ข่าวพาดหัวร้องเรียน

ชาวบ้านร้องเพจดัง มีนายทุนบุกรุกพื้นที่ลำรางสาธารณะ หลายสิบไร่

ชาวบ้านร้องเพจดัง มีนายทุนบุกรุกพื้นที่ลำรางสาธารณะ หลายสิบไร่
เพจดังบิ๊กเกรียน โพสต์ประชาชนสุดทน ร้องสื่อจี้เทศบาลตำบลเขาชีจรรย์และภาครัฐ ตรวจสอบที่ดินสาธารณะ ถูกนายทุนจ้างเอกชนมารังวัด โดยไม่แจ้งเทศบาลฯ ร่วมตรวจรังวัด เสนอหน่วยงานขอเอกสารสิทธิ์ตรวจสอบ หวั่นพื้นที่ติดต่อที่เป็นลำรางสาธารณะกว่า 20 ไร่ ถูกบุกรุก


เทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 10 ลั่น ขอให้ประชาชนไว้วางใจ จะติดตามทวงคืนที่สาธารณะคืนทั้งหมด เรื่องนี้ประชาชนในพื้นที่ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ร้องเรียนเพจบิ๊กเกรียนว่า ได้มีนายทุนนอกพื้นที่เข้ามาซื้อที่ดินจากชาวบ้านที่ครอบครองเดิม ในเขตเทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ หมู่ที่ 7 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ปัจจุบันกลายเป็นแผ่นดินทองของนักธุรกิจใหญ่ จากกรุงเทพฯ
โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางนงค์ลักษณ์ จิตรใจกล้า รองนายกเทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ นายจิตติณ โรจน์บุนส่งศรี นิติกร และนายพชร ศรีวิชัย ผอ.กองช่าง ทต.เขาชีจรรย์ ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนพร้อมทั้งเดินทางไปในพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียน โดยมี ดร.สะถิระ เผือกประพันธ์ สส.เขต 10 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในฐานะตัวแทนของประชาชนเดินทางร่วมตรวจสอบแนวเขตสถานที่ ที่ได้รับการร้องเรียน ในเบื้องต้นเทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ และ สส. ได้ให้การยืนยันว่าจะทวงคืนที่ดินสาธารณะที่ถูกบุกรุกทั้งหมดคืนให้รัฐใช้ประโยชน์ โดยไม่ให้ตกไปสู่การบุกรุกและครอบครอง จากนายทุนอย่างแน่นอน


นางนงค์ลักษณ์ จิตรใจกล้า รองนายกฯ เปิดเผยว่า ทางเทศบาลฯ มิได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากปัญหาการบุกรุกลำรางสาธารณะ เกิดขึ้นก่อนที่ผู้บริหารชุดใหม่จะเข้ามารับผิดชอบ จึงต้องใช้เวลาและความรอบครอบให้มากที่สุด ในการทวงคืนที่ดินสาธารณะให้กับรัฐ โดยเฉพาะบริเวณทางเข้าโรงแรมฯ และด้านข้างได้ถูก นายทุนว่าจ้างบริษัทฯ เอกชนมาทำการรังวัดเอง โดยไม่ได้แจ้งทางเทศบาลฯ และที่ดินอำเภอสัตหีบ และนำแผนที่ที่ดินที่วัดแล้วมายื่นเสนอ เพื่อให้มีการรับรองที่ดินไปสู่การออกเอกสารสิทธิ์ แต่เรื่องนี้ยังไม่สามารถทำสำเร็จ เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการโต้แย้งหรือร้องเรียน จากประชาชน หรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย


และยังได้กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ลำรางสาธารณะที่มีบ้านเรือนไม้เก่าปลูกอยู่ในลำราง จำนวน 2 หลังนั้น จากข้อมูลท้องถิ่นเดิมได้มีผู้ที่ครอบครองที่ดินเดิมปลูกสร้างไว้เก่า ไม่ใช่การบุกรุกของนายทุนแต่อย่างใด ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่า ลำรางสาธารณะเดิมที่เป็นต้นน้ำที่ไหลลงมาจากเขตป่าไม้ห้ามล่าเขาชีโอนไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยตู้ ด้านหลังเขาแกะพระใหญ่เขาชีจรรย์ ขณะนี้พบว่านายทุนได้ว่าจ้างคนงานปรับพื้นที่ เพื่อก่อสร้างอาคารต่าง ๆ จะต้องแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเขตลำรางสาธารณะเดิม เพื่อกันพื้นที่ไม่ให้นายทุนบุกรุกอีกต่อไป ถ้าพบว่ามีการบุกรุกที่สาธารณะจะต้องบังคับใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัด


ส่วนทางด้าน ดร.สะถิระ เผือกประพันธ์ หรือ ดร.เอ สส.เขต 10 พรรคพลังประชารัฐ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กล่าวว่า ขอให้ประชาชนไว้วางใจทางเทศบาลฯ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการปฎิบัติหน้าที่การดูแลแผ่นดินสาธารณะในพื้นที่รับผิดชอบ จะไม่ยอมให้นายทุนเข้ามาบุกรุกเพื่อนำไปทำประโยชน์ให้กับตัวเองอย่างแน่นอน ซึ่งการเฝ้าระวังพื้นที่ต้องเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม เพราะในขณะนี้พื้นที่ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นแผ่นดินทองที่นายทุนในกรุงเทพฯ และที่อื่น ๆ ต้องการเข้ามาทำธุรกิจร้านอาหาร ที่พักอาศัย กันเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ดังกล่าวนี้ จากที่ดินเดิมไม่มีราคาแต่ขณะนี้ราคาพุ่งไปแล้วไร่ละ ประมาณ 16-20 ล้านบาท จึงทำให้ที่ดินหัวไร่ปลายนาและที่ดินตกสำรวจ จะมีนายทุนเข้ามาซื้อและยึดครองกันเป็นจำนวนมาก

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
พสิษฐ์ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก