สงขลา – เจ้าหน้าที่ เร่งกู้เรือเรือภัทรพัณณ์ เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลาสงขลา ยังคงเดินหน้าอย่างเร่งด่วน ท่ามกลางคลื่นลมแรง รถแม๊คโฮร์ 2 คัน ขุดทรายชายหาดที่ติดลำเรือออกได้แล้ว ทำให้น้ำทะเลเข้ามาแทนที่ เช้าวันนี้ทรายชายหาดที่ข้างลำเรือก็จะไม่มี ในขณะเดียวกันเรือแม๊คโฮร์ก็ตลุยขุดทรายช่วงหัวเรือออกแม้คลื่นลมแรงกระหน่ำการทำงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เรือดูดทรายที่จอดรออยู่ที่เกาะหนูเข้ามาดูดทรายทำร่องน้ำ โดยนำท่อดูดทรายมาเตรียมรอไว้ริมชายหาดแล้ว
ความคืบหน้ากรณีเรือภัทรพัณณ์ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันปาล์มขนาดใหญ่ มีขนาด 2,037 ตันกรอส ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา ซึ่งอยู่ใกล้กับเขื่อนกันทราย ปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุดในวันนี้ (ที่ 11 ก.พ.66)ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามการกู้เรือลำนี้ พบว่า บริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน ที่เรือภัทรพัณณ์เข้ามาเกยตื้น มีการกั้นบริเวณห้ามเข้า เนื่องจากเครื่องจักรกำลังทำงาน หากมีคนเข้ามาในบริเวณกู้เรืออาจเกิดอันตรายได้ ในวันนี้ มีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่งอยู่ตลอดเวลา รถแม็คโฮร์ 2 คันได้ตะลุยขุดทรายข้างลำเรือออกจนสามารถทำให้น้ำทะเลเข้ามาแทนที่ได้แล้ว มีเหลืออยู่เพียงนิดเดียวก็จะไม่มีทรายชายหาดข้างลำเรือแล้ว เนื่องจากคลื่นลมแรงช่วยให้การขุดทรายชายหาดดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากคลื่นซัดน้ำทะเลเข้ามาตามร่องน้ำที่ขุดข้างลำเรือ
ในขณะเดียวกัน บริเวณด้านหัวเรือ เรือแม็คโฮร์ ก็ตะลุยขุดทรายด้านหัวเรือออกแม้ว่า คลื่นลมในทะเลจะพัดกระหน่ำชายฝั่งอยู่ตลอดเวลาก็ตาม เนื่องจากคณะทำงานชุดนี้ มีความชำนาญในเรื่องการใช้เครื่องมือในการกู้เรือเป็นอย่างดีและมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว ทำให้การกู้เรือเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยบริเวณริมชายหาดก็ได้มีการนำท่อดูดทรายมารอเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว และสามารถใช้เรือทักลากท่อออกไปต่อเชื่อมกับเรือดูดทรายได้ทันที หากคลื่นลดความรุนแรงลง เนื่องจากเรือดูดทรายจอดรอหลบคลื่นอยู่ที่บริเวณเกาะหนูพร้อมทำงานอยู่แล้ว โดยเรือดูดทรายจะทำการดูดทรายที่บริเวณน้ำลึกประมาณ 4 เมตรเพื่อทำร่องน้ำเข้าไปหาตัวเรือ บริเวณหัวเรือให้มีความลึกตลอดร่องน้ำที่ 4 เมตรความยาวประมาณ 500 เมตรและมีความกว้างร่องน้ำ 18 เมตร เพื่อเป็นร่องสำหรับนำเรือออก คาดว่าในวันนี้หากนำทรายข้างเรือออกหมดแล้วเรือจะสามารถลอยลำขึ้นมาด้วยตัวเองได้
คาดว่า ไม่เกินวันที่ 17 ก.พ.นี้ สามารถลากเรือออกจากชายหาดได้ เนื่องจากทางบริษัทที่รับจ้างกู้เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มลากออกจากฝั่ง โดยทำสัญญาจ้างภายใน 1 เดือน เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ที่ผ่านมาและงานจะแล้วเสร็จซึ่งหมายถึงการดำเนินการลากเรือออกจากชายหาดออกสู่ทะเลภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ตามสัญญาจ้าง นับวันนี้ก็คงเหลือเวลาอีกเพียง 6 วัน ซึ่งนับจากวันนี้ไป บริษัทที่รับจ้างก็คงจะเร่งดำเนินการไปตามแผนงานในการลากเรือออกจากชายหาดให้ตามเวลาที่กำหนด เนื่องจากบริษัทที่มากู้เรือมีความชำนาญในการกู้เรือบริเวณนี้มาแล้ว
เรือภัทรพัณณ์ มาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2565 จนถึงวันนี้เป็นเวลา 54 วัน และบนเรือมีลูกเรือประจำอยู่บนเรือ จำนวน 11 คน
สำหรับแผนการกู้เรือภัทรพัณณ์ ตามแผนงานที่วางไว้ โดยจะใช้เรือดูดทรายทำการดูดทรายที่บริเวณน้ำลึกที่ประมาณ 4 เมตร ทำร่องน้ำเข้าไปหาตัวเรือที่เกยตื้นชายหาด ให้มีความลึกตลอดร่องน้ำที่ 4 เมตร มีความยาว 500 เมตร และมีความกว้างร่องน้ำ 18 เมตร เพื่อเป็นร่องสำหรับนำเรือออก เมื่อเรือลอยแล้ว ก็นำเชือกมาผูกกับหัวเรือภัทรพัณณ์ ให้เรือบาสเครนขนาดใหญ่ 2 ลำ ทำการลากเพื่อหมุนหัวเรือออกสู่ทะเล และเข้าไปในร่องน้ำที่ทำการขุดไว้ด้วยเรือขุดหัวสว่าน แล้วให้เรือบาสเครนทั้ง 2 ลำ ลากเรือออกสู่น้ำลึก และทิ้งสมอในจุดที่ปลอดภัยต่อไป หลังจากนั้นจะมีนักประดาน้ำลงไปตรวจสอบเช็กสภาพใต้ท้องเรือว่ามีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ สำหรับร่องน้ำที่ขุดนำเรือออกก็จะทำการปรับพื้นทรายให้กลับเข้าสู่สภาพเดิมทันที โดยใช้เวลาตามแผนงานที่กำหนดไว้
พี่เสือ / นักข่าวสงขลา