กู้ภัยช่วยคนเจ็บอยู่ !ถูกยิง
2 หนุ่มกู้ภัยอยุธยา ช่วยคนรถจยย.ล้มริมถนน จู่ๆมีวัยรุ่นขี่รถมากระหน่ำยิงใส่ บาดเจ็บ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.03 น.วันที่ 3 มิถุนายน 2566 พ.ต.ท.ธวัชชัย จันทร์เรือง สว.สอบสวน สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีผู้ถูกยิงอาวุธปืนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลภาชี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจสอบ
พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายสุรพงษ์ นรดี อายุ 31 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา จุดภาชี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้า บริเวณ สะโพกด้านซ้าย 1 นัดกระสุนฝังใน ต้องเร่งเคลื่อนย้ายไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่ผู้บาดเจ็บถูกยิง บริเวณริมถนนสาย หิน กอง – มุ่งหน้าภาชี หมู่ 1 ต.โคกม่วง อ.ภาชี ตรวจสอบ พบรองเท้าแตะของ ผู้บาดเจ็บตกอยู่ 1 คู่ มีร่องรอย ของรถจักรยานยนต์ล้มขูดไปกับพื้นถนน
นายณัฐวัฒน์ นรดี อายุ 23 ปี น้องผู้บาดเจ็บ และเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมกับพี่ชายพากันขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อ ปยังศูนย์กู้ภัย ประจำจุดภาชี ระหว่างทาง พบว่ามีชายขี่รถจักรยานยนต์ล้มอยู่กลางถนน ตนและพี่ชายจึงจอดรถเข้าไปช่วยเหลือ ช่วยกันยกรถจักรยานยนต์ล้มเข็นหลบเข้าริมถนน
ระหว่างที่กำลังช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุอยู่นั้น พบว่ามีชายสวมหมกกันน็อกขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน มีผู้หญิงซ้อนท้าย ขี่ผ่านจุดที่ตนเองกำลังช่วยเหลือคนเจ็บอยู่ แล้วจอดรถจากนั้นชักอาวุธปืนยิงใส่มาที่กลุ่มของตนเองจำนวน 4 นัด พอได้ยินเสียงอาวุธปืนต่างคนต่างพากันหลบกระสุนปืน จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป และพบว่าพี่ชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงพาพี่ชายซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์พามาส่งโรงพยาบาล
ด้าน นายวิชาญ นรดี 62 ปี พ่อของผู้บาดเจ็บ และเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยเช่นเดียว กล่าวว่า เห็นลูกชาย2 คนออกจากบ้าน คิดว่าต้องมีเหตุ จึงได้ขับรถตามลูกชายออกจากบ้านมา จึงได้ขับรถตามออกมาตามหาลูกชาย ไปที่ศูนย์จนทราบว่าลูกชาย ถูกยิงบาดเจ็บ ตนยืนว่าลูกชายไม่เคยมีเรื่องกับใครแน่ ๆ รู้สึกเสียใจที่ลูกมาถูกยิง มาถูกคนร้ายยิงทั้งที่กำลังช่วยเหลือคนเจ็บ จึงขอฝากถึงชายที่ประสบเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม ที่ลูกชายกำลังช่วยเหลือ ให้มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เพื่อติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาตัวผู้ประสบเหตุที่รถจักรยานยนต์ล้ม มาทำการสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากหลังเกิดเหตุไม่พบตัว พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป