ผกก.สภ.บางละมุง นำทีมตำรวจสืบสวน ตามลากคอโจรลักทรัพย์ในเคหะสถาน ส่งเข้าคุก ดัดสันดานโจร
เมื่อเวลา 04.00 น. 13 ก.ค.66 พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง, พ.ต.ท. มาโนช เพ็ชรประกอบ รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางละมุง,พ.ต.ท.สมพร สุ่มมาตย์ สว.สส.สภ.บางละมุง, ร.ต.อ.สมาน บุญแก้ว รอง สวป.สภ.บางละมุง, ร.ต.อ.พัฒนพงศ์ แสงทอง รอง สว.สส.สภ.บางละมุง, ส.ต.อ.กรธวัช บุตร สวน, ส.ต.ท.ภาณุวุฒิ บุตรสวน ผบ.หมู่ งานสืบสวน สภ.บางละมุง, ส.ต.ต.สยาม บุญยะนิวาสน์ ผบ.หมู่ งานสืบสวน สภ.บางละมุง ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายเริงฤทธิ์ หรือเวฟ จีนประชา อายุ 22 ปี ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 149/8 ม.13 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย
1. เสื้อแขนยาวมีฮู้ด สีกรม จำนวน 6 ตัว
2. กางเกงขายาว สีดำ จำนวน ๑ ตัว
3. รองเท้าผ้าใบ สีดำ จำนวน 6 คู่
4. กะเป๋าสะพายหลัง สีเทา จำนวน 6 ใบ
5. หมวกนิรภัย สีแดง จำนวน 1 ใบ
6. คีมตัดเหล็ก จํานวน 1 ด้าม
7. ไขควง จํานวน 6 อัน
8. ค้อน จํานวน 1 อัน
9. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Click ! สีดำ, ส้ม ทะเบียน บบท 496 กทม. จำนวน 1 คัน
10.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ iPhone Xs Max สีขาว เครือข่าย True หมายเลขโทรศัพท์ 090-9481957
11.อุปกรณ์สกัดกาแฟ จำนวน 1 เครื่อง
12.เครื่องบดกาแฟ จํานวน 1 เครื่อง
13.กาน้ำร้อน จำนวน 1 ตัว
14.ครื่องอุ่นนม จำนวน 1 เครื่อง
15.เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิทอล จำนวน 2 เครื่อง
16.แก้ว จำนวน 4 ใบ
17. เก้าอี้สนาม สีดำ จำนวน 1 ตัว
18.ถุงใส่อุปกรณ์) สีฟ้า จำนวน 6 ใบ
19.เงินสด จํานวน 68 บาท
20.กล่องกระดาษใส่เงินสด จำนวน 3กล่อง
21.แผ่นยางรองแก้ว จำนวน 6 อัน
22.สายชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้า จำนวน 2 เส้น
พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค. พ.ศ.2566 ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนว่า มีเหตุลักทรัพย์ ภายในร้านกาแฟ (ทุ่งกราด) ม.5 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ น.ส.พิมพ์ชนก บางพับ (ผู้เสียหาย) อายุ 25 ปี แจ้งว่าร้านกาแฟของตนถูกคนร้ายลักเอาทรัพย์สินไปหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท จากการตรวจสอบ พบร่องรอยการถูกงัดแงะ ตัดหูคล้องแม่กุญแจ ที่บริเวณประตูหลังร้านกาแฟ ดังกล่าวฯ ตรวจสอบภายในร้านกาแฟฯ พบร่องรอยการถูกลักทรัพย์และมีทรัพย์สินที่สูญหาย บริเวณข้างร้านมีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ โดยคนร้ายเป็นชายสวมใส่หมวกกันน็อค เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สะพายกระเป๋า ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา ลักเอาทรัพย์สินภายในร้านและหลบหนีไป จึงได้แจ้งให้ตำรวจชุดสืบสวนทำการติดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายมาโดยตลอด
ต่อมา ตำรวจสืบสวนได้สืบทราบว่ามีผู้ใช้เฟชบุ๊ค ชื่อ “เต๋า กิตติธัช” ประกาศขายเครื่องบดกาแฟ รุ่น S70 13 ในราคา 8,500บาท ผ่าน “กลุ่มซื้อ-ขายเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์มือสองทั่วไทย” เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงขยายผลสืบทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊คดังกล่าว พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 149/8 ม.11 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายเริงฤทธิ์ หรือเวฟ จีนประชา (ทราบชื่อ-สกุลจริงภายหลัง)เดินออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวฯ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วแสดงท่าทางมีพิรุธต้องสงสัย และพยายามจะหลบหนี ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ เพื่อขอทำการตรวจค้น พบโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ iPhone Xs Max สีขาว เครือข่าย True หมายเลขโทรศัพท์ 090-9481957 อยู่ที่กระเป๋ากางเกงของนายเริง และพบว่าขณะนั้นมีการล็อกอินบัญชีเฟซบุ๊ค ชื่อ “เต๋า กิตติธัช” อยู่ขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบ ซึ่งตรงตามกับที่มีการโพสขายเครื่องบดกาแฟที่ถูกขโมยไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงสอบถาม โดยนายเริงฤทธิ์ หรือเวฟ จีนประชา ยอมรับว่าบัญชีเฟซบุ๊คดังกล่าวเป็นของตนจริง และตนเป็นบุคคลคนเดียวกันกับที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด ที่เข้าไปลักทรัพย์ในร้านกาแฟที่เกิดเหตุ ที่ น.ส.พิมพ์ชนก เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ไว้
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้พานายเริงฤทธิ์ เข้าไปตรวจค้นที่ภายในบ้านพัก พบของกลางที่เหลือทั้งหมดซุกซ่อนอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวฯ อีกทั้งผู้เสียหายที่ติดตามมากับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จำได้ว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนและชี้ยืนยัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ตรวจยึดของกลางไว้เพื่อตรวจสอบ พร้อมควบคุมตัวนายเริงฤทธิ์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ดำเนินคดีโดยกล่าวหาว่า ” ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้า ไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”
ด้านนายเริงฤทธิ์ หรือเวฟ จีนประชา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าว และยังให้การอีกว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. ของวันที่ 12 ก.ค. 2566 ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Click I สีดำ, ส้ม ทะเบียน ษบท 496 กทม. พร้อมสวมใส่ชุดที่ปรากฏตามภาพจากกล้องวงจรปิด ออกจากที่พักมุ่งหน้าเข้าพัทยา ก่อนมาพบเห็นร้านกาแฟดังกล่าวฯ ซึ่งในขณะนั้นเห็นว่าเป็นเวลาเปลี่ยวอีกทั้งไม่มีผู้คน จึงได้ตัดสินเข้าไปลงมือก่อเหตุ โดยได้เดินเข้าบริเวณด้านหลังร้านกาแฟผ่านกล้องวงจรปิด และใช้คีมตัดเหล็กที่เตรียมมาตัดบริเวณหูคล้องกุญแจ งัดแงะจนกะทั่งประตูเสียหาย จึงสามารถเข้าไปได้ลักเอาทรัพย์สินภายในร้านออกมา
เมื่อนำทรัพย์สินออกมา ได้นำไปซุกซ่อนไว้ภายในบริเวณช่องวางเท้าของรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ หลังจากได้ทรัพย์สินแล้วได้สังเกตเห็นว่าร้านดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดติดตั้งไว้บริเวณข้างร้าน อาจสามารถบันทึกภาพขณะก่อเหตุไว้ได้ จึงเดินไปที่กล้องวงจรปิดตัวดังกล่าว และได้ใช้ไม้บริเวณใกล้เคียงดีที่ขากล้องวงจรปิดจนได้รับความเสียหาย และพังลงมา จึงนำกล้องวงจรปิดกลับไปด้วย และหลังจากก่อเหตุเสร็จจึงรีบขับขี่รถจักรยานยนต์ พร้อมทรัพย์สินที่ขโมยมา พร้อมกล้องวงจรปิดมุ่งหน้ากลับไปยังที่พัก จนกะทั่งถึงสะพานข้ามคลองก่อนถึงที่พัก จึงได้นำกล้องวงจรปิดโยนทิ้งลงไปในน้ำ พอมาถึงที่พักได้ใช้เฟซบุ๊คที่มีชื่อว่า เต๋า กิตติธัช (ซึ่งเป็นเฟชบุ๊คที่ตนปลอมแปลงขึ้นมา) ประกาศขายเครื่องบดกาแฟ รุ่น S70 13 ในราคา 8,500บาท ผ่าน “กลุ่มซื้อขายเครื่องชงกาแฟ และอุปกรณ์มือสองทั่วไทย” และมีผู้สนใจเครื่องชงกาแฟดังกล่าว และได้พูดคุยตกลงราคากัน ใน ราคา 4,000 บาท ผู้สนใจคนดังกล่าวโอนเงินเข้ามาในบัญชี ธนาคารไทนพาณิช หมายเลขพร้อมเพย์ 090- 9441957 ซึ่งเป็นบัญชีธนาคารของตน จากนั้นตนจึงนำเครื่องชงกาแฟไปส่งที่ “รับ-ส่ง พัสดุทั่วไทย (ณ วัฒน์) อ่าว อุดม ทุ่งสุขลา” ซอยทุ่งสุขลา ม.4 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เลขพัสดุอ้างอิง TH 20014 BCQSVON เวลาประมาณ 10.50 น. เมื่อเสร็จตนจึงกลับบ้านพัก ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมติดตามมาควบคุมตัวได้ดังกล่าว
ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก
