ข่าวทั่วไป

สระแก้ว – กองกำลังบูรพาเข้ม ” ทหารสกัดเข้มแรงงานกัมพูชาเถื่อน”

สระแก้ว – กองกำลังบูรพาเข้ม ” ทหารสกัดเข้มแรงงานกัมพูชาเถื่อน”

ชมคลิป

https://youtu.be/D2MiIor5lSY

ผู้สื่อข่าวรายงาน ทหารกองกำลังบูรพาสกัดเข้มแรงงานกัมพูชาเถื่อนลักลอบเข้าไทย สามารถจับกุมแรงงานชาวกัมพูชา ได้20 คน
พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผบ.กองกำลังบูรพา สั่งการให้กองกำลังชายแดนกวดขันเข้มงวดการลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ ในช่วงปิดชายแดนสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 พื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว
เมื่อเวลา 02.00น.วันที่26ก.ย.63 พ.อ.ถิรเดช ลิ้มคุณากูล รอง ผบ.ชุดเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว ฉก.ตาพระยา สามารถจับกุมแรงงานชาวกัมพูชา ได้ที่บริเวณ บ.หนองไผ่ ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยควบคุมตัวแรงงานชาวกัมพูชาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ จำนวน 5 คน แบ่งเป็น ชาย 2 คน หญิง 3 คน ไม่พบผู้นำพา ซึ่งจากการสอบถามแรงงานขั้นต้นให้การว่า ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยไทยโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจที่ จต.13-14 มีคนไทยพาเดินเพื่อไปยังจุดรอขึ้นรถ เสียค่าใช้จ่ายคนละ 3,000 บ.เพื่อจะเดินทางไปทำงานที่ พระราม 9 กรุงเทพมหานคร ,ฉะเชิง เทรา และนครราชสีมา แต่มาถูกจับเสียก่อน
ต่อมาเวลา 04.00น.วันที่ 26ก.ย.63 เจ้าหน้าที่ทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว ฉก.ตาพระยา กองกำลังบูรพา สามารถจับกุมแรงงานชาวกัมพูชาได้เพิ่มเติมอีก 8 คน ขณะออกลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ บ.แก้วเพชรพลอย ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พิกัดTA 577464 โดยสังเกตเห็นรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน ฌล-512 กรุงเทพมหานคร ลักษณะบรรทุกหนัก จึงได้ทำการไล่ติดตาม แล้วโบกให้จอดรถ ขอตรวจค้นพบว่ามีนายพชรโรจน์ วชิรพันธ์จินดา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/170 หมู่ 1 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เป็นคนขับ มีแรงงานชาวกัมพูชานั่งมาในรถทั้งหมด 8 คน เป็น ชาย 3 คน หญิง 5 คน
จากการสอบถาม นายพชรโรจน์ วชิรพันธ์จินดา ผู้นำพา ให้การรับสารภาพว่า รับแรงงานชาวกัมพูชามาจากบริเวณข้าง ปั้ม น้ำมันบางจาก บ.ตาพระยา ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อนำไปส่งที่ จ.นนทบุรี ,นครนายก ,เขตมีนบุรี ,และตลาดสี่มุมเมือง โดยเก็บค่ารถกับแรงงานต่างด้าวคนละ 2,000 บ. นอกจากนั้น เมื่อสอบถามแรงงานกัมพูชาให้การว่าได้ลักลอบเดินเข้ามาในประเทศไทยโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ ระหว่างจุดตรวจที่ จต.16-17 โดยมีชาวกัมพูชาพาเดินเข้ามา แล้วจะมีรถจักรยานยนต์มารับ พามาส่งที่บริเวณข้าง ปัมน้ำมันบางจาก บ.ตาพระยา เสียค่าใช้จ่าย 1,500 บ. หลังสอบสวนและทำบันทึกจับกุมเสร็จ เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ตาพระยา ได้นำตัวแรงงานต่างด้าวและผู้นำพา ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ตาพระยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ส่วนที่ อ.อรัญประเทศ เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 26 ก.ย.63 พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับการชุดควบคมกรมทหารพรานที่12 ได้สั่งการให้ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1205 สนธิกำลัง สภ.คลองลึก , ตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ร่วมกันลาด ตะเวณและเฝ้าตรวจป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา บริเวณชายแดนตามช่องทางธรรมชาติ พื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่อาจติดมากับแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจพบกลุ่มบุคลต้องสงสัยคาดว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา กำลังลักลอบมุดรั้วตะเข็บชายแดนจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย บริเวณตะเข็บชายแดนช่องทางธรรมชาติ พื้นที่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แล้วเดินเท้ามุ่งหน้าจะเข้าตลาดโรงเกลือตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าปิดล้อมและสามารถควบคุมตัวไว้ได้ทั้งหมดรวม 7 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 4 คน และ ด.ช.1 คน ทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา ตรวจสอบไม่มีเอกสารการเดินทางและเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย จึงร่วมกันควบคุมตัวชาวเขมรทั้ง7 คน มาทำการสอบสวนที่ กองร้อยทหารพรานที่ 1205 บ้านป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนทำการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจคัดกรองโรควัดอุณหภูมิร่างกาย ไม่พบผู้ใดเป็นไข้ จึงร่วมกันสอบสวน ซึ่งชาวกัมพูชาทั้งหมดรับสารภาพว่าได้ลักลอบมุดรั้วตะเข็บชายแดนเข้ามาในประเทศไทยเพื่อไปหางานทำที่ตลาดโรงเกลือฯเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ในฝั่งกัมพูชา ไม่มีงานทำและไม่มีรายได้ทำให้เกิดความอดอยากจึงต้องดิ้นรนลักลอบเข้าประเทศไทยเพื่อมาหางานทำ
จากนั้นถ่ายภาพทำประวัติแล้วเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกัมพูชา เพื่อนำชาวกัมพูชาทั้ง 7 คนไปผลักดันกลับประเทศที่ช่องทางอนุโลม ชายแดน อ.โคกสูง จ.สระแก้วต่อไป

นายยุทธนา พึ่งน้อย / ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว