ทะเลาะวิวาท

มอบตัวแล้วหนุ่มหัวร้อนบุกชกคู่กรณีในร้านฟาสต์ฟู้ดย่านบางเสาธง

มอบตัวแล้วหนุ่มหัวร้อนบุกชกคู่กรณีในร้านฟาสต์ฟู้ดย่านบางเสาธง
จากกรณีที่มีสองหนุ่มโรงงานหอบหลักฐานมาร้องสื่อนักข่าวที่สมุทรปราการ ว่าถูกชายวัยรุ่นไม่ทราบนาม บุกเข้ามาชกต่อยในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง ในอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งผู้เสียหายถ่ายคลิปเอาไว้ได้ ส่วนสาเหตุมาจากที่ผู้ก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์มาแล้วผ้าอ้อมสำเร็จรูปตกกลางถนนก่อนจะวนขี่รถจักรยานยนต์ย้อนสรไปเก็บ จังหวะนั้นผู้เสียหายมี่ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมาต้องหักหลบจึงมีการว่ากล่าวตักเตือนผู้ก่อเหตุได้ด้วยความหวังดี แต่กลับถูกอีกฝ่าย ตามมาถึงร้านอาหารและชกต่อยจนอีกฝ่ายต้องต่อยสวนกลับเพื่อป้องกันตัวด้วยเช่นกัน เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงบ่ายวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 และออกมาร้องต่อนักข่าวเราในช่วงสาย วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566


ล่าสุดเมื่อเวลา 18.30 น. วันเดียวกัน นายเอกชัย ทองพูล อายุ 27 ปี ผู้ก่อเหตุ เดินทางมายัง สภ.บางเสาธง เพื่อเข้าพบกับ พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง และ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อมอบตัวรับผิดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยผู้กำกับต้องนั่งหัวโต๊ะให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยและเจรจาตกลงกันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่ง นายเอกชัย ยอมรับส่าหัวร้อน ที่ถูกอีกฝ่ายขึ้นเสียงใส่กรณีที่อีกฝ่ายอ้างว่าพูดเพื่อเตือนเพราะหวังดี แต่นายเอกชัย อาจจะหูแว่วคิดว่าอีกฝ่ายจะหาเรื่องและพยามจะเปิดเบาะรถจักรยานยนต์ ด้วยความคาใจและอารมณ์ร้อน จึงขับขี่ตามาที่ร้านอาหาร ประจวบเหมาะเจอกับรุ่นน้องที่เคยรู้จักกันในวงกัญญา จึงบอกกับน้องว่าตนเองมีเรื่องมาช่วยหน่อย แต่ให้ยืนคุมเชิงด้านนอกกระทั่งปรากฎตามคลิป
นายเอกชัย บอกว่า ตนเองขับรถรถจักรยานยนต์ออกมาซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้พ่อ แต่ขับเลยไปซื้อกัญชาด้วยเพราะตนเองเสพกัญชา ระหว่างทางรีบขับรถจักรยานยนต์เพื่อเอาผ้าอ้อมสำเร็จรูปไปให้พ่อ โดยเอาไว้ที่ตะกร้าหน้ารถรถจักรยานยนต์แล้วมันปลิวหล่นกลางถนนจึงวนรถกลับไปเก็บ กระทั่งเจอคู่กรณีทั้งสองคน แล้วมีการตะโกนพูดใส่ตนเองซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าอาจหูแว่วไปได้ยินน้ำเสียงและคำพูดที่อาจไม่เข้าหู จึงทำให้หัวร้อนตามมาเอาเรื่องที่ร้านอาหารดังกล่าว ทั้งนี้ตนเองยอมรับผิดและขอโทษผู้เสียหาย ด้านผู้เสียหายก็ยกโทษไม่ติดใจเอาเรื่องแต่อย่างใด
พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง จึงให้ทั้งสองฝ่ายจับมือยกโทษให้กันและกันและห้ามแก้แค้เอาคืนกันภายหลังเด็ดขาด โดยมีสักขีพยานเป็นผู้กำกับและนักข่าว ขณะที่ ทางกฎหมายผู้กำกับเผยส่าก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ถึงกับอันตรายสาหัส ซึ่งมีโทษปรับ พนักงานสอบสวนได้ลงประวัติและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนเพื่อนของนายเอกชัยที่นายเอกชัยชักชวนมาร่วมก่อเหตุด้วยนั้นก็จะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ