แม่ทัพภาค4เร่งรัดกำลังพลเร่งซ่อมสร้างบ้านที่พังจากโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ย้ำชัดอีกครั้งตั้งแต่ต้นปีไม่มีบริษัทใดขออนุญาตซื้อหรือเคลื่อนย้ายดอกไม้ไฟ
วันที่ 15 ส.ค.66 พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมายังตลาดมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา จนสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนของประชาชนเป็นวงกว้าง และมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยมีนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส รักษาราชการแทน ผกก.สภ.มูโนะ คอยให้การต้อนรับ
โดย พล.ท.ศานติ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินดูกำลังพลกำลังแยกย้ายซ่อมบ้านพักของประชาชนในพื้นที่โซนไข่ขาว หรือเป็นเขตรอยต่อกับจุดเกิดเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ที่มีบ้านพักได้รับความเสียหาย 649 หลัง และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพบก กองทัพเรือ รวมทั้งอาสารักษาดินแดน อ.สุไหงโก-ลก ได้ช่วยกันซ่อมแซมแล้วเสร็จไป จำนวน 275 หลัง ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถเข้าไปอยู่อาศัยตามปกติ ส่วนอีก 374 หลัง แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เร่งรัดให้กำลังพลซ่อมแซมให้เร็วที่สุด พร้อมได้พูดคุยขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ได้เสียสละ และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน
ต่อมา พล.ท.ศานติ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินดูการปรับหรือเคลียร์พื้นที่บริเวณโชนจุดไข่แดง หรือ จุดที่ตั้งของโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ของเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 ที่ได้นำรถแบคโฮและรถยนต์บรรทุก 10 ล้อแบบเทท้าย กำลังใช้บุ่งกี๋รถแบคโฮตักเศษซากปรักหักพังของบ้านพักประชาชนใส่รถยนต์บรรทุก 10 ล้อแบบเทท้ายนำไปทิ้ง ซึ่งการปรับพื้นที่โซนไข่แดงมีอุปสรรคบ้างในส่วนที่ต้องรอเจ้าของบ้านแต่ละหลังอนุญาต เนื่องจากเกรงทรัพย์สินของมีค่าจะหลงเหลืออยู่ใต้ซากปรักหักพัง แต่การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ลุล่วงไปด้วยดี และสามารถปรับและเคลียร์พื้นที่โซนนี้แล้วเสร็จไปร้อยละ 40 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 60 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ เพื่อส่งมอบพื้นที่ให้โยธาธิการ จ.นราธิวาส และผังเมือง เข้ามาจัดรูปที่ดินเพื่อเตรียมวางแผนก่อสร้างบ้านพักขึ้นมาใหม่ให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในโซนนี้
ด้าน พล.ท.ศานติ แม่ทัพภาค 4 ได้กล่าวย้ำถึงกรณีเหตุการณ์โกดังเก็บดอกไม้ไฟที่ตลาดมูโนะได้เกิดระเบิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนและสังคมได้รับทราบว่า มีการขออนุญาตมาตั้งแต่ปี 2565 มันจะหมดในปี พ.ศ. 2566 ซึ่งการขออนุญาตในการเคลื่อนย้ายขอมาสมัยตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งจะขออนุญาตในห้วง6เดือน ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะอนุมัติครั้งละ 6 เดือน ครั้งสุดท้ายที่เขาขอมาตั้งแต่กลางปี 65 มาหมดเอาในการเคลื่อนย้ายเดือนมกราคม ปี 2566 ฉะนั้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบันไม่มีการขออนุญาตในการเคลื่อนย้ายเลยโดยบริษัทแห่งนี้ ร้านอื่นและบริษัทอื่นไม่เคยมีการขออนุญาตเลย เพราะฉะนั้นในการเคลื่อนย้ายนี้ผมเซ็นต์อนุมัติในการเคลื่อนย้ายอย่างเดียวก็ถือว่าขาดอายุของการเคลื่อนย้ายไป
“ บริษัทที่จะเคลื่อนย้ายนำวัตถุหรือพลุเข้ามาในพื้นที่ จะต้องแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ที่จังหวัดแต่งตั้ง จะเป็นนายอำเภอหรืออุตสาหกรรมจังหวัดที่ได้แต่งตั้งมา นำเสนอขึ้นมาผ่านความเห็นชอบจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ถ้าผมเห็นชอบว่าสามารถดำเนินการได้ ก็จะส่งไปทางจังหวัดกลับไปกระทรวงมหาดไทย เพื่อที่จะอนุมัติต่างๆ เรื่องของการเคลื่อนย้ายในพื้นที่ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงแม้ขั้นตอนการเคลื่อนย้ายจะจบแล้วจะต้องมาที่ผมให้รับทราบก่อนว่า จะนำวัตถุระเบิดหรือจะนำพลุประทัดเข้ามาในพื้นที่ ประกอบกับในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานีและนราธิวาสนั้น เป็นพื้นที่ที่อยู่ใน พ.ร.ก. ตั้งแต่ปี 2548 อยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้เราออกประกาศในมาตราที่ 21 อยู่แล้วว่า ถ้าจะนำพลุประทัดวัตถุระเบิดเคลื่อนย้ายเข้ามาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องแจ้งให้กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคง ภาค 4 ส่วนหน้า รับทราบและไปตรวจสอบว่ามีการเคลื่อนย้ายตามจำนวนยอดที่ถูกต้องหรือไหม “ พล.ท.ศานติ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
////////////////////////////
ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส