ข่าวทั่วไป

สงขลา – เรือภัทรพัณณ์เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลาสงขลา บริษัทที่รับจ้างกู้เรือระดมรถแม็คโฮร์และเรือแม็คโฮร์เข้ามาทำการขุดทรายด้านข้างเรือออกเพื่อให้น้ำทะเลเข้ามาแทนที่

เรือภัทรพัณณ์เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลาสงขลา บริษัทที่รับจ้างกู้เรือระดมรถแม็คโฮร์และเรือแม็คโฮร์เข้ามาทำการขุดทรายด้านข้างเรือออกเพื่อให้น้ำทะเลเข้ามาแทนที่ แต่เนื่องจากคลื่นลมบริเวณชายหาดที่เรือเกยตื้นยังมีกำลังแรงเป็นอุปสรรคในการทำงาน ส่งผลทำให้แพบรรทุกแม็คโฮร์ไม่สามารถทำงานได้ อีกทั้งยังมีแพบรรทุกแม็คโฮร์อีก 3 แพต้องหลบคลื่นลมอยู่บริเวณเกาะหนู เข้ามาทำงานไม่ได้ ส่วนรถแม็คโฮร์ 2 คันก็เร่งดำเนินการนำทรายด้านข้างเรือออกโดยเร็ว


ความคืบหน้ากรณีเรือภัทรพัณณ์ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันปาล์มขนาดใหญ่ มีขนาด 2,037 ตันกรอส ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา ซึ่งอยู่ใกล้กับเขื่อนกันทราย ปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุดในวันนี้ (ที่ 3 ก.พ.66)ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามแผนการกู้เรือลำนี้ พบว่า บริเวณที่เรือภัทรพัณณ์เข้ามาเกยตื้น คลื่นลมบริเวณชายฝั่งยังมีกำลังแรงพัดเข้าหาฝั่งอยู่ตลอดเวลา เรือถูกคลื่นซัดติดอยู่ริมชายหาดและมีหาดทรายเพิ่มขึ้นมาติดลำเรือฝังในทรายริมชายหาด ในขณะนี้บริษัทที่รับจ้างกู้เรือฯได้นำรถแม๊คโฮร์2 คันมาช่วยกันขุดทรายที่เพิ่มเป็นชายหาดข้างลำเรือออกอย่างเร่งด่วน เพื่อให้น้ำทะเลเข้ามาแทนที่ทรายโดยขุดทรายข้างลำเรือที่ติดชายหาดออกเป็นวงกว้าง โดยจะให้ลึกเท่าระดับทรายที่ฝังใต้ท้องเรือ โดยเฉพาะด้านท้ายเรือที่มีใบจักรและหางเสือ โดยนำทรายที่ขุดขึ้นมากองไว้ริมชายหาด เมื่อเรือลากจูงออกจากชายหาดแล้ว ก็จะนำทรายถมกลับลงทะเลต่อไป
เนื่องจากคลื่นลมบริเวณชายหาดที่เรือเกยตื้น ยังมีกำลังแรงเป็นอุปสรรคในการทำงาน ส่งผลทำให้แพบรรทุกแม็คโฮร์ไม่สามารถทำงานได้ อีกทั้งยังมีแพบรรทุกแม็คโฮร์อีก 3 แพ ที่ต้องจอดหลบคลื่นลม อยู่บริเวณหลังเกาะหนู เข้ามาทำงานไม่ได้ ส่วนรถแม็คโฮร์ 2 คันก็เร่งดำเนินการนำทรายด้านข้างเรือออกโดยเร็ว รวมทั้งขุดทรายในทะเลริมชายหาดเพื่อให้เป็นแนวร่องน้ำเป็นวงกว้าง โดยบริษัทที่รับจ้างกู้เรือก็เข้ามาดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา แต่คลื่นลมบริเวณชายหาดที่เรือเกยตื้นยังมีกำลังแรงไม่สามารถทำงานได้ คาดว่า การกู้เรือลากออกจากชายหาดเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ อาจจะล่าช้าออกไปอีก เรือภัทรพัณณ์ มาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2565 จนถึงวันนี้เป็นเวลา 46 วัน และบนเรือมีลูกเรือประจำอยู่บนเรือ จำนวน 11 คน
สำหรับแผนการกู้เรือภัทรพัณณ์ เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มลำนี้โดยการลากออกจากชายหาด ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการแล้วและจะใช้ระยะเวลากี่วัน ที่จะสามารถลากเรือออกจากชายหาดได้ ขึ้นอยู่กับสภาพคลื่นลมในทะเลด้วย หากคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยบริเวณชายฝั่งสงขลาเข้าสู่สภาวะปรกติและไม่มีอุปสรรคในการกู้เรือ ก็จะใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 วัน เนื่องจากบริษัทที่มากู้เรือมีความชำนาญในการกู้เรือบริเวณนี้มาแล้ว
สำหรับแผนการกู้เรือภัทรพัณณ์ ตามแผนงานที่วางไว้ จะใช้แผนเดียวกับที่เคยใช้กู้เรืออรพิน 4 เมื่อปี 2557 เนื่องเป็นบริเวณเดียวกัน โดยจะใช้เรือดูดทรายทำการดูดทรายที่บริเวณน้ำลึกที่ประมาณ 4 เมตร ทำร่องน้ำเข้าไปหาตัวเรือที่เกยตื้นชายหาด ให้มีความลึกตลอดร่องน้ำที่ 4 เมตร มีความยาว 500 เมตร และมีความกว้างร่องน้ำ 18 เมตร เพื่อเป็นร่องสำหรับนำเรือออก หลังจากนั้นใช้รถแบ็กโฮ 2 คัน พร้อมทั้งเรือบาสแบ็กโฮ 2 ลำ ทำการขุดรอบเรือที่เกยชายหาด จนกระทั่งให้มีน้ำเลี้ยงโดยรอบเรือ และให้เรือลอยขึ้นด้วยตัวเอง

เมื่อเรือลอยแล้ว ก็นำเชือกมาผูกกับหัวเรือภัทรพัณณ์ ให้เรือทั้ง 2 ลำ ทำการลาก เพื่อหมุนหัวเรือออกสู่ทะเล ในขณะเดียวกัน ก็ยังคงใช้เรือบาสแบ็กโฮ 2 ลำ ช่วยทำการขุดรอบๆ ตัวเรือ จนกระทั่งหัวเรือหมุนออกสู่ทะเล และเข้าไปในร่องน้ำที่ทำการขุดไว้ด้วยเรือขุดหัวสว่าน แล้วให้เรือทั้ง 2 ลำ ลากเรือออกสู่น้ำลึก และทิ้งสมอในจุดที่ปลอดภัยต่อไป หลังจากนั้นจะมีนักประดาน้ำลงไปตรวจสอบเช็กสภาพใต้ท้องเรือว่ามีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ สำหรับร่องน้ำที่ขุดนำเรือออกก็จะทำการปรับพื้นทรายให้กลับเข้าสู่สภาพเดิมทันที โดยใช้เวลาตามแผนงานที่กำหนดไว้ อันนี้ขึ้นอยู่กับสภาพคลื่นลมในทะเลด้วย

นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าว จ. สงขลา โทร. 0959164463