ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

สภาองค์กรผู้บริโภคจังหวัดประจวบฯยื่นหนังสือให้ส.สประมวลช่วยดัน ถึงนายกเศรษฐา ทวีสิน เพื่อสร้างเกียรติสร้างศักดิ์ศรีให้กับประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี

วันที่ 26 ธันวาคม 2566 หน่วยงานประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สภาองค์กรของผู้บริโภค นำโดย นางสาวธนพร บางบัวงาม (หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์) นายนันทปรีชา คำทอง (ประธานสภาผู้บริโภคจังหวัดประจวบคีรีขันธ์) ด.ต.เกษม แสงแก้ว (ประธานองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคตำบลทองมงคล อำเภอบางสะพาน) และคณะกรรมการตัวแทนองค์กรสมาชิก ในฐานะเป็นตัวแทนของผู้บริโภค

เห็นว่าจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้คนในสังคมเห็นว่าการมีหลักประกันด้านรายได้เมื่อยามสูงวัยเป็นเรื่องสำคัญและประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัย (Aged Society) จึงขอให้ ท่านประมวล พงศ์ถาวราเดช ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมสนับสนุนและผลักดันร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุและบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสร้างเกียรติ สร้างศักดิ์ศรีให้กับประชาชนมีคุณภาพชีวิต
หัวใจสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการปรับปรุงเบี้ยยังชีพให้เป็น #บำนาญถ้วนหน้า 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน เพื่อสร้างหลักประกันด้านรายได้ให้กับผู้สูงอายุที่มั่นคงและยั่งยืนด้วยการจัดเก็บและบริหารระบบภาษีของประเทศมาใช้จัดสวัสดิการให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สำหรับการยื่นกฎหมายในครั้งนี้เป็นรอบที่ 3 แล้ว หลังจากถูกปัดตกครั้งแรกสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปักตกครั้งที่ 2 รัฐบาลสมัยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ที่ภาคประชาชนคาดหวังให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ โดยเร็วเพื่อสร้างเกียรติ สร้างศักดิ์ศรีให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ด้าน ส.ส.นายประมวลกล่าวว่าหลังจากได้รับหนังสือร่างพระราชบัญญัติสูงอายุบำนาญพื้นฐานแห่งชาติก็จะดำเนินการคือหลังจากได้พูดคุยกับสภาองค์กรผู้บริโภคเขตของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็จะนำเสนอภายในพรรคหารือเสร็จแล้ว เมื่อทางพรรคเห็นชอบทางพรรคจะนำเรื่องนี้หารือทางสภาต่อไป
สส.ประมวลกล่าวอีกว่าส่วนใหญ่หลายๆพรรคการเมืองจะมีนโยบายบำเหน็จบำนาญอยู่แล้ววันนี้สิ่งที่สภาองค์กรผู้บริโภคที่จะต้องทำคือดำเนินการคือให้ทุกจังหวัดเข้าหาทุกพรรคการเมืองที่อยู่ในแต่ละจังหวัดนั้นๆเพื่อกระตุ้นให้ร่างพระราชบัญญัติเข้าสภาเร็วยิ่งขึ้นเพราะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงินหลักสำคัญคือนายกต้องอนุมัติกฎหมายนี้เข้าสภาท่านนายกไม่เซ็นอนุมัติ กฎหมายไม่ว่าพรรคการเมืองส่งไปหรือประชาชนส่งไปก็ไม่สามารถที่จะเข้าสภาได้เพราะเป็นกฎหมายการเงิน สส.นายประมวล พงค์ถาวรเดชกล่าว
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 064-364-1644 รายงาน