ข่าวทั่วไป

พิษณุโลก – กองทัพภาคที่ 3 ประชุมประสานแนวทางการป้องกันไฟป่า 17 จังหวัดภาคเหนือ ปี 66

พิษณุโลก – กองทัพภาคที่ 3 ประชุมประสานแนวทางการป้องกันไฟป่า 17 จังหวัดภาคเหนือ ปี 66
ผนึกกำลังทุกภาคส่วน ภายใต้กรอบรัฐบาล
สื่อสารเชิงรุก ยกระดับการปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วม
พล.ท.สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ ประจำปี 2566 ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ ผ่านระบบการประชุมทางไกล ณ ห้องประชุมคชรัตน์ 1 กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก


ตามที่ รัฐบาลได้มอบนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือ ปี 2566 และมอบหมายให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องนำนโยบายปสู่การปฏิบัติ กองทัพภาคที่ 3 ได้ดำเนินการจัดตั้ง ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2565 ถึง 30 เมษายน 2566 เพื่อสนับสนุน ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองระดับจังหวัด ตามสถานการณ์ของปัญหา พร้อมให้จังหวัดบริหารงาน แบบ Single Command โดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ บูรณาการหน่วยงานแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยให้ทุกจังหวัดนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย ถูกต้องและเชื่อถือได้ ซึ่งกำหนดเป้าหมายสำคัญ 6 ดอย 19 รอยต่อ โดยให้หน่วยทหารในพื้นที่วางแผนบูรณาการการใช้กําลังและการฝึกตามวงรอบประจำปีในพื้นที่เป้าหมายสำคัญในพื้นที่ที่เกิดไฟป่าซ้ำซาก ผ่านการภารกิจการลาดตระเวนป้องปราม, สร้างความรับรู้แบบเคาะประตูบ้าน และการสนับสนุนชุดปฏิบัติการดับไฟป่าของส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงการบูรณาการอากาศยานจากทุกหน่วยงาน กำลังพล เสือไฟ เหยี่ยวไฟ จิตอาสาภัยพิบัติ ชาวบ้านร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่
สำหรับในปีนี้สภาพภูมิอากาศมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เป็นปัจจัยทำให้เกิดปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง อาจจะมีแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจกันในการป้องกันและแก้ไขให้ได้โดยเร็ว
โดยมียุทธศาสตรการจัดการเชื้อเพลิงและเพิ่มความชุ่มชื้น พร้อมจัดทำแผนปฏิบัติการในทุกระดับ ที่เน้นการป้องกันแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุลดการเผาในทุกพื้นที่ โดยใช้แนวทางการบริหารจัดการอันประกอบด้วย ระบบบัญชาการเหตุการณ์ ,การกระจายข่าวสารพร้อมความรู้ การจัดการเชื้อเพลิง และการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 3 พร้อมที่จะสนับสนุนกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาในทุกพื้นที่ ตามที่ได้รับการประสานอย่างเต็มขีดความสามารถบนหลักการ สื่อสารเชิงรุก ยกระดับปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วม
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าว