวัดเจ้าคณะอำเภอ ปักหลักบิณฑบาต หลังชาวบ้านร้องสำนักพุทธ
วันที่ 23 ก.ย.65 พ.อ.บำรุง วิชาธร รอง ผอ.รมน.จังหวัด น.บ.(ท.) มอบหมายให้ ร.ท.ชโยดม หล่าแสนเมือง หน.ชรต.102 กอ.รมน.จังหวัด น.บ. พร้อมด้วย จนท.ชรต.102 กอ.รมน.จังหวัด น.บ. ร่วมบูรณาการกับ นาย คนึงกิจ พรหมนุชานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี และ จนท.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ ณ ตลาดสดท่าอิฐ ต.บางรักน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีเรื่องร้องเรียนผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี โดยแจ้งว่ามีพระสงฆ์นั่งปักหลักบิณฑบาตบริเวณภายในตลาดสดท่าอิฐ ต.บางรักน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยอ้างว่าตนสังกัดวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ และมีพฤติกรรมชอบพักอาศัยอยู่ที่บ้านไม่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัด จึงเกรงว่าจะเป็นพระปลอมจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบพระสงฆ์นั่งปักหลักบิณฑบาตรภายในตลาดสดท่าอิฐ จำนวน 4 รูป จริง คือ 1. พระภัทรพล โอภาโส สังกัด วัดบางรักใหญ่ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 2. พระสันติ จันทูปโม สังกัด วัดบางรักใหญ่ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 3. พระทิม ธัมมพินโน สังกัด วัดแสงสิริธรรม ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 4. พระพัฒนพงศ์ ปิยธัมโม สังกัด วัดห้วยยางดง ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พระสงฆ์ทั้ง 4 รูป ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสมณสารูปโดยนั่งปักหลักบิณฑบาตอยู่หน้าร้านขายอาหารใส่บาตรของแม่ค้าซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดพระธรรมวินัย เจ้าหน้าที่จึงได้นิมนต์พระสงฆ์ทั้ง 4 รูป ให้ไปพบกับ พระมหาอานนท์ จันทวังโส เจ้าอาวาสวัดบางนา, เจ้าคณะตำบลบางรักน้อยและพระวินยาธิการ เพื่ออบรมว่ากล่าวตักเตือน และทำภาคทัณฑ์ไว้ ทั้งนี้พระสงฆ์ทั้ง 4 รูป ยอมรับว่าได้ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสมณสารูปตามที่มีเรื่องร้องเรียนจริง
ในส่วนของ พระพัฒนพงศ์ ปิยธัมโม ที่แอบอ้างว่าตนสังกัดอยู่วัดแจ้งศิริสัมพันธ์นั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี ได้ตรวจสอบกับเจ้าอาวาสวัดแจ้งศิริสัมพันธ์และเจ้าคณะอำเภอเมืองนนทบุรี แล้ว ปรากฏว่า พระพัฒนพงศ์ ปิยธัมโม ไม่ได้สังกัดวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ และไม่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดแต่อย่างใด แต่สังกัดอยู่ที่วัดห้วยยางดง ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ และกลับมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตนเองในพื้นที่ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ไม่ยอมไปจำพรรษาอยู่ที่วัด และเคยประพฤติตนไม่เหมาะสมแบบนี้ทั้งเสพยาเสพติดจนต้องให้ลาสิกขามาแล้ว 1 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ดังนั้น พระมหาอานนท์ จันทวังโส เจ้าอาวาสวัดบางนา,เจ้าคณะตำบลบางรักน้อย และพระวินยาธิการ จึงเห็นควรให้ พระพัฒนพงศ์ ลาสิกขาจากเพศบรรพชิต เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างของพระสงฆ์อีกต่อไป