จงอางศึกแอบติดตั้งสัญญาณกันขโมยตามป่าปรับกลยุทธ์ตรวจจับต่างด้าวนำโควิดลักเข้าเมือง พร้อมติดสปอร์ตไลท์เพิ่มช่องทางธรรมชาติ
ฉก.จงอางศึกร่วมหน่วยงานความมั่นคง ติดตั้งสัญญาณกันขโมยตามป่า ติดสปอร์ตไลท์ส่องสว่าง พร้อมขึงลวดหนามช่องทางธรรมชาติชายแดนไทยเพิ่ม 7 จุด และเดินลาดตระเวนตรวจซ้ำทั้งกลางวันกลางคืน
วันที่ 10 ก.ย.63 พันเอกธีรยุทธฑ์ เส้งรอด รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ เปิดเผยว่า ได้นำกำลังพลเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) ที่ 145-146 ฝ่ายปกครอง จนท.อาสารักษาดินแดนจังหวัดประจวบ(อส.จว.) อส.อำเภอ จนท.ป่าไม้ จนท.อุทยานแห่งชาติป่ากุยบุรี จนท.ชป.ป่าละอู พร้อมด้วยผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งสปอร์ตไลท์ส่องสว่างชนิดใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ขนาด 200 วัตต์ ตามจุดช่องทางธรรมชาติต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นผู้กระทำผิดในระยะไกล และแอบติดตั้งสัญญาณเตือนกันขโมยตามจุดต่างๆภายในป่าที่คิดว่าต่างด้าวใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนีเข้าเมืองและขนสิ่งของผิดกฎหมาย เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจจับและรู้ตำแหน่งผู้กระทำผิดได้เร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันทำแนวกั้นวางขึงลวดหนามชนิดหีบเพลงที่บริเวณช่องทางธรรมชาติเพิ่มเติมอีก 7 จุด ประกอบด้วย 1.ช่องสิงขร ม.6 ต.คลองวาฬ 2.ช่องชุมนุมมะละกอ ม.5 ต.อ่าวน้อย 3.ช่องหัวเขา ม.5 ต.อ่าวน้อย 4.ช่องวังเป้า ม.12 ต.อ่าวน้อย 5.ช่องสิบศพ ต.เกาะหลัก 6.ช่องคลองอีนง อ.กุยบุรี และ 7.ช่องหุบมะกรูด อ.กุยบุรี เพื่อเป็นการป้องกันบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และนำพาโรคไวรัสโคโรน่า 2019 เข้าประเทศ รวมไปถึงการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาภายในประเทศด้วย
ซึ่งขณะนี้ในเขตอำเภอเมืองประจวบตรงข้ามกิ่งอำเภอมูด่อง จังหวัดมะริด ประเทศเมียนมาร์ ได้ดำเนินการวางลวดหนามปิดไปแล้วจำนวน 10 ช่องทาง ประกอบด้วยช่องทางหลักตามบัญชีที่ระบุไว้จำนวน 6 ช่อง และช่องทางธรรมชาติสายรอง จำนวน 4 ช่อง
พันเอกธีรยุทธฑ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยหลังจากที่ได้มีการวางขึงลวดหนามเสร็จแล้วจะได้จัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.)เฝ้าประจำจุดช่องทางธรรมชาติหลักๆที่บุคคลต่างด้าวนิยมลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.เป็นกำลังหลักประจำชายแดน และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมีปริมาณจำกัด จะใช้วิธีการจัดชุดเดินลาดตระเวนซ้ำอีก 1 ชั้น ตามจุดต่างๆที่เป็นช่องทางธรรมชาติสายรองตลอดแนว ซึ่งในขณะนี้พบว่ามีความพยายามที่จะเปิดช่องทางธรรมชาติเส้นทางแห่งใหม่อยู่เรื่อยๆ เนื่องจากช่องทางที่ใช้เดินประจำถูกเจ้าหน้าที่นำลวดหนามไปขึงปิดไว้ และคอยเฝ้า แต่ถึงเปิดช่องทางใหม่ก็จะนำลวดหนามตามไปขึงปิดให้หมดทุกช่องเช่นกัน ทั้งนี้บุคคลต่างด้าวจะลักลอบหลบหนีเข้าเมืองไม่ได้หากไม่มีนายหน้าคนไทยรู้เห็นเป็นใจมาคอยโทรประสานนัดแนะและมารับนำพาหลบหนีไป จึงอยากฝากถึงผู้ที่กระทำผิดขอให้นึกถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก อย่าเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว เนื่องจากประเทศพม่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวนมาก และสามารถที่จะแพร่เชื้อเข้ามาสู่ประเทศไทยได้ตลอดเวลาหากทุกคนไม่ช่วยกัน และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม พันเอกธีรยุทธฑ์ กล่าว
พิสิษฐ์ รื่นเกษม /ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทร 099 3396 4 4 4