ชายชาวอักฤษถูกเมียคนไทยทอดทิ้งให้อยู่กับหมา ย่านพุทธบูชา
วันที่ 9 กันยายน 2566 เวลา 15.30 น.
สืบเนื่องจากช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ( 8 กันยายน 2566 ) เจ้าหน้าที่มูลนิธิ วิน วิน พบเจอชายชาวต่างชาติ อายุ 59 ปี
นั่งอยู่ในสภาพอิดโรย ผอมโซ และมีบาดแผลจากการถูกคมเขี้ยวของสุนัขกัดเต็มตัว บริเวณริมถนนพุทธบูชา ทิศทางวัดพุทธบูชา จึงรีบประสานกับทางอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู มาให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ประสงค์ที่จะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิ วิน วิน จึงได้ส่งตัวกลับบ้านที่ซอยพุทธบูชา 34
ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ วิน วิน พร้อมผู้สื่อข่าวได้มาสอบถามความคืบหน้าเบื้องต้นและได้สอบถามถึงเรื่องราวต่างๆที่ฝรั่งคนดังกล่าวได้ประสบพบเจอแล้วความเป็นมาพร้อมทั้งความต้องการของการช่วยเหลือว่าจะต้องช่วยเหลือเขาได้อย่างไร จึงเป็นที่มาของเรื่องราวทั้งหมดในวันนี้
ทราบชื่อชาวต่างชาติคนดังกล่าวชื่อ Jason Jonathan อายุ 59 ปี ชาวอังกฤษ พักอาศัยที่บ้านเลขที่ 39 ซอย พุทธบูชา 34 ถนน พุทธบูชา แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะบ้านเดี่ยว เป็นปูน 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด อยู่กับสุนัขพันธุ์พิทบลู เพศผู้ 1 ตัวค่อนข้างดุ ตรวจสอบจากสภาพบ้านภายนอก พบผนังหน้าบ้านแตกจนมองเห็นทะลุไปถึงด้านในบ้าน ส่วนภายในบ้านพบ ข้าวของกระจัดกระจายจากการถูกรื้อค้น ฝ้าเพดานเป็นรูโหว่หลายแห่ง ทรัพย์สินภายในบ้านกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ส่วน นาย Jason อยู่คนเดียวตามลำพังกับสุนัขพันธ์ุพิทบลูที่ถูกขังเอาไว้บนบ้านชั้น 2 ริมระเบียง ในสภาพหิวโซ และภายในห้องต่างๆบนชั้นสองของตัวบ้านมีข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นห้องเต็มไปหมดเช่นกัน และจากการสอบถามจากเพื่อนบ้านข้างเคียงทราบว่า นาย Jason ได้อยู่กินกับภรรยาชาวไทย จนมีลูกด้วยกันแล้วต่อมาภรรยาชาวไทยก็ได้แยกทางจากไปส่วนลูกชายก็ได้กลับไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษกับญาติของนาย Jason ก็เลยเหลือเพียงนาย Jason กับสุนัขพันธุ์พิบลู เท่านั้นที่อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว ต่อมาไม่นาน นาย Jason เหมือนกับมีอาการเครียด ก็เลยปีนบ้านของตนเอง จนกระทั่งตกลงมาได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ยอมไปหาหมอ แล้วก็จะถูกสุนัขของตนเองกัดจนได้รับบาดเจ็บอยู่เป็นประจำอีกด้วย ส่วนภายในบ้านที่เป็นสภาพแบบนี้ก็เกิดจากอาการคุ้มคลั่งของนาย Jason เอง และที่กำแพงบ้านพังเป็นรูใหญ่ขนาดนั้นก็เพราะ นาย Jason ได้ขับรถพุ่งชนกำแพงบ้านของตนเอง เพราะว่าเข้าเกียร์ผิด
จากการสอบถามนาย อุดร โชติมณีไชยวัฒน์ อายุ 34 ปี เป็นอาสามูลนิธิ วินวิน บอกเล่าว่า เมื่อวานวันที่ 8 ตนก็มาทำธุระแถวพุทธบูชา ก็พบเห็นชายชาวต่างชาติสูงอายุ นอนอยู่ข้างถนน ไม่ทราบว่าเป็นอะไร ตนจึงกลับมาดู สภาพเค้าไม่มีแรง มีบาดแผลเต็มตัว พูดไทยไม่ได้ แล้วก็เริ่มมีประชาชนเข้ามามุงดูและประสานเจ้าหน้าที่มา สอบถามจากพนักงานกวาดถนน ก็พอทราบว่า บ้านอยู่ที่ไหนจึงพานั่งรถไปส่งให้ถึงบ้าน พอมาวันนี้ตนกับทางมูลนิธิวินวินจึงเข้ามาดูสภาพความเป็นอยู่จึงได้เห็นสภาพบ้าน คือ ข้าวของรกกระจัดกระจาย ผนังกำแพง พัง สภาพคนก็ไม่มีแรงมีแผลเต็มตัว เพราะไม่ได้กินอะไร แล้วยังพบกับสุนัขพันธุ์พิทบลูอีก 1 ตัว อยู่ระเบียงด้านบน ซึ่งเดาได้เลยว่าไม่ได้กินอะไรเหมือนกันเพราะร่างกายผอมอย่างเห็นได้ชัด ทางตนจึงออกไปหาซื้อข้าวซื้อน้ำให้ทั้งคนและก็สุนัขด้วย และก็ได้สื่อสารพูดคุยพอรู้เรื่องคร่าวๆ เพราะตนก็พูดอังกฤษไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็พอสื่อสารได้เบื้องต้น ได้ความว่า เลิกกับภรรยา แล้วก็เลยเกิดอาการเครียดสะสมมานาน
และทางด้านนาย พิสิษฐ์ เลิศศรีปัญญา อายุ 41 ปี เป็นอาสามูลนิธิ วินวิน บอกเล่าว่า ตอนนี้ทางเพื่อนบ้านได้ติดต่อไปทางภรรยาเค้าที่ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งภรรยาก็ได้ติดต่อไปทางลูกของเค้าที่ประเทศอังกฤษเพื่อให้สถานฑูตอังกฤษเข้ามาช่วยดูแลต่อ ตอนแรกที่เห็นเค้าเนี่ย รอบแรกเห็นเค้าเดินข้ามถนนไปมา ตนเสร็จธุระจึงกลับมาดูก็เห็นนอนไม่มีแรงนอนอยู่ริมฟุตบาท ถ้าเราปล่อยเค้าอยู่แบบนี้เค้าอาจจะเกิดอันตรายได้ ตนจึงช่วยประสานหน่อยงานอาสาให้ช่วยกันพากลับเข้ามาพักในบ้าน วันนี้จึงกลับเข้ามาดูสภาพความเป็นอยู่ว่าเป็นยังไง จากการที่สอบถามคือ สาเหตุที่เค้าบาดเจ็บจากอุบัติเหตุตกจากหลังคาทำให้บาดเจ็บเดินไม่สะดวก และทำอะไรไม่สะดวกจึงเกิดความเครียดสะสมจากการเจ็บปวดของเค้า บางครั้งถึงต้องระบายทำร้ายกับข้าวของในบ้าน เบื้องต้นเค้าไม่ต้องการการรักษาด้วยเหตุผล อะไรยังไม่ทราบ แต่ละแวกเพื่อนบ้านก็อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยดูแล เพราะปล่อยไว้แบบนี้เกรงว่าจะเกิดอันตรายถึงชีวิตไว้ ไม่ใช่แค่ตัวเค้าแต่ยังมีสุนัขอีก 1 ตัว ทีนี้ทางมูลนิธิวินวินยังคงเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องข้าวปลาอาหารให้ก่อนทั้งคนทั้งสุนัขด้วย ตอนนี้ก็ติดต่อทางญาติที่อังกฤษได้แล้วก็อยู่ในขั้นตอนของการดำเนิการทางสถานฑูตอังกฤษอยู่ ส่วนทางด้านภรรยาก็ทราบว่าเลิกรากันไปแยกทางกันอยู่นานแล้ว
ส่วนทางนาย ภูวกร ศรีเนียน อายุ 50 ปี เลขานุการมูลนิธิ วินวิน บอกว่า จากกรณีอาสาของมูลนิธิวินวินไปเจอคุณเจสันมาเมื่อวานเป็นชายต่างชาติที่สูงวัย ไม่มีแรงนอนอยู่ข้างถนน ทางอาสาเราเห็นว่าถ้าปล่อยไว้อาจจะเกิดอันตรายจึงเข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้น สุดท้ายคือมีเจ้าหน้าที่หลายส่วนเข้ามาช่วยกันนำพามาส่งบ้าน กรณีนี้จะเห็นว่าถ้าเค้าเป็นคนไทยการช่วยเหลือจะง่ายขึ้น พอเค้าเป็นคนต่างชาติถึงแม้ว่าจะอยู่เมืองไทยมา 20 กว่าปีแล้วก็ตาม พอเป็นคนต่างชาติที่พูดไทยไม่ได้เนี่ย โอกาสที่คนรอบตัวจะเข้ามาช่วยเหลือเนี่ยมันยาก เมื่อวานได้ช่วยเหลือพามาส่งบ้าน วันนี้จึงตามมาดูสภาพแวดล้อมที่บ้าน อย่างเคสเนี่ย พอเราได้มีโอกาสมาที่บ้านแล้ว ถ้าดูสภาพบ้านเหมือนคนมีฐานะ แต่จริงๆแล้ว สภาพเค้าดูแลตัวเองไม่ได้เลย แถมหนำซ้ำยังมีสุนัขพิทบลูที่เค้าเลี้ยงไว้อีก 1 ตัว สภาพผอมโซไม่แพ้เจ้าของอย่างตัวเค้าเอง เค้าจำเป็นต้องเอาเจ้าพิทบลูไปขังไว้ที่ระเบียงเพื่อป้องกัน ไม่ให้มาทำร้ายตัวเค้าเอง จึงทำให้ไม่มีข้าวไม่มีน้ำกิน เป็นเหตุให้ส่งเสียงรบกวนคนรอบข้างบ้าง ตัวเค้าเองก็ไม่มีแรงที่จะขึ้นไปให้ข้าวให้น้ำ กลัวว่าจะโดนทำร้ายจากสุนัขเองด้วย ตอนนี้ก็ได้ทราบว่าทางมูลนิธิวินวินและคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องได้ติดต่อทางญาติ ทางภรรยาที่เลิกรากันแล้ว ทางสถานฑูต ต่างก็รับรู้เรื่องราวของคุณเจสันแล้ว ระหว่างนี้ก็อยู่มนขั้นตอนของการช่วยเหลือให้ได้กลับไปบ้านเกิดของเค้า แต่ช่วงที่ยังอยู่ตอนนี้ทางเราก็จะเข้ามาช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินทั้งของคุณเจสันและเจ้าพิทบลูไปก่อน ถ้าเกิดไม่มีใครดูแล เค้าคงแย่ทั้งคนทั้งสุนัข เมื่อวานเราช่วยคน วันนี้ก็เข้ามาดูที่บ้านก็เจอสุนัขอีกตัว เลยออกไปหาข้าวหาน้ำมาให้ทั้งคนทั้งสุนัขให้ได้กินอิ่มท้อง จะได้มีแรงใช้ชีวิตได้ต่อไป ในวันข้างหน้าถ้ามีเจ้าหน้าที่ทางสถานฑูตมารับตัวกลับไปแล้ว เจ้าพิทบลูก็จะส่งต่อให้ทางเครือข่ายที่ดูแลสุนัขรับกลับดูแลให้ ถือว่าเป็นอีกภาระกิจนึงเพราะว่าถ้าเกิดไม่มีใครดูเนี่ย เค้าอาจเกิดอันตรายได้ แม้เค้าจะเป็นชาวต่างชาติแต่เค้าก็เป็นคนคนนึงที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่เราต้องช่วยกันดูแล ทางมูลนิธิวินวินในพื้นที่ เรามีเครือข่ายอาสาหลายอย่าง สำหรับเคสทั่วไป เราทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือในเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรม ติดต่อภาครัฐไม่ได้ แล้วรู้สึกว่าไม่กระชับกระเฉง หรือ ติดต่อแล้วไม่เข้าใจกัน ทางมูลนิธิวินวินจะช่วยติดต่อประสานให้ ช่วยเหลือหน่วยงานภาครัฐไม่ว่าจะเป็นตำรวจ พม. ปกครอง ยินดีเป็นสื่อกลางประสานช่วยเหลือให้
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิ วิน วิน ได้ประสานทางญาติที่อยู่ประเทศอังกฤษแล้ว ส่วนทางญาติในขณะนี้ได้เดินเรื่องกับทางสถานฑูตเพื่อดำเนินการช่วยเหลือให้ นาย Jason ได้กลับบ้านแต่ตอนนี้ยังต้องรอเดินเรื่องเอกสารอะไรอีกหลายอย่างหลายขั้นตอน แต่ช่วงนี้ทางมูลนิธิ วิน วิน ก็จะมาช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกิน 3 มื้อ และจะช่วยเรื่องของอาหารสุนัขด้วย จนกว่า นาย Jason จะได้กลับประเทศของตน และต่อไปถ้า นาย Jason กลับไปโดยไม่นำสุนัขไปด้วย ทางมูลนิธิ วิน วิน ก็จะประสานหน่วยงานที่รับดูแลสุนัข มารับไปดูแลต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.