ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวอุบัติเหตุ

ร้อยเอ็ด – รถกู้ชีพแคนใหญ่ เสียหลักพลิกตะแคงข้าง ผู้ป่วยสาหัสอายุ 80 ปี ทรุด ผู้ติดตามเจ็บเพิ่ม

ร้อยเอ็ด รถกู้ชีพ อบต.แคนใหญ่ เร่งนำผู้ป่วยสาหัสส่ง หักหลบจักยาน เสียหลักพลิกตะแคงข้าง ผู้ป่วยเจ็บหนัก ผู้ติดตามเจ็บเพิ่ม รวม 2 ราย

ชมคลิป

https://youtu.be/ilo2UFJ3eVE

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 10 กันยายน 2563 ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ของ หน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบลแคนใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ประสบอุบัติเหตุเสียหลักพลิกตะแคงจนทำให้ ผู้ป่วยสาหัส อายุ 80 ปี ที่กำลังจะนำส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด รวมถึงญาติผู้ป่วยที่ติดตามมาด้วยได้รับบาดเจ็บเพิ่ม ที่เกิดเหตุบริเวณบ้านหนองม่วง หมู่ 11 ตำบลแคนใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด

จากเหตุการณ์ดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง สิบเอกสำราญ เพชรแสน เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชำนาญงาน อบต.แคนใหญ่ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น สิบเอกสำราญได้เล่าว่าทางศูนย์กู้ชีพ อบต.แคนใหญ่ ได้รับแจ้งจากศูนย์สั่งการ 1669 ให้ออกตรวจสอบผู้ป่วยติดเตียง มีอาการเหนื่อยหอบ ชื่อนายดาวเรือง ศิริเวช อายุ 80 ณ บ้านเลขที่ 64/1 หมู่11 ตำบลแคนใหญ่อำเภอเมือง ภายหลังรับแจ้งเหตุจึงจัดรถกู้ชีพ กะบะโตโยต้า สีขาว ทะเบียน กค 8942 ร้อยเอ็ดอ 06.50 น. ซึ่งภายหลังจากเจ้าหน้าที่กู้ชีพไปถึงบ้านที่เกิดเหตุจึงรีบเคลื่อนย้ายผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ดแต่ในระหว่างทางผู้ป่วยมีชีพจรต่ำมากจนต้องร้องขอรถกู้ชีพจากโรงพยาบาลร้อยเอ็ดมาสนับสนุนเพื่อรับช่วงต่อซึ่งมีการติดต่อสื่อสารกันทางวิทยุสื่อสารเพื่อนัดแนะกันเปลี่ยนถ่ายคนป่วยในบริเวณ ถนนเมืองสรวง-สุวรรณภูมิ แต่เมื่อรถขับมาถึงเขตบ้านหนองม่วง หมู่ 11 ซึ่งเป็นทางโค้ง ก็มีรถจักรยานจอดอยู่ข้างทางผู้ขับขี่รถกู้ชีพจึงได้หักหลบรถจักรยาน จนทำให้รถเสียหลักเกือบจะชนเสาไฟฟ้า ในระหว่างนั้น ผู้ขับขี่รถกู้ชีพ จึงตัดสินใจเลือกหักหลบใมาอีกทางให้รถลงมาในนาข้าวแทนและรถก็พลิกคว่ำตะแคงข้างดังกล่าวตรวขอบสระน้ำ

 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทางองค์การบริหารส่วนตำบลแคนใหญ่ จะดูแลรับผิดชอบกับผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายอย่างไรบ้าง สิบเอก สำราญ ได้กล่าวว่าขณะนี้ฝ่ายบริหารของ องค์การบริหารส่วนตำบลแคนใหญ่ กำลังประชุมเพื่อหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย แต่ยังไม่ทราบผลซึ่งขณะนี้ตนได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ในเบื้องต้นก่อนแล้ว

ในส่วนของรถกู้ชีพคันที่ประสบอุบัติเหตุนั้นมีเจ้าหน้าที่จำนวน 2 คน คือ นายวิเชียร มงคลแก่นทราย อายุ 60 ปี ( คนขับ ) ผ่านการอบรมระดับ FR และ นายวิชาญ วงศ์คำ อายุ 42 ปี ผ่านการอบรมระดับ EMR สิบเอกสำราญ ได้กล่าวว่าปกติแล้วรถกู้ชีพจะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในครั้งนี้ผู้ป่วยมีอาการหนักจึงใช้ความเร็วที่ 80 เพื่อที่จะรีบส่งต่อให้กับรถกู้ชีพของโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งก็อยากจะขอความเห็นใจถึงชาวโซเชียลที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ในครั้งนี้ ต้นอยากขอความเห็นใจให้กับเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ราย เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็เป็นเหตุสุดวิสัยไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นและผู้ขับขี่ก็ตัดสินใจหักลงในนาข้าวเพื่อเซฟคนบนรถได้อย่างดีที่สุดแล้ว

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางลำไย ศิริเวช อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ของนายดาวเรือง ศิริเวช ผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุบนรถ จึงทราบว่านางลำใย ได้นั่งรถไปกับกู้ชีพเพื่อพานายดาวเรือง ไปส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งภายหลังจากเกิดอุบัติเหตุก็มีอาการฟกช้ำตามร่างกายบริเวณแขนขาทั้งสองข้าง รวมถึงต้นคอ ซึ่งขณะนี้ญาติของผู้ขับขี่รถกู้ชีพคันดังกล่าวได้พานางลำใย ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด และทางโรงพยาบาลก็ให้ยากลับมาทาน ผู้สื่อข่าวจึงถามกับนางลำไยว่า มีใครติดต่อมาสอบถามข้อมูลหรือพูดคุยในเรื่องราวที่เกิดขึ้นบ้างหรือยัง
นางลำใยเล่าว่าขณะนี้ยังไม่มีใครเข้ามาสอบถามและพูดคุยแต่อย่างใดมีเพียงผู้สื่อข่าวเท่านั้นซึ่งตนรู้สึกตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากแต่ห่วงนายดาวเรืองมากกว่าเพราะมีอาการหนักกว่าเดิมซึ่งก็ต้องรอดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลต่อไป

บิ๊กบัง ภูซาง / ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ ทั่วไทยนิวส์ รายงาน โทร. 0990505989