20-06-66 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
ตำรวจกองปราบและสันติบาลซ้อนแผนจับกุมแกงค์หลอกเช่ารถไปจำนำได้2คนชายและหญิงคาสถานีรถไฟหาดใหญ่หลังจากที่ติดต่อขอเช่ารถเก๋งฮอนด้าซีวิคป้ายแดงจากบริษัทรถเช่าในหาดใหญ่ แต่บริษัทตรวจสอบประวัติพบเคยหลอกเช่ารถและมีหมายจับติดตัวแจ้งเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนจับกุมขณะเดินทางด้วยรถไฟจากสุราษฎร์ธานีมารับรถที่หาดใหญ่
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้(20มิ.ย.66)ตำรวจกองปราบ กองกำกับการ6 กองบังคับการปราบปรามร่วมกับตำรวจสันติบาลซ้อนแผนจับกุมแกงค์โจรหลอกเช่ารถไปจำนำ โดยนัดส่งมอบรถกันที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่
หลังจากได้รับการประสานจากเจ้าของบริษัท Big Car Rental ซึ่งเป็นบริษัทรถเช่าในอ.หาดใหญ่ ว่ามีมิจฉาชีพ2คน ชื่อนายเลิศศักดิ์ กิ่งทอง อายุ 61 ปี ชาวจ.สุราษฎร์ธานี และนางหนึ่งฤทัย ศรีชาเยท อายุ 41 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช ติดต่อขอเช่ารถเก๋งฮอนด้าซีวิคป้ายแดงสีขาว 3 วัน วันละ900 บาท
แต่เมื่อนำชื่อไปตรวจสอบประวัติในข้อมูลกลุ่มรถเช่าพบว่าทั้่งสองคนมีประวัติหลอกเช่ารถไปจำนำและมีหมายจับของศาลจังหวัดเวียงสระในคดีร่วมกันฉ้อโกงทั้งสองคน เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566
จึงได้ประสานตำรวจกองปราบและตำรวจสันติบาลซ้อนแผนจับกุม โดยแกงค์หลอกเช่ารถจะเดินทางด้วยรถไฟมาจาก จ.สุราษฎร์ธานีมาถึงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เวลาประมาณ 14.00 น.และนัดส่งมอบรถเช่ากันที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่
เมื่อถึงเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังบริเวณหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ และพบแกงค์มิจฉาชีพกลุ่มนี้มาด้วยกัน4 คน ซึ่งมีนายเลิศศักดิ์ และนางหนึ่งฤทัยรวมอยู่ด้วย อีก2คนเป็นผู้หญิงกับทอม
แต่หลังจากที่เฝ้าดูพฤติกรรมอยู่กว่า2ชั่วโมงจนถึง4โมงเย็น นายเลิศศักดิ์ และทีมงานซึ่งดูเหมือนจะระวังตัวตลอด ได้เดินวนเวียนไปมาบริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่และแยกกันยืนเฝ้าสังเกตุการณ์ดูความผิดปกติ และน่าจะรู้ทันจึงไม่ได้ออกมาแสดงตัวรับรถและเดินไปรอขึ้นรถไฟกลับจ.สุราษฎร์ธานีที่ชานชลาสถานีรถไฟหาดใหญ่
ตำรวจกองปราบและสันติบาลจึงแสดงตัวเข้าจับกุมและแสดงหมายจับให้ นายเลิศศักดิ์๋ และนางหนึ่งฤทัย ซึ่งทั้งสองคนถึงกับหน้าถอดสีสุดท้ายก็ยอมรับสารภาพว่าต้องการที่จะหลอกเช่ารถจริง ส่วนหญิงสาวอีก1 คนและทอมอีก1 คน ยังไม่มีหมายจับแต่ก็น่าจะอยู่ในแกงค์เดียวกัน
จากนั้นจึงคุมไปสอบสวน นายเลิศศักดิ์ ให้การว่า เป้าหมายรถเช่าส่วนใหญ่จะเลือกรถป้ายแดงพาไปจำนำในบ่อนคันละ 3 หมื่นบาทและรถคันนี้ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่จะหลอกไปจำนำด้วย
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและส่งตัวไปดำเนินคดีที่สภ.เวียงสระ ตามหมายจับ ส่วนผู้หญิงอีก1คนและทอมอีก 1 คน ตรวจสอบประวัติแล้วยังไม่มีหมายจับติดตัวแต่ก็เชื่อว่าอยู่ในทีมเดียวกันจะประสานให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยันต่อไป
ด้าน น.ส. วลัยลักษณ์ สุขเนาวรัตน์ อายุ 28 ปี เจ้าของบริษัทรถเช่า Big Car Rental เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้รับการติดต่อจากนายเลิศศักดิ์ และนางหนึ่งฤทัย ขอเช่ารถเก๋งฮอนด้าซีวิคป้ายแดง 3 วัน วันละ 900 บาท และได้ขอหลักฐานบัตรประชาชนและใบขับขี่
แต่เมื่อตรวจสอบประวัติในกลุ่มรถเช่าด้วยกันพบว่าทั้งสองคนเคยมีประวัติเช่ารถไปจำนำ และประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ก็พบว่ามีหมายจับติดตัวด้วย จึงซ้อนแผนจับกุมทั้งสองคน ขณะเดินทางด้วยรถไฟจากจ.สุราษฎร์ธานีมารับรถที่สถานีรถไฟหาดใหญ่
ที่ผ่านมาบริษัทเคยถูกแกงค์มิจฉาชีพหลอกเช่ารถไปจำนำมาแล้วด้วย และแกงค์นี้มีทั้งที่เดินทางด้วยเครื่องบินและเดินทางด้วยรถไฟมารับรถจากนั้นก็เอาไปจำนำ