นนทบุรี ผู้ว่านนท์ประกาศภัยพิบัติแล้วชาวเกาะเกร็ดเตรียมย้ายของหนีน้ำ คาดสูงเท่าปี 2554
จากกรณีวันนี้ ( 7ต.ค.65 ) นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจ.นนทบุรี ได้มีประกาศจังหวัดนนทบุรี ฉบับที่ 1 / ปีงบประมาณ 2566 “เรื่อง เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(อุทกภัย) ในพื้นที่อำเภอปากเกร็ด “ ด้วยได้เกิดเหตุ อุทกภัย สาเหตุจากพายุ “โนรู” กอปรกับภาวะฝนตกหนัก และฝนตกสะสมต่อเนื่อง ส่งผลให้มีน้ำไหลหลากผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.30 -0.60 เมตร ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ในพื้นที่อำเภอปากเกร็ด เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 เวลา 17.00 น.ซึ่งภัยดังกล่าวเป็นสาธารณภัย/ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน บ้านเรือนพื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์ และความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อประโยชน์ในการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เร่งด่วน อาศัยอำนาจตามความ ข้อ 20 วรรคสามของระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 ประกอบกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธรณภัยแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้อำนวยการจังหวัด จึงประกาศให้พื้นที่ดังต่อไปนี้
1.หมู่ที่ 1 – 5 ตำบลบางพลับ 2.หมู่ที่ 1 – 10 ตำบลท่าอิฐ 3.หมู่ที่ 1 – 7 ตำบลเกาะเกร็ด 4.หมู่ที่ 1 – 6 ตำบลอ้อมเกร็ด 5.หมู่ที่ 1 – 6 ตำบลคลองพระอุดม 6.หมู่ที่ 1 – 5 ตำบลบางตะไนย์ 7.หมู่ที่ 1 – 12 ตำบลคลองข่อย เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้ส่วนราชการหน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 แผนการป้องกันและกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว และดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 3 เดือน นับแต่วันที่เกิดภัยประกาศ ณ วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2565
สำหรับพื้นที่ทั้ง 7 ตำบล มีผู้ประสบสาธารณภัยจำนวน 7,099 ครัวเรือน แบ่งเป็น ตำบลท่าอิฐ 2,335 ครัวเรือน ตำบลเกาะเกร็ด 1,678 ครัวเรือน ตำบลบางตะไนย์ 1,264 ครัวเรือน ตำบลคลองพระอุดม 980 ครัวเรือน ตำบลอ้อมเกร็ด 508 ครัวเรือน ตำบลบางพลับ 260 ครัวเรือน และ ตำบลคลองข่อย 74 ครัวเรือน
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00น.วันที่ 7 ต.ค.65 หลังจากนายนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีได้ประกาศ อ.ปากเกร็ด 7 ตำบล เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่ตำบลเกาะเกร็ด แหล่งท่องเที่ยวที่ถูกน้ำท่วมสูงเกือบทุกปี ซึ่งเป็นตำบลที่ทางจังหวัดนนทบุรีได้ประกาศเป็นภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(อุทกภัย) พบว่าหมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 ที่ลุ่มต่ำยังคงมีน้ำท่วมสูงถึงเอว ส่วนพื้นถนนน้ำท่วมสูงถึงหัวเข่า ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำ รถจยย.ไม่สามารถวิ่งได้ต้องใช้เรือพาย บางครอบครัวต้องย้ายของหนีน้ำขึ้นที่ขึ้นสูงถึง 3 ครั้งยังไม่พ้นต้องปล่อยให้จมน้ำเสียหาย
จากการสอบถามนางวรรณนา ไพรสว่าง อายุ 56 ปี แม่บ้าน (เสื้อสีฟ้าขาว)
กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ว่าประกาศเป็นภัยพิบัติ น้ำจะมาอีกประมาณ 15-20 cm ตนคงรับมือไม่ไหวแน่ ไม่รู้จะเอาอะไรมาหนุนของขึ้นที่สูง ของเล็กๆน้อยๆยังพอย้ายได้ ส่วนพวกตู้เย็นหรือเตียงนอน ไม่สามารถย้ายไปไหนได้ เสียหายแน่นอน คงต้องปล่อยให้น้ำท่วม ถ้ามาประมาณเท่านี้ยังพอรับได้ ถ้ามากกว่านี้อย่างที่ผู้ว่าประกาศ คงไม่ไหว ปีนี้คิดว่าน้ำจะน้อยแต่กลับมากกว่าปีที่แล้ว ต้องคอยนั่งดูน้ำทุกวัน ว่าจะท่วมมากน้อยแค่ไหน ตอนนี้ได้แต่นั่งมองที่นอน เพราะถ้าน้ำมาอีก คงต้องปล่อยให้จมน้ำ พรุ่งนี้จะหนุนตู้เย็นขึ้นสูงแต่ก็กลัวบ้านจะทรุดไม่คุ้มกันบ้านใกล้ๆกำแพงบ้านระเบิดยังไม่ได้ซ่อมต้องไปนอนที่ศาลาวัด
นายเนียน จวงปากเกร็ด อายุ 44 ปี (เสื้อสีแดง) อาชีพรับจ้าง กล่าวว่า ถ้าน้ำมาอีกอย่างที่ทางจังหวัดนนท์ประกาศ ตนคงต้องเก็บของขึ้นที่สูงกว่านี้ ถ้าไม่ทันคงต้องไปจม แต่ที่กังวลคือปลั๊กไฟ ถ้าไม่ได้อยู่บ้านน้ำขึ้นสูงกลัวไฟจะดูด ที่กลัวอีกอย่างคืองูและตะขาบ จะเข้ามาแฝงตัวอยู่ตามร่องกำแพงบ้าน ถ้าไม่ระวังอาจจะโดนงูกัดหรือโดนตะขาบต่อยได้
นายสัมพันธ์ อนุรักษ์สกุล อายุ 35 ปี (เสื้อสีน้ำตาล) เจ้าของร้านขายของชำกล่าวว่า ถ้าน้ำขึ้นมาอีก ตนคงลำบากเนื่องจากตู้ แช่น้ำอัดลมมีหลายตู้ มีน้ำหนักเยอะ ยกไม่ไหวคงต้องปล่อยจมน้ำปีนี้น้ำมากกว่าปีที่แล้ว
น.ส.ปอ กล่าวว่า หลังผู้ว่าประกาศตนได้เตรียมความพร้อมมากกว่าเดิมตอนแรกเตรียมไว้ระดับหนึ่ง พอน้ำมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้วยิ่งมีประกาศแบบนี้ ตนเลยหนุนของขึ้นสูงเท่าปี 54 โชคดีที่บ้านของตนยังสูงกว่าบ้านอื่น แต่เดินเข้าออกลำบาก และทำมาหากินยากขึ้น
สาโรจน์ สว่างศรี /นนทบุรี