ชาวสงขลานำอาหารมาให้ปลาในสระบัว แหลมสมิหลาและนกพิราบที่อาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยเฉพาะในช่วงตอนเย็นจะพาครอบครัวมาซื้ออาหารให้ปลาและนกได้กิน โดยปลาในสระบัวมีเป็นหมื่นๆตัว หวั่นเข้าหน้าร้อนเดือนเมษายนแล้ว สภาพอากาศร้อน แผดเผาน้ำภายในสระบัวลดลง หากไม่มีการถ่ายเทน้ำใหม่เข้าไปจะส่งผลให้น้ำเน่าเสีย ปลาในสระบัว อาจจะขาดออกซิเจนตายยกสระเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมาได้ วอนทางเทศบาลนครสงขลาเพิ่มเครื่องตีน้ำให้อ๊อกซิเจนและลงจีเอ็มปรับสภาพน้ำในสระบัว รวมทั้งสูบน้ำเก่าออกเติมน้ำใหม่ลงไปในสระให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่าให้ปลาตายอีกในปีนี้
สีสัน..ที่บริเวณสระบัวแหลมสมิหลา เขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งในสระบัวในช่วงนี้จะมีปลาเป็นจำนวนมากเป็นหมื่นๆตัว มีทั้งปลานิล ปลาตะเพียน ปลากราย และปลาดุก และมีฝูงนกพิราบ หลายร้อยตัวที่อาศัยอยู่บริเวณสระบัว และได้อาหารจากประชาชน ที่มาให้อาหารปลาและนกไปด้วย โดยใช้อาหารปลาให้เป็นอาหารนก นกพิราบก็กินได้ปกติ
และบริเวณริมสระบัว ก็มีแม่ค้ามาตั้งโต๊ะขายอาหารปลา โดยเฉพาะในช่วงเย็นทุกวัน ซึ่งเป็นอาหารเม็ด ขนมปัง และข้าวโพดอบกรอบ ใส่แก้วพลาสติก แก้วเล็ก 10 บาท แก้วใหญ่ 20 บาท มาตั้งขายให้กับประชาชนผู้ใจบุญ ที่เดินทางมาให้อาหารปลาและอาหารนกในช่วงเย็นทุกวัน
ผู้ที่มาให้อาหารปลาส่วนใหญ่จะเป็นชาวสงขลาพาครอบครัวพ่อแม่ลูก มาให้อาหารปลาในช่วงเย็นเกือบทุกวัน เพราะปลามันโดนขังอยู่ข้างในสระบัว มันไม่สามารถออกมาหากินได้ เหมือนกับนกพิราบ ที่สามารถโบยบินไปได้ทุกที่ตลอด เวลา จึงมีความตั้งใจ มาให้อาหารปลา ในช่วงเย็นอย่างต่อเนื่อง บางคนก็นำขนมปัง มาให้ เนื่องจากกลัวว่า หากให้อาหารเม็ดมากๆ กลัวน้ำจะเสีย
สำหรับสระบัวแหลมสมิหลาสงขลา เป็นสระบัวขนาดยาว 350 เมตร กว้าง 50 เมตร และลึก 2.50 เมตร มีปลาน้ำจืดที่ทางเทศบาลนครสงขลา ได้ทำการปล่อยเป็นจำนวนมาก ทั้งปลาตะเพียน ปลากราย ปลานิล และปลาดุก ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวนำอาหารมาให้ปลากินทุกวัน
ในขณะเดียวกัน ชาวสงขลามีความกังวล เนื่องจากในขณะนี้ในสระบัวมีปลาหลากหลายชนิดเป็นหมื่นๆตัว อีกทั้งระดับน้ำในสระบัวลดลง มีเครื่องตีน้ำให้ออกซิเจน 2 ชุด เวลา18.00น.ก็ปิดเครื่องแล้ว ทำให้ชาวสงขลาที่มาให้อาหารปลา กลัวว่าจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ทั้งที่มันเกิดมาทุกปี แม้ว่าปีนี้นายวันชัย ปริญญาศิริ เป็นนายกเทศมนตรีนครสงขลาคนปัจจุบัน ก็อยากขอให้รีบแก้ปัญหาก่อนที่ปลาจะตาย ไม่ใช่รอให้ปลาตายก่อนแล้วมาแก้ เหมือนทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากในเดือนเมษายนสภาพอากาศร้อน แผดเผาน้ำภายในสระบัวลดลง หากไม่มีการถ่ายเทน้ำเก่าออกบ้างและเติมน้ำใหม้เข้าไปทดแทน จะส่งผลทำให้น้ำในสระบัวเน่าเสีย ปลาในสระบัว อาจจะขาดออกซิเจนตายยกสระเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา วอนทางเทศบาลนครสงขลาเพิ่มเครื่องตีน้ำให้อ๊อกซิเจนและลงจีเอ็มปรับสภาพน้ำในสระ รวมทั้งสูบน้ำเก่าออกเติมน้ำใหม่ลงในสระให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่าให้ปลาตายอีกในปีนี้
คุณกุลชญา นารากรตระกูล ชาวสงขลานำครอบครัวพ่อแม่ลูก 4 คนมาให้อาหารปลาในสระบัวแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง กล่าวว่า มาให้อาหารปลาบ่อย พาเด็กๆลูกหลาน มาให้อาหารปลาบ่อย เท่าที่เห็นพอหน้าร้อนน้ำก็จะลดลงค่อนข้างเยอะปลาก็ดูเหมือนว่า จะเยอะขึ้น ดูมากขึ้น ก็อยากจะให้ทางเทศบาลนครสงขลาหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ช่วยดูแลรักษาสภาพน้ำให้ปลาได้คงอยู่กับเราตลอดไป ลูกหลานก็จะได้มาทำกิจกรรมให้อาหารปลา ตรงนี้เป็นที่อนุรักษ์อีกที่หนึ่งไว้ในสงขลา และอยากให้มีการเพิ่มเครื่องตีน้ำให้ออกซิเจนในสระบัวให้ปลาได้หายใจอยู่ต่อไปได้เป็นเรื่องที่ดีมากๆเลย เพราะสังเกตได้ว่า คนมาให้อาหารปลา ให้ความสำคัญกับชีวิตปลาที่นี่ ค่อนข้างเยอะและปล่อยปลาก็ค่อนข้างเยอะ ก็อยากให้ช่วยกันดูแล
สำหรับที่บริเวณสระบัวแห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงเย็น ที่อากาศไม่ร้อน พ่อแม่ผู้ปกครอง จะพาบุตรหลานมาให้อาหารปลากันทุกวัน เพื่อให้บุตรหลานได้รู้จักถึงการทำบุญให้ทานสัตว์ตั้งแต่เล็กเป็นการฝึกนิสัยเด็กให้รู้จักให้ ไม่ว่ากับคนหรือสัตว์ก็ตาม ทำให้เด็กมีนิสัยรักสัตว์ตั้งแต่เล็ก
พี่เสือ นักข่าวสงขลา
