การเมืองข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

ชูวิทย์ ล่องใต้เดินสายต้านนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย

17-04-66 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
ชูวิทย์ ล่องใต้เดินสายต้านนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย ไปตามโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ระบุปลดล็อคกัญชาเสรีใช้เรื่องการแพทย์เป็นข้ออ้างบังหน้า สวนทางกับนโยบายหาเสียงของพรรคที่แม้แต่แผ่นป้ายหาเสียงก็ยังหานโยบายเรื่องกัญชาไม่มีเลยแม้แต่แผ่นเดียว เชื่อประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนกลุ่มคัดค้านการเดินทางทางมาของ นายชูวิทย์ ชูแผ่นป้ายตะโกนให้กลับไป แต่หวิดปะทะคารมณ์กัน เพราะ ต้องกลับไปละศีลอด


เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 เม.ย. 66 ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาฮอไรซอนบริหารธุรกิจ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา ทาง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้เดินทางมาร่วมรณรงค์ต่อต้านนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งการเดินทางจะมีทั้งหลายอำเภอใน จ.สงขลา และในจังหวัดชายแดนใต้


รวมทั้งร่วมพิธีละศีลอดในช่วงเย็นของพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่ทางสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ นำโดย บาบอฮุสณี บินหะยีคอเนาะ และ อาจารย์อับดุลสุโกร์ ดินอะ ที่ปรึกษาสมาคมฯ ได้จัดขึ้นที่วิทยาลัยแห่งนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคน รวมทั้งยังได้มีการเชิญ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.สะบ้าย้อย ให้มาร่วมงานเป็นการส่วนตัวด้วย
โดยก่อนที่ นายชูวิทย์ จะเดินทางมาถึงราวครึ่งชั่วโมงนั้น ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มชาวบ้านประมาณ 50 คน เดินทางมารวมตัวกันที่ฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้าวิทยาลัย พร้อมถือแผ่นป้ายคัดค้านการเดินทางลงพื้นที่ของ นายชูวิทย์ และส่งเสียงตะโกนเป็นระยะ


เพื่อต้องการสื่อให้เห็นว่า ยังมีคนบางส่วนที่ไม่ยอมรับในตัว นายชูวิทย์ เพราะ มองว่า นายชูวิทย์ ทำงานรับใช้คนอื่น คนอื่นทำงานการเมืองเพื่อชาติ แต่นายชูวิทย์ รับงานโจมตีคนอื่น รวมทั้งชาวจะนะไม่ต้องการคนชื่อชูวิทย์ และยังระบุว่า หมดศรัทธาในตัวนายชูวิทย์ เพราะ เป็นคนรับงาน และเป็นโจรในคราบคนดี แต่ยังโชคดีที่ทางกลุ่มผู้เห็นต่างได้สลายตัวกันไปก่อนที่ นายชูวิทย์ จะเดินทางมาถึง เนื่องจากต้องเดินทางกลับบ้าน เพื่อไปทำพิธีละศีลอด หวิดที่ตะปะทะคารมณ์กัน


จากนั้นในช่วงประมาณ 17.40 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้เดินทางมาถึงวิทยาลัยอาชีวศึกษาฮอไรซอนบริหารธุรกิจ ก่อนที่จะพูดคุยกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า ในวันนี้นำความจริงมาเปิดเผย ไม่ต้องมาประท้วงตน เพราะ ตนนำความสันติสุขมาให้กับพี่น้องชาวมุสลิม และเอาความจริงเรื่องกัญชาที่หลายหน่วยงานได้มาร่วมรณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรี
เพราะ กัญชาทางการแพทย์นั้นถูกใช้เป็นเพียงแค่ข้ออ้างในการปลดล็อคกัญชา ใครอยากจะเลือกพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคอะไร ก็สามารถเลือกได้ แต่ตนมองเห็นความอันตรายของยาเสพติดและกัญชาที่ปลดล็อคออกมาสู่สังคมไทยโดยที่ไม่มีการควบคุมต่างหาก ซึ่งเมื่อก่อนกัญชาเป็นยาเสพติด และได้ทำการปลดล็อคออกมาโดยทันทีโดยไม่ผ่านสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้นแล้ว


นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังได้อ้างถึงข้อมูลจากสมาคมจิตแพทย์ที่ระบุเอาไว้ว่า ความเชื่อเรื่องกัญชาที่จะสามารถเอาไปรักษาโรคจิตเวชน์ได้ เช่น วิตก ซึมเศร้า หรือ นอนไม่หลับ นั้น ความจริงแล้วกัญชาไม่สามารถนำไปรักษาโรคทางจิตเวชน์เหล่านี้ได้ มิหนำซ้ำยังเป็นต้นเหตุของโรคจิตเวชน์ด้วย
อีกทั้งยังเห็นชัดเจนมากว่า ป้ายหาเสียงของพรรคนี้ไม่ปรากฎนโยบายกัญชาเสรีเลย ทั้งๆที่เป็นนโยบายหลักของพรรค ที่จริงๆแล้วไม่เป็นธรรมกับประชาชน ถ้าจะให้ยุติธรรม ก็ต้องทำความเข้าใจว่า ถ้าเลือกภูมิใจไทย ก็จะได้กัญชา ประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสินเองว่า ถ้าเลือกภูมิใจไทย ก็จะได้กัญชา


ขณะที่ บาบอฮุสณี บินหะยีคอเนาะ และ อาจารย์อับดุลสุโกร์ ดินอะ ที่ปรึกษาสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ได้ยื่นหนังสือเรื่องคัดค้านกัญชาเสรี ปลดกัญชาจากยาเสพติด และหาทางออกร่วมกัน ให้กับ นายชูวิตย์ รวมทั้งให้เป็นตัวกลางส่งผ่านไปยังพรรคการเมืองอื่นๆด้วย เพื่อร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการคัดค้านเรื่องนี้


โดยทางสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ประกอบด้วยโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจำนวน 400 โรงเรียนทั่วภาคใต้ ครูจำนวน 80,000 คน นักเรียนจำนวน 500,000 คน ซึ่งทางสมาคมฯ มีความเป็นห่วงกับสถานการณ์หลังจากที่รัฐบาลมีการออกกกฎหมายปลดล็อคกัญชาเสรี
ซึ่งค้านกับหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการที่ใช้สอน เนื่องจากกัญชายังเป็นยาเสพติดในหนังสือเรียน และยังเป็นประตูสู่การเสพติดอื่นที่ร้ายแรงกว่า โดยกัญชาก่อให้เกิดการเสพติด และการเจ็บป่วยจากการเสพติดที่ชัดเจน แม้จะมีสารบางส่วนของกัญชาที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ก็ตาม


ด้าน นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.สะบ้าย้อย ที่เดินทางเป็นการส่วนตัวมาร่วมพิธีละศีลอด เปิดเผยว่า ตนได้รับคำเชิญมาร่วมงาน และถือเป็นโอกาสดีที่ได้กลับมาเยี่ยมสถานศึกษาแห่งนี้ที่เคยถูกใช้เป็นโรงพยาบาลสนามเก่าของโรงพยาบาลจะนะ ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา และสามารถดูและผู้ป่วยรักษาจนหายได้ราว 4-5 พันคน
และในนามประธานชมรมแพทย์ชนบท ตนสนับสนุนกัญชาในทางการแพทย์เท่านั้น ส่วนกัญชาในด้านอื่นๆทั้งเพื่อการสันทนาการ หรือผสมในอาหารนั้น ตนไม่เห็นด้วย และมีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียง ซึ่งจริงๆแล้วกัญชาในทางการแพทย์ก็มีใช้กันพอสมควรแล้ว และไม่ต้องใช้กัญชาเป็นจำนวนมากขนาดนี้