หนุ่มใหญ่สุดช้ำร้องสื่อโจรขึ้นบ้านฉกทรัพย์สินไปครึ่งล้านผ่านไปเกือบเดือนคดีไม่คืบ
วันที่ 1 ตุลาคม 2565
เวลา 19.30 น.
หนุ่มใหญ่อาชีพขับรถรับจ้างสุดช้ำใจ โจรขึ้นบ้านฉกทรัพย์สินที่ทำมาหาเก็บไว้เกือบทั้งชีวิต รวมเป็นเงินทั้งสินเกือบครึ่งล้านบาทหลบหนีไปอย่างลอยนวลไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้แล้วที่ สน.บางมด แต่ผ่านไปเกือบเดือนคดีไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งได้เห็นจากช่องข่าวว่าเมื่อไม่นานมานี้ มีโจรรมยาคนงานก่อสร้าง ก่อนฉกมือถือคนงาน 3 เครื่อง แถวซอยจรัญสนิทวงศ์ ซอย 3 จึงคาดว่าเป็นพฤติการณ์ของคนร้ายนั้นเหมือนกับที่ตนเองโดนเพราะคืนที่โจรขึ้นบ้านฉกทรัพย์สินไปนั้นไม่มีใครรู้ตัวหลับสนิทกันทั้งบ้าน
นาย แดง ศรีสว่าง อายุ 63 ปี อาชีพขับรถรับจ้าง พร้อมลูกสาว น.ส.มาลินี ศรีสว่าง อายุ 38 ปี พนักงานโรงงาน เปิดเผยถึงเหตุการณ์สุดช้ำใจเงินเก็บของครอบครัวถูกโจรร้ายฉกไป แล้วผ่านมาเกือบเดือนคดีกับเงียบไร้วี่แววว่าจะจับคนร้ายรายนี้ได้ แต่มาเอะใจเมื่อดูข่าวแล้วเห็นว่าพฤติการณ์เหมือนกันมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ที่ซอยจรัญฯซอย3 ก็เลยคาดว่าหรือจะโดนพ่นยาสลบเหมือนกัน เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านพักอาศัยเลขที่ 112/322 ซอย รัตนกวี ( พระรามสองซอย 28 แยก 9 ) ถนน พระรามที่สอง แขวง จอมทอง เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้นแบ่งเป็นห้องให้เช่า เหตุเกิดภายในบริเวณห้องพักของตนเองบริเวณชั้นที่ 1 ย้อนไปเมื่อค่ำคืนของวันที่ 23 กันยายน 2565 เวลา 23.30 น. ได้มีคนร้ายย่องเข้ามาภายในห้องพักอาศัยของตนเองโดยที่ภายในห้องคืนนั้นมีคนที่นอนอยู่ด้วยกันถึง 7 คน โดยภายในห้องยังมีผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่อีก 1 คน และมีนกที่เลี้ยงเอาไว้ 2 ตัว และ แมวเพศเมีย 1 ตัว แต่ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงกลับหลับสนิทโดยไม่มีใครรู้ตัวเลย ทั้งๆที่ปกติแล้วผู้ป่วยติดเตียงซึ่งเป็นผู้สูงอายุจะนอนร้องครวญครางทั้งคืน สัตว์เลี้ยงอย่างเช่น นกที่เลี้ยงเอาไว้ก็จะส่งเสียงร้องตลอดเวลา และแมวที่บอกได้เลยว่าเป็นแมวที่ค่อนข้างจะดุเมื่อคนแปลกหน้าเดินเข้าไปภายในบ้านก็จะกัดทันที แต่คืนวันเกิดเหตุนั้นกลับเงียบสนิทหลับสนิทกันทั้งคืนมารู้ตัวตื่นอีกทีตอนช่วงเวลา 03.30 น. ถึงรู้ว่าทรัพย์สินนั้นได้หายไปแล้วหลายรายการ และกระเป๋าที่เก็บทรัพย์สินนั้นก็กระจัดกระจายอยู่บนพื้นห้อง ส่วนใบที่ใส่พระเลี่ยมทองและเงินจำนวนนึงได้ถูกโจรนำไปหมกเอาไว้หน้าห้องน้ำของบ้านอีกหลังโดยใช้ผ้าสีแดงคลุมทับเอาไว้อีกทีนึง เมื่อเช็คทรัพย์สินที่หายไปแล้วพอเวลา 08.02 น. ของวันที่ 24 กันยายน 2565 จึงพากันไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ที่ สน.บางมด ส่วนทรัพย์สินที่หายไปมี ล๊อตตารี่ ฉบับลงวันที่ 1 ตุลาคม 2565 หมายเลขดังนี้ 783652 จำนวน 2 ใบ หมายเลข 755925 จำนวน 2 ใบ หมายเลข 520924 จำนวน 2 ใบ หมายเลข 562442 จำนวน 2 ใบ หมายเลข 843345 จำนวน 2 ใบ และหมายเลข 582654 จำนวน 2 ใบ ( 2ใบหลังมีระบุงวดที่ 38 ชุด 03 ) พระเครื่องเลี่ยมทอง จำนวน 7 องค์ น้ำหนักทองแต่ละองค์ไม่เท่ากัน มีแหวนพระ 1 วง ซึ่งเป็นทองคำแท้น้ำหนัก 1 บาท แล้วยังมีเงินสดอีก ประมาณ 6,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และทางเจ้าพนักงานสอบสวน สน.บางมด ร.ต.อ. กนกพล ไกรราม รอง สว.(สอบสวน) ได้รับแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สอบถามจากนาย แดง ศรีสว่าง อายุ 63 ปี พร้อมลูกสาว น.ส.มาลินี ศรีสว่าง อายุ 38 ปี บอกว่า วันเกิดเหตุตนเข้าบ้านนอนประมาณ 4 ทุ่มขึ้น จุดที่ตนนอนจะเป็นบริเวณหน้าบ้านประตูเหล็กก็จะเลื่อนปิดเหลือประมาณ 50 เซนติเมตร เผื่อไว้มองรถจักรยานยนต์ของลูกเขยและหลานชายที่เพิ่งซื้อมาใหม่ แล้วก็จะมีนกที่เลี้ยงในกรงไว้ 2 ตัวอยู่บนโต๊ะข้างแคร่ที่ตนนอน ส่วนแมวก็จะนอนอยู่ใกล้ๆตนนี่แหละ ส่วนด้านหลังตู้ก็กั้นเป็นห้องให้ภรรยาตนนอนที่เตียง ถัดไปห้องกลางจะเป็นห้องคนแก่ กับลูกสาวที่นอนเฝ้า และหลานชาย 2 คน ส่วนห้องด้านในสุดจะเป็นห้องลูกเขย โดยปกติ กลางดึก ตนจะเป็นคนตื่นง่าย เสียงอะไรแก๊กนึงก็ตื่นแล้ว แล้วคนแก่ก็ป่วยจะนอนไอ และร้องเรียกตลอด ยิ่งนกที่อยู่ใกล้ตนนะ แมวเดินผ่าน หรือมีอะไร ก็จะกระพือปีก ส่งเสียงร้องตลอด แต่คืนนั้นเงียบสนิท กันทั้งบ้าน ไม่ได้ยินเสียงหรือรู้สึกตัวอะไรเลย จนมากระทั่งตอนตี 3 ซึ่งตนจะตื่นเป็นประจำทุกวัน พอตนรู้สึกตัว ตนจะคว้าหยิบโทรศัพท์ที่หัวนอนมาดูนาฬิกา แล้วจะหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องนึงที่ชาร์จไว้ แต่ตนหาไม่เจอ จึงลุกไปเปิดไฟหา แต่ไม่เจอเลยสักเครื่องนึง โทรศัพท์มี 3 เครื่องอยู่บนหัวนอน เหลืออยู่เครื่ิองเดียว จากนั้นตนจึงตะโกนเรียกภรรยาตนว่าได้เอาโทรศัพท์ไปมั่ย ภรรยาตนก็บอกว่า ไม่ได้เอาไป จึงให้ถามหลานว่าหยิบไปเล่นเกมส์หรือป่าว หลานก็ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ออกมาหยิบ จึงเรียกตื่นมาตรวจสอบสิ่งของกัน ปรากฎว่า กระเป๋าสะพายที่แขวนอยู่หัวนอนตนก็หายไปด้วย ส่วนของภรรยากระเป๋าสะพายที่แขวนที่หัวเตียงก็หาย แต่มาเจอกระเป๋าเปล่าวางอยู่ข้างโต๊ะที่ตั้งอยู่หน้าประตูทางออก ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ระหว่างที่คุย ตนปวดท้องจึงให้ลูกสาวคุยแทนแล้วตนก็เดินไปเข้าห้องน้ำด้านหลัง พอตนเสร็จธุระออกจากห้องน้ำมา สังเกตุเห็นผ้าคลุมรถสีแดงกองอยู่ที่พื้น คนจึงจะหยิบขึ้นมาคลุมรถตามเดิม แต่ปรากฎว่า พอหยิบผ้าขึ้นมาก็พบกระเป๋าสะพายของตน ตนจึงคลุมปิดตามเดิม แล้วออกมาแจ้งกลับเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์ต่อ แล้วออกไปแจ้งความที่ สน. พอกลับบ้านมา ตำรวจก็ตามมา ถ่ายรูปและตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดที่มีและทรัพย์สินที่หายไปว่ามีอะไรบ้าน แล้วตำรวจก็เก็บกล้องวงจรปิดและเมมโมรี่การ์ดไปตรวจสอบ และนัดให้ตนไปที่ สน.ในวัดถัดไป หลังจากวันเกิดเหตุ ตนได้ดูข่าว ก็มีข่าวว่า มีเหตุการณ์คล้ายๆแบบที่ตนโดน คือ เค้าโดนรมยา คนในบ้านหลับสนิทกันหมด แม้แต่สุนัข ตนจึงเอะใจว่า เหตุการณ์มันคล้ายๆกันเลย ตนจึงอยากจะออกมาเตือนภัยและอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคดีให้ตนได้ทรัพย์สินคืนในเร็ววัน หลังจากวันนั้น ก็มีคนมาเดินหน้าบ้านอีกประมาณ 2 ครั้ง เพราะหลานตนยังไม่นอน แล้วได้ยินเสียงสัญญาณกันขโมยที่ติดไว้ที่รถดัง หลานจึงออกมาก้มดูเห็นเป็นขาคนยืนอยู่ แต่พอ สัญญาณดัง คนร้ายก็วิ่งหนีไป พออีกวันนึง ลูกเขยนอนดึก พอได้ยินเสียงสัญญาณดังอีก ก็รีบวิ่งออกทางประตูหลังออกมาก็ไม่พบใครเลย จึงจะฝากเตือนภัยให้ระวังกัน ว่าตอนนี้มีกลุ่มคนร้ายใช้วิธีรมยาแบบนี้ คือคนในบ้านแม้กระทั่งสัตว์ที่เลี้ยงไว้ก็จะหลับสนิทกันหมด ทำให้คนร้าย เข้ามาขโมยทรัพย์สินมีค่าไปได้ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็แจ้งว่า เมมบันทึกดูได้แค่เดือน 2 คือเดือนกุมภาพันธ์ แต่ระหว่างก่อนหน้านี้ คือตนดูจากโทรศัพท์มือถือได้อยู่ แต่โทรศัพท์เครื่องที่ดูได้นั้น คนร้ายได้ขโมยไปด้วย ตนจึงคิดว่า คนร้ายอาจจะไปลบข้อมูลในมือถือ หรือเปล่า ทำให้ดูข้อมูลปัจจุบันไม่ได้
เบื้องต้น นาย แดง ยังเปิดเผยอีกว่า หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืนนั้นแล้วตนเองคาดว่ายังเห็นคนร้ายมาด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้านอีก 2 ครั้งและสิ่งที่ห่วงที่สุดก็ความปลอดภัยของคนภายในบ้านจนกระทั่งทุกวันนี้ต้องส่งผู้ป่วยติดเตียงซึ่งเป็นผู้สูงอายุไปไว้ที่โรงพยาบาลที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยส่งภรรยาของตนไปดูแลที่โรงพยาบาลด้วย ส่วนทรัพย์สินที่เหลือก็ยังมีรถจักรยานยนต์ อีก 2 คันซึ่งเป็นรถใหม่ที่จอดเอาไว้หน้าห้องพัก และรถซูบูลุ ที่ใช้ขับทำงานรับส่งผู้โดยสารก็จอดอยู่หน้าห้องพักดังกล่าวด้วยเช่นกัน จึงอยากจะขอวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยจับโจรรายนี้มาดำเนินการตามกฎหมายให้ได้เพราะทุกวันนี้ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงและหวาดกลัวมาก
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.