เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ นำกำลังพร้อมกับหมายจับ จาก ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าจับกุมตัว นาย ชนินทร์ รื่นเริง นายก อบต.บางปลา พร้อมกับคนสนิทหน้าห้อง ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือจะรับทรัพย์สินโดยมิชอบ ตาม ป.อ. มาตรา 149 และ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 157 โดยจับกุมตัวได้คาห้องทำงานใน อบต. ท่ามกลางความตื่นตกใจของคนใกล้ตัวนายกรวมถึงพนังกานใน อบต. หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเงินสดหลักล้านบาทในห้องทำงาน พร้อมกับ อาวุธปืน ออโตเมติก 9 มม. จำนวน 1 กระบอก เอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงในการตรวจค้นหลักฐานและและเอกสารต่างๆที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวไปตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนจะนำตัว นายก อบต.บางปลา ออกมาจากห้องทำงานขึ้นรถตู้ไปยังบ้านพักเพื่อนำตรวจค้นบ้านพักตามหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
นาย ชนินทร์ รื่นเริง นายก อบต.บางปลา ให้ข้อมูลสั้นๆกับนักข่าวว่า ตนเองไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนและยืนยันในความบริสุทธิ์ ซึ่งหลังจากนี้ก็เตรียมยื่นของประกันตัวและเข้าสู่ขบวนการตามกฎหมาย ตอนนี้ไม่รู้สึกกังวลอะไร กับเหตุการณ์ครั้งนี้
พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย ผกก.2 บก.ปปป. เปิดเผยว่า นอกจาก ตัว นายก อบต.บางปลาที่ถูกจับกุมตามหมายจับแล้ว เจ้าหน้าที่จับกุมตัว เลขาส่วนตัวหรือหน้าห้องของนายก อบต.บางปลา ด้วยอีกคน โดยแจ้งข้อหา นอกจาก มาตรา 86 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นสองจุดคือบ้านพักของนายกและบ้านพักของเลขาส่วนตัวหน้าห้อง เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมและคุมตัวไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ส่วนการเข้าจับกุมในครั้งนี้มีรายงานว่าเป็นการจับกุมในเรื่องของการเรียกรับผลประโยชน์จากการถมดินในพื้นที่ของ อบต.บางปลา ซึ่งมีตัวเลขในการเรียกรับสูงถึงหลักล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการรับเหมารายหนึ่งออกมายื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ให้ตรวจสอบ กระทั่งมีการวางแผนจนได้หลักฐานเพียงพอว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จนศาลอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ มีรายงานเจ้าหน้าที่จะแถลงข่าวอีกครั้ง
********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
