ข่าวพาดหัวอุบัติเหตุ

รถเก๋งพุ่งชนท้ายรถพ่วงยับจนเกิดไฟลุกไหม้ โชคดีพลเมืองดีผ่านมาช่วยกันดับ ทัน

รถเก๋งพุ่งชนท้ายรถพ่วงยับจนเกิดไฟลุกไหม้ โชคดีพลเมืองดีผ่านมาช่วยกันดับ ทัน
เมื่อเวลา 03.30 นวันที่ 21 กรกฎาคม ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ อุดมรัตน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งชนท้ายรถพ่วง มีไฟลุก บนกลางสะพานต่างระดับมุ่งหน้าอำเภอ.วังน้อย ตำบล.คลองสวนพลูอำเภอ.พระนครศรีอยุธยาจังหวัด.พระนครศรีอยุธยาจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธศวรรย์
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Mitsubishi สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ 7120 พระนครศรีอยุธยา สภาพ ช่วง หน้ารถยนต์ ยุบเข้ามาจนถึงห้องเครื่อง พังเสียหาย ถุงลมนิรภัยทำงานและยังเกิดประกายไฟ ลุกไหม้ ห้องเครื่อง โชคดี มีพลเมืองดีขับผ่านมา ช่วยใช้น้ำดับไม่ให้ลุกลาม ใกล้กันยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ชื่อนาย ณัฐดนัยพงษ์ส ะพัง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 2 9/28 หมู่ 1 ตำบล.วังศิลาอำเภอ.วังน้อยจังหวัด.พระนครศรีอยุธยา


สภาพมีบาดแผลบริเวณหัวเข่า เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลราชธานี
สอบถาม. นาย ณัฐดนัยพงษ์ส ะพัง อายุ 29 ปี เล่าว่า ตนเองขับรถมาจากในตัวเมืองเพื่อกำลังจะกลับบ้านในเขตพื้นที่อำเภอวังน้อยพอขับมาถึงกลางสะพานก็มีรถพ่วงขับนำหน้าและพ่วงเบรคกะทันหัน ตนเองเบรคไม่ทันพุ่งชนท้ายเข้ายังจังจนทำให้ไฟลุกไหม้โชคดีมีรถ พลเมืองดีที่ผ่านมา ช่วยเหลือตนและยื่นน้ำขวดมาให้และช่วยกันดับไฟ ส่วนรถพ่วงคันดังกล่าวก็ไม่เห็นแล้ว
ต่อมาทางพนักงานสอบสวน จึงได้ถ่ายรูป และตรวจดูร่องรอยบริเวณจุดเกิดเหตุ จากนั้น ก็ได้พบรถพ่วง 18 ล้อ จอดอยู่ เลยสะพานต่างระดับ ไปประมาณ 200 เมตร สภาพ บริเวณกันชนท้ายมีร่องรอย ถูกรถชนจึงได้สอบถาม นาย มาโนช เพราแก้ว คนขับรถพ่วง เบื้องต้นทราบว่า กำลังจะขับรถ ไป อำเภอวังน้อย พอถึงกลางสะพานก็ได้ยินเสียง จนอยู่ท้ายรถ ตอนแรกก็คิดว่า ท้ายรถพ่วงหลุดแต่ก็ ไม่มีจึงได้ขับมาจอดอยู่ บริเวณ ทางลงสะพานเพื่อตรวจสอบ และมาทราบอีกที ว่ามีรถยนต์เก๋งชนท้าย รถของตนเอง และตนเอง ไม่ได้คิดหลบหนีไปไหน ซึ่งทางพนักงานสอบสวน จึงได้เชิญตัวคนขับรถ พ่วงไปทำการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุต่อไป