เกิดเหตุไฟไหม้รุนแรงภายในโกดังเก็บคัดแยกของเก่ากลางชุมชน ทำเอาชาวบ้านแตกตื่นทั้งซอย รถดับเพลิงหลายพื้นที่ กว่า20 คัน ต้องระดมเร่งฉีดน้ำกว่า2ชั่วโมงแต่ที่แปลกเป็นพื้นที่ที่พึ่งเกิดเหตุคนงานแทงกันตายเป็นภาพมุมสูงความเสียหายเป็นวงกว้าง ของไฟไหม้อย่างรุนแรงของแค็มป์คนงานที่คัดแยกขยะรีไซเคิล ใจกลางชุมชนวัดบ้านงิ้ว หมู่ 3 ตำบลหนองกะขะ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรีโดยในภาพจะเห็นว่าไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงจากจุดที่เก็บของเก่าเป็นกระสอบถุงบิ๊กแบ็คขนาดใหญ่ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลา 20.30 น.วันที่ 2 มกราคม 2567
ต่อเวลา มาทาง พ.ต.ต.ชาติคณิณ อินทร์สอน สารวัตร(สอบสวน)สภ.พานทอง พร้อมด้วย นายบุญยัง ไพรวัลย์ นายกอบต.พานทองหนองกะขะได้เดินทางมาที่โรงคัดแยกขยะรีไซเคิลใจกลางชุมชนวัดบ้านงิ้ว หมู่ 3 ตำบลหนองกะขะ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรีหลังรับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้และได้รีบประสานรถดับเพลิงจากอบต.พานทองหนองกะขะอบต.หนองหงส์และอีกหลายหน่วยงานจากพื้นที่ใกล้เคียงจำนวนกว่า20คันเร่งระดมฉีดน้ำดับไฟโดยใช้เวลากว่า2ชั่วโมงจึงสามารถดับไฟได้ในที่สุดพบว่ามีเพียงขยะที่คัดแยกใส่ถุงบิ๊กแบ็คถูกไฟไหม้เสียหายและแค็มป์พักคนงานถูกไฟไหม้เสียหายโชคดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงดับไฟได้จึงทำให้เสียหายเพียง70เปอร์เซ็นเท่านั้น
จากการสอบถามนางทวนกัมพูชา อายุ35ปี ได้เล่าว่า กำลังนั่งอยู่หน้าห้องในขณะนั้นได้ยินเสียงดังตุ๊บ แล้วไฟก็ดับ แฟนของตนจึงได้เดินไปตรวจดูก่อนจะพบประกายไฟ จึงได้ไปเอาสายยางเปิดน้ำมาฉีด แต่ก็เอาไม่อยู่แล้ว แฟนจึงได้เอารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ออกมาก่อนแล้วกลับเข้าไปเอารถยนต์กระบะและรถโฟล์คลิฟท์ ที่จอดอยู่ออกมา หลังจากนั้นได้โทรแจ้งเจ้าของ ส่วนภายในร้านนั้นอยู่ด้วยกัน5คน ได้หนีกันออกมาหมดแล้วไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไรสำหรับแค็มป์พักดังกล่าว เมื่อเวลา 02.00 น.ของวันที่ 2 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทใช้มีดแทงกันทำให้นายนาน (สัญชาติ)กัมพูชา อายุ 30 ปี นอนบาดเจ็บสาหัสที่พื้นกลางลานกว้าง มีรอยถูกมีดแทงเข้าที่ชายโครงซ้าย 1 แผลอาการสาหัส กู้ภัยฯรีบนำส่ง โรงพยาบาลพานทอง แต่นายนาน ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมาซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่านายเท(สัญชาติกัมพูชา)อายุ34ปีเป็นคนก่อเหตุและหลบหนีไปแล้ว
โดยต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่รับซื้อของเก่ารีไซเคิลพบบนโต๊ะยังมีเหล้าเหลืออยู่พร้อมทั้งเศษอาหารส่วนที่ลานกว้างพบคราบเลือดจำนวนมากมีธูปปักอยู่ทำให้มีกลุ่มไทยมุงมาดูได้มีการวิพากวิจารณ์เป็นเหตุอาถรรพ์ของผู้เสียชีวิตที่กลัวไม่ได้รับความเป็นทำธรรมหรือมาจากคนร้ายย้อนกลับวางเพลิงทำลายหลักฐานก่อนหลบหนีไป
