อาชญากรรม

ตำรวจเร่งไล่ล่าแม่ใจยักษ์คลอดลูกแล้วทิ้ง ย่านประชาอุทิศ

ตำรวจเร่งไล่ล่าแม่ใจยักษ์คลอดลูกแล้วทิ้ง ย่านประชาอุทิศ

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566
เวลา 10.00 น.

ร้อยตำรวจเอก นวมินทร์ ขุนพาสน์ รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีผู้พบศพเด็กทารกแรกเกิดถูกนำมาทิ้งไว้บริเวณกองขยะ ท้ายซอยประชาอุทิศ 17 จึงเร่งรุดจัดกำลัง พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช กับหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดภายในซอยประชาอุทิศ 17 ถนน ประชาอุทิศ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร บริเวณท้ายซอย จุดเกิดเหตุเป็นลักษณะพื้นที่ว่างเปล่าอยู่บริเวณริมคลองแจงร้อนซึ่งชาวบ้านใช้เป็นที่ทิ้งขยะ จากการตรวจสอบแล้วพบศพเด็กทารกแรกเกิด อายุครรภ์ 9 เดือน เพศ ชาย ถูกซุกเอาไว้ภายในกล่องผ้าสีเทา สวมทับด้วยถุงพลาสติกใบใหญ่ ข้างเคียงพบผ้าห่มผืนใหญ่สีน้ำตาลเปื้อนเลือด เจ้าหน้าที่ตำรวจนำศพเด็กทารกดังกล่าวขึ้นมาตรวจสอบพบว่ามีบาดแผลคล้ายถูกมีดแทงที่คอ เป็นบาดแผลลึกประมาณ 2-4 นิ้ว ยาวประมาณ 3 ซม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนทางคดี และได้เก็บรวบรวมวัตถุพยานที่พบภายในที่เกิดเหตุทั้งหมดเอาไว้ด้วย

นาย สานิท คำพันธ์ อายุ 52 ปี คนเก็บของเก่า ผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า ตนมีอาชีพเก็บของเก่าขาย เมื่อวานนี้ตอนประมาณซัก 5-6 โมงเย็นตนเจอถุงลักษณะเป็นถุงพลาสติกใสใบใหญ่ในกองขยะ ผูกปากถุงไว้อย่างแน่นหน้าด้านในมีกล่องผ้าสีเทา และมีผ้าห่มผืนใหญ่สีน้ำตาลอยู่ด้วย ตนจึงเก็บเอาไว้ก่อน แล้วมาเปิดดูอีกทีตอนช่วง 6 โมงเช้า พอแกะถุงออกก็พบกล่องผ้าใบใหญ่สีเทา ด้านในมีผ้าห่มสีน้ำตาลผืนใหญ่ แล้วพอเปิดผ้าห่มดูก็เห็นว่ามีเด็กทารกอยู่ด้านในผ้าห่มด้วย ก็เลยตกใจแล้วก็ไปหาเพื่อนบอกให้ช่วยแจ้งประธานชุมชนให้หน่อยว่าเจอศพเด็ก แต่ตนรู้สึกว่าวิญญาณของเด็กคนนี้ตามตนมาตั้งแต่เมื่อคืนเพราะว่าทุกทีเดินไปในซอยบ้านหมาไม่เคยเห่าแต่เมื่อคืนหมาเห่าทั้งซอย แล้วก็รู้สึกว่านอนไม่ค่อยจะหลับ แต่ก็ไม่รู้ว่าตนคิดได้อย่างไรหรือมีอะไรมาดลใจให้ตนมาเปิดถุงดูปกติตนจะไม่ค่อยออกมา จะมาตรงนี้อีกทีก็ตอนเย็นๆ เมื่อเช้าตนว่าจะไปซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ แล้วก็เดินไปใช้เพื่อนให้ไปซื้อให้หน่อยแต่เพื่อนบอกตนว่าขี้เกียจเดิน ตนก็เลยเดินมาตรงนี้แล้วก็มาเปิดถุงดูก็พบว่ามีศพเด็กอยู่ข้างใน

ส่วนทางด้าน นาง ภัสสภรณ์ ป่าเขียว อายุ 62ปี ประธานชุมชนสถาพร กล่าวว่า พอดีหลานชายเขาไปบอกกับตนที่บ้านประมาณ 7 โมงกว่า ว่า อาน้อย อาน้อย มีศพเด็กอยู่บริเวณท้ายซอยตรงที่ทิ้งขยะก็เลยโทรแจ้งเหตุไปที่หมวดน้อย สน.ราษฎร์บูรณะ ว่ามีหลานมาแจ้งว่ามีเด็กตายอะไรๆตรงนี้ก็ขอให้มาช่วยเช็คดูหน่อย หมวดน้อยก็ประสานไปที่ร้อยเวร แล้วตำรวจก็มาแล้วรอบนึงแต่ก็หากันไม่เจอ ตนเองก็เลยออกเสียงตามสายว่าเมื่อกี้มีใครมาแจ้งว่ามีเด็กตายตรงนี้ขอให้เช็คหน่อยนะเพราะเราแจ้งไปทาง สน.แล้ว แต่เขาหากันไม่เจอมันก็อาจจะเป็นการแจ้งความเท็จได้ตำรวจเขามามันก็เสียเวลาเขา แล้วตนก็โทรกลับไปที่ สน. เพื่อขอโทษกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วทางหมวดน้อยก็บอกมาว่าถ้าเจอแล้วให้ถ่ายรูปส่งมาให้หน่อยจะได้ยืนยันได้ว่ามีเหตุจริง แล้วพอเวลา 10 โมงเช้าก็มีชาวบ้านมาพบว่ามีศพเด็กจริงๆตนก็เลยรีบมาดูแล้วก็ถ่ายรูปส่งไปเพื่อยืนยันแล้วสักพักเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาตรวจสอบ ตนเองคาดว่าไม่น่าจะเป็นคนที่อยู่ในชุมชนของตนแน่นอน แล้วซอยนี้ก็มีอยู่หลายชุมชนที่อยู่รวมกันก็เลยไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุมาจากตรงไหนกันแน่ แล้วพม่าที่อาศัยอยู่ภายในชุมชนของตนก็จะชอบเด็ก อยากให้ลูกเกิดมาที่เมืองไทย จึงมั่นใจว่าไม่ใช่พม่าที่อาศัยอยู่ในชุมชนของตนแน่นอน

และจากการสอบถาม นาย ดำริ ทองดำ อายุ 44 ปี จยย.รับจ้างภายในซอยประชาอุทิศ 17 กล่าวว่า เมื่อเช้ามีคนมาบอกกับตนว่าเห็นมีคนเอาถุงดำมาทิ้งใต้ต้นหูกวาง ตนก็มาหานะแต่ก็ไม่เจอถ้าเจอก็จะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ แล้วตนก็เลยออกไปวิ่งรถเพื่อรับผู้โดยสารต่อ แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมา 4 คน มาหาถุงดำใต้ต้นหูกวางแต่ก็ไม่เจอเหมือนกัน แล้วคนที่วิ่งมาบอกก็มาหาตนอีกครั้งแล้วเขาก็ถามว่าเจอศพเด็กหรือเปล่าตนก็บอกว่าไปดูแล้วไม่ใช่ศพเด็กแต่เป็นศพแมว ตนก็เลยคิดว่าคนที่มาบอกตนนั้นเขาน่าจะเห็นคนที่เอามาทิ้ง

และจากการสอบถาม นาง สมพร นาคบุตร อายุ 68 ปี กล่าวว่า มีคนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วรอบนึงคุณตำรวจก็มากัน 4 คน แล้วก็มาหากันไม่เจอ เขาก็บอกว่าที่หลังดูอะไรให้ดีนะครับแล้วค่อยแจ้งผมไปแล้วซักพักนึงก็มีคนมาคุยขยะเจอ ก็เลยแจ้งไปใหม่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มา ศพเด็กเป็นเพศชายยังมีสายสะดืออยู่เลย ตนก็เลยคิดว่าเด็กคนนี้เฮี้ยนแรงมากเมื่อเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาแล้วแต่ทำไมไม่เจอทั้งๆที่ยังเช้าอยู่สว่างขนาดนั้นยังหาไม่เจอ พอตำรวจกลับไปแล้วถึงหาเจอ ส่วนที่ตรงนี้ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก อยากจะฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยมาเก็บขยะตรงนี้ออกไปหน่อยเพราะตนกลัวว่าจะเป็นต้นเหตุทำให้ไฟไหม้ได้เพราะกองขยะหนาแน่นมากใครทิ้งบุหรี่ลงไปก็ทำให้เกิดไฟไหม้แล้วนะแบบนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการติดตามแม่ของเด็กทารกดังกล่าวมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และจะลงพื้นที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบอีกครั้ง

ชุติเดช ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.