ข่าวพาดหัวจับกุมตรวจสอบ

ระทึก พระตำรวจ ( พระจริง ) วิ่งไล่จับ พระปลอม ออกไปกลางถนนแต่หนีไม่รอดจับถอดผ้าเหลือง

ระทึก พระตำรวจ ( พระจริง ) วิ่งไล่จับ พระปลอม ออกไปกลางถนนแต่หนีไม่รอดจับถอดผ้าเหลือง
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 08.00 น วันที่ 30 ตุลาคม 2566 พระมหาเพชร (ภทุทจาโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดครุนอก พระวินยาธิการ หรือ ตำรวจพระ ตำบลบางครุ และ ตำบลบางจาก ได้รับแจ้งจากญาติโยมพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดวัดครุใน ว่ามี พระ 1 รูป แต่งกายไม่เหมาะสมเดินบอกขอทำบุญเพื่อขอปัจจัยไปเป็นค่ารักษาตัว หลังรับแจ้ง พระมหาเพชร พร้อมด้วยพระสงฆ์จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมตรวจสอบ / พอไปถึงบริเวณป้ายรถเมล์หน้าตลาดครุใน ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลบางครุ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้พบ พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 1 รูป นั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ระหว่างที่ พระมหาเพชร แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังเดินเข้าไปตรวจสอบก็มีพ่อค้าแม่ค้าญาติได้มาแจ้งว่าพระรูปนี้มาเดินขอเรี่ยไรขอตังค์ เพื่อไปรักษาตัวและดูเหมือนไม่ใช่พระจริง / พระมหาเพชร พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเดินเข้าไปตรวจสอบพระรูปดังกล่าว เพื่อสอบถามและขอดูสูติบัตรพระภิกษุ โดยพระรูปดังกล่าวไม่มีสูติบัตรพระภิกษุสงฆ์มาแสดง จึงได้ขอตรวจสอบภายในย่ามพบมีเพียงถุงยารักษาโรคและบัตรคนพิการบัตรประชาชนซึ่งระบุเป็นนายและเอกสารอื่น ๆ จากนั้นจึงได้สอบถามพระรูปดังกล่าวว่าไปบวชอยู่ที่วัดไหน และ ประจำที่วัดไหน


จากการตรวจสอบพบเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนชื่อ นายบุญฤทธิ์ วงนิล อายุ 69 ปี ชาว ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามว่าบวชอยู่วัดไหน นายบุญญฤทธิ์ ตอบมาหลายวัดมากทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด พอเช็คไปที่ต้นสังกัดหรือวัดที่อ้างมาก็ได้รับแจ้งว่าไม่ได้เป็นพระประจำวัด ขณะที่สอบถามพระรูปดังกล่าว มีอาการเอะอะโวยวาย และ วิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ พระวิญญาธิการ ออกไปนอกถนนจนชาวบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิ่งไล่จับ เพื่อควบคุมตัวมาที่ปลอดภัย หลังจากนั้นทางที่ตำรวจจึงนำตัวพระรูปดังกล่าวไปที่วัดครุนอกเพื่อไปพบกับ พระครูโสฬสวชิรปราการ เจ้าคณะตำบลบางครุและบางจาก เจ้าอาวาสวัดครุนอก เพื่อทำการไต่สวน จนสรุปว่าพระรูปดังกล่าวไม่ใช่พระ ทางพระวินยาธิการ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการถอดผ้าเหลืองออก และนำตัวไปดำเนินคดีในข้อหา แต่งกายคล้ายพระภิกษุสงฆ์นักพรตหรือนักบวชโดยไม่รับอนุญาต และ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายบุญมา กรุดเพรช อายุ 63 ปี เล่าว่า ตนเองออกมาพบพระปลอมคนดังกล่าว ตนเองคุ้นหน้าเหมือนเคยเห็นในข่าวที่ถูกจับที่ จังหวัดสมุทรสาคร ตนเองจึงไปขอดูใบสุทธิ แต่กลับถูกขึ้นเสียงใส่ว่าไม่มีสิทธิ์ หรือ หน้าที่ที่จะมาขอดู จากนั้นระหว่างยืนคุยกัน พระองดังกล่าวได้วิ่งหนีออกไปกลางถนนใหญ่ ระยะทางประมาณ 100 เมตร จนชาวบ้านแถวนั้นช่วยกันนำรถขวางไว้ไม่ให้วิ่งต่อ และ พยายามพูดคุยให้กลับเข้ามาริมถนน จนกระทั่งพระองค์ดังกล่าวเห็นรถโดยสาร จึงเดินกลับมาข้างถนนและพยายามจะขึ้นรถหนี ตนเองจึงตะโกนไปว่าไม่ให้รถเมล์เปิดประตูรับ จนรถรถไปขับออกไป จากนั้นไม่นานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ และ คุมตัวไปถอดผ้าเหลืองกับเจ้าคณะตำบล ที่วันครุนอก


พระมหาชลธี ชิตมาโร กล่าวว่า ตอนแรกอาตมาก็เดินบิณฑบาตธรรมดา ที่นี้ญาติโยมแจ้งว่ามีพระที่ไหนมาไม่รู้ พระปลอมหรือเปล่า เพราะว่ามันเคยมีข่าวออกมาว่า พระรูปนี้เคยไปโวยวายแถววงเวียนใหญ่ ก็เดินเข้าไปทางตลาดคุรใน ตอนแรกอาตมาก็ไม่เอะใจอะไร ก็เดินไปปกติธรรมดา กับพระอีกรูป แต่พอกำลังจะกลับ เดินออกมาถึงหน้าปากซอย ก็เดินสวนกับอาตมาพอดี ก็ดูว่าแต่งกายไม่เรียบร้อย แล้วผ้าก็สกปรกไม่มีบาตรด้วย อาตมาเห็นเขาไปนั่งที่ป้ายรถเมล์ที่ตลาดคุใน ญาติโยมก็ชี้ให้อาตมาดู อาตมาก็ยืนดูอยู่สักพักนึง ก็คุยกันกับพระอีกรูปว่าจะเอายังไงดี ถ้าเขามาแบบนี้ไม่ได้บิณฑบาตไม่ได้เรี่ยไร จะทำยังไงดี พระอีกรูปก็บอกเดี๋ยว ไปตรวจสอบดูก่อนว่ามีใบสุทธิไหม มีบัตรประชาชนไหม ก็ไปถึงก็ถามเขาว่ามาจากไหนอะไรยังไง ทีนี้เขาก็โวยวายขึ้นมาเลย เนี่ยอย่างนี้เจอมาเยอะแล้วไม่กลัวหลอก แล้วเขาก็ชี้หน้าตบที่นั่ง ก็คุยกันอยู่สักพักนึง ก็มีโยมที่อยู่คุใน ซึ่งเป็นคุณตา เขาก็มาพูดแล้วก็มาว่าเลย เนี่ยก็เพราะมีพระอย่างคุณนี้ไง ศาสนาถึงเสื่อม เขาก็มีปากเสียงกัน คุณตาเขาก็ปกป้องพุทธศาสนา พอพูดไปพูดมา พระ(ปลอม)รูปนี้เขาก็วิ่งหนีไปกลางถนน แล้วโยมพี่ก็มาเห็นก็วิ่งตาม ทำให้รถติดการจราจรติดขัด ก็เลยโทรเรียกสายตรวจ โทรเรียกตำรวจ เรียกอะไรมา สุดท้ายตรวจแล้วพบว่าบัตรประชาชนเป็นโยมแต่ตัวเป็นพระ แล้วก็ไม่รู้ว่าสังกัดอยู่ที่ไหน เห็นบอกว่าบวชอยู่หลายที่ แต่เราตรวจสอบไม่ได้ พอตรวจสอบไม่ได้อย่างนี้ คือว่าเราก็ไม่รู้ เขาอาจจะใส่ผ้าเหลืองมาหากินก็ได้ ที่จริงเป็นพระทุกวันนี้ต้องมีสังกัด มีใบสุทธิให้เรียบร้อย และก็บัตรประชาชนทุกวันนี้ก็เป็นพระแล้ว เพราะเราจะไปไหนมาไหน ปกติแล้วใบสุทธิขึ้นอยู่ที่พระอุปชา บางคนบวชก็ได้เลย ก็มี บางคนบวชก็ยังไม่ได้ขึ้นอยู่กับพระอุปชาจะออกให้ แต่ถ้าเราอยากได้เร็วก็ไปขอกับพระอุปชาก็ได้
นายบุญญฤทธิ์ วงษ์นิล อายุ 69 ปี (พระปลอม) กล่าวว่า เมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่แล้ว ตนถูกกล่าวหาว่าเป็นพระเก๋ ที่วงเวียนใหญ่ ตอนนั้นตนก็มีเอกสารแบบนี้แหละให้เขาดู แต่ไม่มีสุทธิพระ โดนจับมา 3 รอบแล้ว ที่วงเวียนใหญ่ ที่มหาชัย และที่นี้ ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่เป็นไร จะจับสึกก็ไม่เป็นไร จะจับเข้าคุกก็ไม่เป็นไร ตนไม่มีอะไร ตามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เข้าบอกมา ขนาดขอทานตนยังซื้อเอ็มให้ดื่มกันคนละขวดมันดีใจใหญ่เลย ส่วนเรื่องการห่มผ้าที่ผิดเนื่องจากตนป่วย เคยถูกรถชนจนยกแขนแล้วรู้สึกเจ็บ พระป่วยอาพาธจะเอามาเปรียบเทียบแทงเป็นพระเก๋หรือพระปลอมอย่างเดียวไม่ได้ คนเป็นตำรวจ คนมีความรู้ฟังไว้นะอย่างลืม คนที่สร้างเวรสร้างกรรมต้องชดใช้ไม่ช้าก็เร็ว ถ้าจะจับพระต้องไปจับพระเขมรนั้น ที่มันขโมยของเซเว่น ผมเห็นมาคาตาเลยพระเขมรเนี่ย หยิบของเข้าไปแล้วไม่ยอมจ่ายตั้ง ผมก็เฉย ๆ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าเราไม่มาเราก็ไม่เห็น และ ไม่มาเราก็ไม่รู้ เราต้องมาเราต้องเห็น เราก็ถึงได้รู้ เขาเรียกว่ามีประสบการ
***************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ