✨นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี และรับเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP สินค้าวิสาหกิจชุมชนพร้อมรับฟังแนวทางการพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรี
วันนี้ 9 ธันวาคม 2566 ) เวลา 13.00 น. ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะรัฐมนตรี เดินทางมาที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี โดยมี ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี นายรณภพ เวียงสิมมา นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอ และประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี ให้การต้อนรับฯ
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้พบกับประชาชนชาวกาญจนบุรีที่มาคอยให้การต้อนรับ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP สินค้าวิสาหกิจชุมชนของ จ.กาญจนบุรี จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้รับชมวีดีทัศน์สรุปภาพรวมข้อมูลจังหวัดกาญจนบุรี และรับฟังบรรยายสรุปแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภาพรวมจังหวัดกาญจนบุรี โดย ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมรับฟังแนวทางการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว และการส่งเสริมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ๒๔ ชั่วโมง โดย นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงรับฟังแนวทางการพัฒนาการแก้ไขปัญหาของจังหวัดกาญจนบุรีด้านต่างๆ เช่น ปัญหาที่ดินของจังหวัดกาญจนบุรีนำเสนอโดย ธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรี การแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำ นำเสนอโดย ผู้แทนกรมชลประทาน และการบริหารจัดการน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรีนำเสนอโดย ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำเสนอข้อมูลที่สำคัญของจังหวัด เช่น จังหวัดกาญจนบุรีเป็น “เมืองประวัติศาสตร์ ธรรมชาติอัศจรรย์ สวรรค์นัก ผจญภัย” มีศักยภาพในการท่องเที่ยวระดับสูง เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของภูมิภาคตะวันตก อุดมด้วยทรัพยากรทางการท่องเที่ยว ที่สวยงามและหลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยว เชิงประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนวัตกรรม แหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจนมีกิจกรรมการจัดงาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ส่งผลให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็น เมืองสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์ เนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรี มีภูมิบ้าน ภูมิเมืองกาญจน์ 4 ภูมิ ได้แก่ ภูมิศาสตร์ ภูมิทัศน์ ภูมิประวัติ ภูมิธรรม ทำให้จังหวัดได้รับความสนใจจากกองถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำ ตลอดทั้งปี จากซึ่งสถิติการถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศ ระหว่างปี 2562 ถึง 2565 รวมทั้งสิ้น 64 เรื่อง จึงมีความเหมาะสมและศักยภาพที่จะขับเคลื่อนให้ได้รับการรับรองเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่ง สหประชาชาติ หรือ UNESCO สาขาภาพยนตร์ (Film)
ด้วยศักยภาพของจังหวัดกาญจนบุรี ในด้านต่าง ๆ ที่พร้อมจะมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันตก ภายใต้การบริหารราชการจังหวัด ตามแนวคิด “ผู้ว่าฯ CEO”เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาระบบบริหารราชการแผ่นดินในส่วนภูมิภาค ให้มีความเข้มแข็งในการดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่วิสัยทัศน์ของจังหวัด “ประชาชนมีคุณภาพ สภาพแวดล้อมดี สินค้าเกษตรมีมาตรฐาน การท่องเที่ยวอัตลักษณ์เมืองกาญจน์ ย่านอุตสาหกรรมสีเขียว และประตูสู่ทวาย” ส่วนการบริหารจัดการน้ำ จังหวัดกาญจนบุรีมีแหล่งป่าต้นน้ำที ่สำคัญของประเทศ คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของประเทศไทย จังหวัดกาญจนบุรี มีแม่น้ำสายหลัก 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ และแม่น้ำแม่กลอง ที่มีความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี ที่สามารถใช้ในภาคครัวเรือน ภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนช่วยหล่อเลี้ยงประชาชนทั้งในจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดใกล้เคียงและกรุงเทพมหานคร โดยมีเขื่อนขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ 1. เขื่อนศรีนครินทร์ มีความจุ 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร 2. เขื่อนวชิราลงกรณ มีความจุ 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมความจุของเขื่อนทั้ง 2 แห่ง จำนวน 26,605 ล้านลูกบาศก์เมตร และจังหวัดกาญจนบุรี มีศักยภาพสูง ในด้านการค้าการลงทุนชายแดน ประกอบกับ ได้มีการประกาศให้จังหวัดเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มีระบบสาธารณูปโภค (ถนน ระบบไฟฟ้า ระบบประปา) พร้อมที่จะพัฒนาสู่ระบบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางความเจริญ และกระจายผลประโยชน์จากการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนกาญจนบุรี เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจ Greater Mekhong Subregion (GMS) ตอนใต้ ทวาย – กาญจนบุรี – กรุงเทพ – พนมเปญ – โฮจิมินต์ ทั้งนี้จังหวัดกาญจนบุรี มีแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาที่ถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 18,673 คน จึงมีศักยภาพที่เหมาะสม จะขับเคลื่อนยกระดับไปสู่การจัดตั้ง HUB เป็นศูนย์กลางกระจายแรงงานในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และพื้นที่จังหวัดข้างเคียงที่มีความต้องการแรงงานต่างด้าว อาทิเช่น จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร และอีกไม่นานจังหวัดกาญจนบุรีจะมีเส้นทางคมนาคม ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่ กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร โดยจะทำให้การเดินทางจากกรุงเทพฯ มายังจังหวัด กาญจนบุรี ใช้เวลาเพียง 45 นาที เท่านั้น
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวชื่นชมการบรรยายสรุปของจังหวัดกาญจนบุรีที่มีความพร้อมทุกอย่าง โดยขอย้ำในบางเรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาการจัดสรรที่ดินที่มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2481 มีปัญหากันมานาน และขอสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และจังหวัด โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานอื่น ๆ ให้เร่งช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้เต็มที่ ประชาชนจะได้มีสินทรัพย์นำไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพ
สำหรับการจัดนิทรรศการฯในครั้งนี้ ประกอบด้วยประเภทผ้าและเครื่องแต่งกายนิทรรศการผ้าไทยใส่ให้สนุก “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในถิ่นกาญจน์” ประเภท ผ้าอัตลักษณ์จังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ ผ้าขาวม้าลายตาจัก นิทรรศการผ้าลายพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้แก่ ผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ผ้าลายพระราชทาน “ ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา ” ผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” นิทรรศการผ้าพื้นถิ่น ผ้าพื้นเมือง และผ้าชาติพันธุ์ ได้แก่ ผ้าขาวม้าร้อยสี บ้านหนองขาว, ผ้าลายน้ำพุโซดา, ผ้าขาวม้า “ลายจตุขวัญ”, ชุดมอญ (ผ้าชาติพันธุ์) อ.สังขละบุรี, ชุดผ้าผ้าทอมือกระเหรี่ยง (ผ้าชาติพันธุ์) อ.สังขละบุรี, ชุดไทยทรงดำ (ผ้าชาติพันธุ์) อำเภอท่ามะกา, ผ้าตีนจก สีธรรมชาติ ลายใบมันสำปะหลัง อำเภอเลาขวัญ, ผ้าบาติก พิมพ์ลายดอกรักราชกัญญา ย้อมสีธรรมชาติ อำเภอพนมทวนประเภทสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ OTOP Premium ของจังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ เรือจำลอง ลภัสหัตถศิลป์ ระดับ 5 ดาว, นิล เมืองกาญจน์ ระดับ 5 ดาวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า “สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้า GI” จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา, เครื่องดนตรีไทย สมชัยดนตรีไทย ระดับ 4 ดาว, เครื่องเบญจรงค์ ระดับ 3 ดาว และการจัดนิทรรศการฯผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ OTOP Premium ของจังหวัดกาญจนบุรี
