ข่าวทั่วไป

ชุดสืบฯสงขลาแกะรอยรวบโจรสองพี่น้องเจ้าของอู่ตระเวนถอดชิ้นส่วนรถยนต์กระบะไปขาย อ้างเอาเงินรักษาเมียที่ป่วยโรคหัวใจหมดไปเป็นล้านและต้องรักษาต่อเนื่องเงินลูกค้าก็เกลี้ยงจนต้องออกขโมยชิ้นส่วนรถยนต์กระบะไปขายเลือกเฉพาะอีซูซุคนนิยมขายง่าย

ชุดสืบฯสงขลาแกะรอยรวบโจรสองพี่น้องเจ้าของอู่ตระเวนถอดชิ้นส่วนรถยนต์กระบะไปขาย อ้างเอาเงินรักษาเมียที่ป่วยโรคหัวใจหมดไปเป็นล้านและต้องรักษาต่อเนื่องเงินลูกค้าก็เกลี้ยงจนต้องออกขโมยชิ้นส่วนรถยนต์กระบะไปขายเลือกเฉพาะอีซูซุคนนิยมขายง่าย
ที่จ.สงขลาในช่วงเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องถึงเดือนมิถุนายนเดือนนี้ ได้เกิดเหตุคดีลักทรัพย์ชิ้นส่วนรถยนต์ โดยคนร้ายก่อเหตุซ้ำๆกัน4คดี


เลือกลงมือเฉพาะรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ถอดเอาชิ้นส่วนทั้งกระโปรงหน้า กระโปรงท้าย ไฟหน้า แบตเตอรี่ และกระจังหน้า และตระเวนก่อเหตุแค่ในพื้นที่ ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่กับต.แม่ทอม อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวกัน เป้าหมายมีทั้งรถที่จอดอยู่ในโรงจอดรถหน้าบ้านและในอู่ซ่อมรถ
โดยหนึ่งในภาพหลักฐานที่คนร้ายก่อเหตุเป็นกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายสองคนขับรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างสีดำแดง เข้าไปก่อเหตุถอดชิ้นส่วนรถยนต์อีซูซุที่จอดอยู่ในโรงจอดรถบ้านเลขท่ 117/9 หมู่ 7 ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ฝากระโปรงแคปล่าสีดำ ไฟหน้า 1 คู่ และกระจังหน้า
คดีนี้ทางชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา และชุดสืบสวนสภ.คูเต่า นำโดย พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.ท.เอกภพ มุสิกปักษ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา รอง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา ได้ลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและตามแกะร้อยภาพจากกล้องวงจรปิด
และพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมี2คนและก่อเหตุซ้ำๆกันทั้ง4 คดีใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างฮอนด้าเวปสีดำแดงขับไปก่อเหตุ โดยเฉพาเมื่อคืนวันที่ 11 มิถุนายนได้ขับรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างออกมาจากอู่เจเจเซอร์วิส ในพื้นที่หมู่9 ต.คู่เต่า อ.หาดใหญ่ เพื่อไปก่อนเหตุถอดชิ้นส่วนรถกระบะที่โรงรถบ้านเลขที่ 117/9 หมู่ 7 ต.คูเต่า
สุดท้ายก็รู้ตัวคนร้ายสองรายนี้ชื่อ นายเอกวัฒน์ แป้นเหลือ อายุ 31 ปี กับ นายเฉลิมวงศ์ แป้นเหลือ อายุ 29 ปี เป็นพี่น้อง โดยเฉพาะ นายเฉลิมวงศ์ คนน้องนั้นเป็นเจ้าของอู่เจเจเซอร์วิส ซึ่งรับซ่อมสีและซ่อมเครื่องยนต์ด้วย และขออนุมัติศาลจ.สงขลาเข้าจับกุมได้ทั้งสองคน
และเข้าตรวจค้นภายในอู่พบของกลางที่ขโมยมาบางส่วนเช่นไฟหน้ารถยนต์อีซูซุ3คู่ ฝากระโปรงหน้าและฝ่าท้ายรถกระบะ จึงยึดเอาไว้
และควบคุมตัวทั้งสองคนมาสอบสวน เบื้องต้น นายเฉลิมวงศ์ คนน้องที่เป็นเจ้าของอู่ซ่อมสีและเครื่องยนต์อยู่ในพื้นที่ต.คลองแหบอกว่า ส่วนใหญ่จะลงมือคนเดียวเพียงครั้งเดียวที่ชวนพี่ชายให้ขับรถสามล้อพ่วงข้างไปช่วยขนด้วย และอ้างว่าทำมาเพียง 2 ครั้งเท่านั้น
สาเหตุที่ต้องกลายเป็นโจรขโมยชิ้นส่วนรถอ้างว่าเพราะต้องการหาเงินไปรักษาภรรยาที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและโรคหัวใจซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากหมดเงินไปเป็นล้านและต้องรักษาอย่างต่อเนื่องและต้องขึ้นไปรักษาที่กรุงเทพฯ รวมทั้งยังต้องใช้เงินสู้คดีของภรรยาที่มีคดีทำร้ายร่างกายด้วย ที่สำคัญเงินของลูกค้าที่เอารถมาซ่อมก็ยังนำไปให้ภรรยารักษาตัวทำให้ขาดสภาพคล่องไม่มีจ่ายให้ลูกน้อง
แต่ยืนยันว่าชิ้นส่วนรถยนต์ที่ขโมยมาเอาไปขายเปลี่ยนเป็นเงินทั้งหมดไม่ได้เอามาใช้เป็นอะไหล่ในอู่ตัวเอง โดยเอาไปขายในราคาถูกเช่นไฟหน้า 1 คู่ ราคาจริงคู่ 26,000 บาท แต่ขายเพียง 16,000 บาทหรืออาจจะต่ำกว่านั้น ส่วนชิ้นส่วนอื่นก็เหมือนกันจะขายต่ำกว่าราคาจริงมากกว่าครึ่ง และสาเหตุที่เลือกลงมือเฉพาะรถกระบะอีซูซุเพราะว่าเป็นรถที่คนนิยมกันจึงขายง่าย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งสภ.คูเต่า ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์
สำหรับทั้ง4คดีที่สองพี่น้องคู่นี้ร่วมกันลักทรัพย์ซึ่งจะลงมือในช่วงกลางคืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15-16 พ.ค. ลักทรัพย์ที่บ้านเลขทร่ 8/1 ซอยแววมยุรา หมู่9 ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ ได้ไฟหน้ารถยนต์กระบะอีซูซุไป1 คู่
3-4 มิ.ย. ลักทรัพย์ในอู่ซ่อมรถช้างออโต้คาร์ หมู่10 ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ ได้ฝาท้ายกระบะ ฝากระโปรง ไฟหน้า 1คู่แบตเตอรี่
6-7 มิ.ย.ลักทรัพย์หน้าบ้านเลขที่ 91 ม.5 ต.แม่ทอม อ.บางกล่ำ ได้ไฟหน้าไป1 คู่
และวันที่ 11 มิ.ย.เข้าไปลักทรัพย์ในโรงจอดรถของบ้านเลขที่ 117/9 ม.7 ต.คู่เต่า อ.หาดใหญ่ ได้ฝากระโปรงแคปล่า ไฟหน้า1คู่ และกระจังหน้า

พี่เสือ นักข่าวสงขลา