ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วม ศรชล.ภาค 1 ส่งเรือรบสกัดจับเรือขนน้ำมันเถื่อนกลางทะเลกว่า 1 แสนลิตร ส่งดำเนินคดี ปรับกว่า 5 ล้าน
ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วม ศรชล.ภาค 1 (อ่าน สอน-ชน ภาค 1) จับเรือลักลอบขนน้ำมันเถื่อนกว่า 1 แสนลิตร กลางทะเลอ่าวไทย จ.เพชรบุรี รวบหมดตั้งแต่ไต๋เรือยันลูกเรือรวม 6 ราย เตรียมเปรียบเทียบปรับ 5 ล้านบาท
เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 2 พ.ค. 66 พลเรือตรี อนุพงษ์ ทะประสพ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 บูรณาการร่วมกับ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง กองบังคับการตำรวจน้ำ ,กรมเจ้าท่า , กรมสรรพสามิต, กรมศุลกากร ร่วมแถลงข่าวจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ กำไรเงิน ลักลอบบรรทุกน้ำมันดีเซลหลบเลี่ยงภาษี ประมาณ 1 แสนลิตร โดยไม่ผ่านขบวนการทางศุลการกร พร้อมไต๋เรือและลูกเรือรวม 6 ราย จากการปฏิบัติการด้านการข่าว ส่งผลให้ เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง 115 (เรือ ต.115) ขณะลาดตระเวนทางทะเล ได้ตรวจพบเรือลำดังกล่าว ณ บริเวณปากน้ำ แม่น้ำบางตะบูน จ.เพชรบุรี จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวเข้ามา ณ ท่าเรือกลางอ่าว กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และส่งกรมสรรพสามิตเพื่อเปรียบเทียบปรับเป็นมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท
ด้าน พลเรือตรี อนุพงษ์ ทะประสพ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า จากการปฏิบัติการด้านการข่าวนำไปสู่การมอบหมายภารกิจให้ เรือ ต.115 กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1 เข้าดำเนินการตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมันหลบเลี่ยงภาษี ชื่อ กำไรเงิน ในช่วงเวลา 23.15 น. ของวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบไต๋เรือ พร้อมลูกเรือ รวม 6 ราย พร้อมน้ำมันดีเซลหลบเลี่ยงภาษี จำนวนกว่า 1 แสนลิตรเศษ (ยอดยังไม่คงที่ อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ) บริเวณน่านน้ำ จังหวัดเพชรบุรี นอกจากนี้ยังตรวจพบว่า ทะเบียนเรือหมดอายุตั้งแต่ปี 2560 โดย เรือ ต.115 กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1 ได้ดำเนินการควบคุมเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลหลบเลี่ยงภาษีดังกล่าว มายัง ท่าเรือกองบัญชาการ กองเรือยุทธการ กลางอ่าว เพื่อตรวจสอบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
โดยในห้วงปีงบประมาณที่ผ่านมา ตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2565 ทัพเรือภาคที่ 1 ,ศรชล.ภาค1 สามารถจับกุม เรือลักลอบบรรทุกน้ำมัน หลบเลี่ยงภาษี โดยไม่ผ่านขบวนการทางศุลการกร มาแล้วจำนวน 3 ครั้ง รวมน้ำมันดีเซลที่ตรวจยึด กว่า 400,000 ลิตร น้ำมันเบนซิน 700,000 ลิตร ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ที่สามารถจับกุมได้ ทั้งนี้การปฏิบัติดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ/ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (รอง ผอ.ศรชล.) ที่ให้ดำเนินการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในทะเล อย่างจริงจัง สอดคล้องตามนโยบายของทางรัฐบาล
ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก