เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา พันจ่าเอก สุริยา ภู่สวัสดิ์ นายอำเภอไชโย มอบหมายให้ นาย สุบัญฑิตย์ ไชยแก้ว ปลัดอาวุโส พร้อมด้วยปลัดฝ่ายความมั่นคง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอไชโย ที่ 2 ร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไชโย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม อำเภอไชโย ว่าได้รับความเดือดร้อนจากนายทุนเงินกู้รายวันนอกระบบ คิดดอกเบี้ยรายวันแพงให้กับแม่ค้าในตลาดจระเข้ร้อง และตลาดวัดไชโย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจพบว่า ปัจจุบันขบวนการปล่อยเงินกู้มีการวางเครือข่ายในรูปแบบของการตระเวนขายของเร่ แฝงการหาลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ ให้กู้รายละตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท ส่งรายวัน ๆ 300 บาท ตามจำนวนเงินที่คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อวัน หากไม่มีให้ จะมีการข่มขู่คุกคาม ทำร้ายร่างกาย
จากการลงพื้นที่ ได้พบนายทุนปล่อยเงินกู้ ชาวอินเดีย จำนวน 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นาย ฮารินดาร์ กุมาร (Mr:HARINDA KUMAR) บริเวณร้านขายน้ำ หมู่ที่ 8 ตำบลไชยภูมิ จึงได้ตรวจค้น พบของกลางเป็นเงินสด จำนวน 340 บาท (พบในกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย) มีปากกาสีน้ำเงิน 1 ด้าม ประกอบด้วย แบงค์ 100 จำนวน 3 ใบ แบงค์ 20 จำนวน 1 ใบ ซึ่งภายในตัวพบเงินสด จำนวน 1,650 บาท ในกระเป๋าเงินสีดำที่กระเป๋ากางเกง มีมุ้งสีน้ำเงิน จำนวน 1 หลัง ที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีขาว ทะเบียน 1 กฉ 8951 อ่างทอง พบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไชโย ทำการแจ้งข้อหา ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติทวงถามหนี้ พ.ศ.2558
ขณะที่ชาวบ้าน เปิดเผยว่า สาเหตุที่กู้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ตกงาน ขาดรายได้ และไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนตามสถาบันการเงินในระบบได้ จึงจำเป็นต้องกู้ยืมนายทุนนอกระบบประทังชีวิตต่อไป
กนกศักดิ์ / อ่างทอง