ข่าวทั่วไป

สมุทรปราการ – ชาวบ้านหวั่นความปลอดภัย หนุ่มเมาถือขวานฟันถังขยะหน้าตึกก่อนวิ่งไล่ฟันเมียและชาวบ้าน

ชาวบ้านหวั่นความปลอดภัย หนุ่มเมาถือขวานฟันถังขยะหน้าตึกก่อนวิ่งไล่ฟันเมียและชาวบ้าน
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อม เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลแพรกษา ได้เข้าควบคุมตัว ชาย อายุประมาณ 30 – 35 ปี ซึ่งมีอาการคล้ายคนมึนเมา พร้อม ขวานเหล็ก 1 เล่น ก่อเหตุใช้ขวางวิ่งไล่ฟันภรรยา และ ชาวบ้านที่ขี่รถจักรยานยนต์สัญจรผ่านไปมาบริเวณดังกล่าว จน ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวต้องโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาระงับเหตุดังกล่าว เหตุเกิดภายใน ซอยแพรกษา 10 ( สวัสดี ) ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. วันที่ 1 มกราคม 2567 โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก


ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 2 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง บริเวณหน้าปากซอยแพรกษา 10 หรือ ซอยสวัสดี เพื่อไปสอบถามชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อค่ำคืนที่ผ่าน ซึ่ง ชาวบ้านบริเวณดังกล่าว กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า สองสามีภรรยานั้นว่าดื่มสุราแล้วชอบทะเลาะกัน แต่ครั้งนี้แรงที่สุดถึงขนาดใช้ขวานวิ่งไล่ฟันกัน โดยขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ผู้ก่อเหตุพร้อมภรรยา ก็กลับมาที่ห้องพักโดยกลับขึ้นห้องพักอย่างรวดเร็ว โดยจากการสอบเจ้าหน้าที่ พบ ว่า เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุ 2 ข้อหา / เมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย / พกพาอาวุธ ( ขวาน ) พร้อมทำประวัติ ก่อน เสียค่าปรับแล้วปล่อยตัวกลับ
ภาพวงจรปิด บริเวณข้างหอพักที่หนุ่มเมาถือขวานไล่ฟันเมียและชาวบ้าน สามารถจับภาพ ในช่วงเวลา 19.30 น. เห็นผู้ก่อเหตุเดินไปเดินมาบริเวณข้างหอพัก ก่อนสักพักกล้องตัวเดิมจะจับภาพ ผู้ก่อเหตุกับภรรยาเดินเข้ามาในตึก ก่อน สักพัก ภรรยาของผู้ก่อเหตุก็เดินออกมาทางด้านหน้าตึกและเดินพ้นรัศมีกล้องวงจรปิด ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินถือขวานตามมา ก่อนที่จะใช้ขวานฟันถังขยะจนได้รับความเสียหาย ก่อนจะเดินพ้นรัศมีของกล้อง
จากการสอบถาม วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ผู้ชายคนนั้นเขาเมาและทะเลาะกับเมีย แล้วไล่ฟันเมีย พอมาเจอชาวบ้านก็จะฟันชาวบ้านเขาด้วย เขาข้ามถนนไปฝั่งกัน แล้วก็ข้ามกลับมา ก็เจอวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มา มันง้างขวานจะฟันเขา จนเขาต้องทิ้งรถวิ่งหนี แล้วเขาก็ข้ามถนนไปโวยวายอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะข้ามกลับมา เจอพม่าอยู่ตรงเกาะกลางถนนมันก็เดินไปคว้าคอเสื้อของพม่า จะฟันพม่าอีก พม่าก็วิ่งหนี พอตำรวจมาถึงก็จับตัวไป ก่อนหน้านี้เขาก็ทะเลาะกันตั้งแต่กลางวันแล้ว พอเย็นเมียเขากลับมาก็ทะเลาะกันอีก ตนก็ไม่แน่ใจว่าเขาทะเลาะกันบ่อยหรือเปล่า ถ้าถามตนตกใจไม่ตนตอบเลยว่าไม่ตกใจเท่าไร แต่ถ้ามาใกล้ ๆ ก็จะหลบ ถ้าไม่หลบก็จะเอาไม้ตีป้องกันตัว


ส่วน ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อคืนประมาณทุ่มครึ่งกว่า ๆ มีสองผัวเมียทะเลาะกัน แล้วก็ไล่กันออกมา ผู้หญิงเขาวิ่งร้องขอความช่วยเหลือ ว่า ช่วยด้วย ๆ เขาจะฟัน ตอนนั้นตนนั่งกินส้มตำกันอยู่ น้องอีกคนก็บอกว่าให้เขาขึ้นวินมอไซค์ไปเลย ทีนี้ผู้ชายหันไปอีกทาง ดีที่ว่าตอนนั้นมีรถตู้มาพอดี ผู้หญิงก็เลยวิ่งเข้าบ้านตรงแถวปากซอยแล้วก็ปิดรั้ว ผู้ชายก็วิ่งตามเข้าไป ผู้หญิงจึงวิ่งออกมา ตรงบริเวณปากซอยได้มีวัยรุ่นขี่มอไซค์มาพอดี แล้วผู้ชาย ทำท่าเหวี่ยงขวาน ทำให้วัยรุ่นตกใจทิ้งรถแล้ววิ่งหนี เพราะถ้าไม่ทิ้งรถวัยรุ่นน่าจะโดน พวกวินมอไซค์และลูกชายก็ไปช่วยกันลากรถจักรยานยนต์เข้าข้างทาง เขาก็เดินข้ามถนน ก็มีรถเก๋งวิ่งผ่านมาเขาก็จะเอาขวานเฉาะรถเขา รถคันดังกล่าวก็รีบขับไป เขาก็วิ่งข้ามไปฝั่งร้านสะพวกซื้อ คนก็แตกตื่น เพราะเห็นเขาถือขวาน เขาก็ข้ามกลับมาอีกตอนนั้นมีวัยรุ่นพม่าประมาณ 4-5 คน เขาก็มาดึงคอเสื้อพม่าถือขวานง้างจะฟัน พวกตนก็เลยร้องกัน โทรแจ้งตำรวจ แล้วบังเอิญมีกู้ภัย เขาขับมาเจอพอดี เขาก็เลยวอเรียกตำรวจ มาจับ แต่ตอนที่ตนแจ้งตำรวจไปว่า มีชายคุ้มคลั่งไล่ทำร้ายชาวบ้าน ซึ่งเป็นคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องผัวเมีย แล้วตำรวจเขาก็มาครบชุดพร้อมไม้ค้ำยัน สรุปคือสองคนนี้เป็นสามีภรรยากัน กินเหล้าเมา แล้วก็ทะเลาะกัน เอาขวานไล่ฟัน พอตำรวจถามฝ่ายหญิงบอกไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่รู้จักฝ่ายชาย ชาวบ้านก็บอกจะไม่รู้จักได้ยังไงเขาวิ่งไล่เธอมา เธอก็ตะโกนร้องให้คนช่วย คนเขาก็โทรแจ้งตำรวจกัน แล้วเขาก็มายื่นว่าเราว่าแจ้งตำรวจทำไม เราก็เลยบอกเขาว่าอันนี้มันที่สาธารณะคุณวิ่งไล่กันมาแล้วมันยามวิการ แล้วผู้ชายมีอาวุธเป็นขวาน แล้วไปทำให้เด็กวัยรุ่นรถล้ม แล้วรถก็พัง แล้วพม่าขวัญเสียมัยไปกระชากคอเสื้อเขา มีหลายคนเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว คือเราไปช่วยเหลือคือเราผิด ตนก็ไม่รู้ว่าสองสามีภรรยานี้ทะเลาะกันบ่อยหรือเปล่า แต่รู้ว่าเขาเมากันตลอด ไม่เคยถึงขั้นไล่ฟันกันขนาดนี้
********************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ