10-01-67 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
กรรมการวัดปลักกริมในและสัปเหร่อออกโรงโต้กรณีชาวบ้านออกมาร้องเก็บค่าประกอบพิธีศพแพงคนจนห้ามตายกั๊กศาลาใหญ่ไว้ให้คนรวย เผยจนจริงเผาฟรีตั้งศพได้ทุกศาลาค่าตั้งศาลาเหมาะสม ด้านสัปเหร่อยันตลอด3ปีไม่เคยมีปัญหาช่วยเผาทุกคนถ้าจนจริงลำบากจริงแต่ศพนี้ศพแรกที่ไม่เผาเพราะทะเลาะกับคนที่มาติดต่อ
จากเหตุการณ์ที่วันที่5มกราคมที่ผ่านมาได้ชาวบ้านในชุมชนวัดพุทธิการามหรือวัดปลักกริมในนับร้อยคนนำโดย นายจำลอง บุญวรรโณ อดีตสจ.อำเภอหาดใหญ่เขต3 มารวมตัวกันที่วัด
เพื่อขอให้ทางวัดลดค่าประกอบพิธีศพที่มองว่าแพงเกินไปโดยเฉพาะค่าศาลาตั้งศพอย่างเดียวสูงถึง15,000 บาทและสัปเหร่อพูดจาไม่สุภาพ เลือกปฏิบัติศาลาใหญ่คนจนห้ามใช้กั๊กเอาไวให้คนรวยตาย
และเบื้องต้นที่ประชุมได้มีมติปลดคณะกรรมการวัดชุดเดิมออกและตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่และให้สัปเหร่อพ้นหน้าที่ออกจากวัดไป
ล่าสุดในวันนี้(10ม.ค.67)ที่วัดพุทธิการาม หรือวัดปลักกริมใน ทางคณะกรรมการวัด นำโดย นายไว นิลพรหม รักษาการประธานคณะกรรมการวัดพุทธิการามหรือวัดปลักกริมใน และนายภคพล แพทอง หรือหมอกอล์ฟ สัปเหร่อของวัด ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงอีกด้านของเรื่องนี้
โดย นายไว นิลพรหมรักษาการประธานคณะกรรมการวัดปลักกริมใน เปิดเผยว่า ในวันที่ชาวบ้านมารวมตัวกันที่วัดทางคณะกรรมการวัดไม่ทราบเรื่องมาก่อนมาทราบข่าวทางสื่อมวลชนในภายหลัง
และขณะนี้ทางคณะกรรมการวัดชุดเดิมก็ยังคงหน้าที่ตามปกติไม่ได้มีการปลดออกแต่อย่างใด สัปเหร่อก็คนเดิมไม่ได้ถูกไล่ออกจากวัด ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ได้เป็นไปตามมติของชาวบ้านที่มารวมตัวกันที่วัด
และหากในวันนั้นได้มีการติดต่อมายังคณะกรรมการวัดก็สามารถคุยหาข้อยุติกันได้ซึ่งพร้อมจะรับฟังและคุยกันด้วยเหตุผลและความจริง ไม่ใช่กลายเป็นข่าวจนวัดเสียหายแบบนี้
นายไว กล่าวว่า ประเด็นเรื่องค่าประกอบพิธีศพแพงทางวัดมีระเบียบชัดเจนโดยเฉพาะค่าศาลาตั้งศพ15,000 บาทนั้น สามารถตั้งศพได้ 3-5 คืน
และมีรายละเอียดชัดเจนเช่นค่าอุปกรณ์เครื่องครัวโต๊ะเก้าอี จำนวน 5,000 บาท ส่วนอีก 10,000 บาทแยกเป็นค่าบำรุงวัด 1,000 บาท ค่าไฟฟ้า 1,000 บาท ค่าน้ำ 1,000 บาท ค่าฐานโลงแอร์ 3,500 บาท ค่าบำรุงเมร 2,500 บาท ค่าเสื่อมเครื่องไฟฟ้าที่ใช้ในงาน 500 บาท และค่าทำความสะอาดศาลา 500 บาท
นายไวยังกล่าวอีกว่ากรณีศพไร้ญาติหรือคนที่ยากจนจริงๆบางรายทางวัดก็เผาให้ฟรีๆ ไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือถ้าจะเก็บก็เก็บตามสมควรต่ำสุด 500 บาทก็มี หรือค่าพระก็ไม่ต้องจ่าย และทุกศพมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายยืนยันชัดเจนทุกอย่าง
ส่วนศพที่มีปัญหาซึ่งญาติอ้างว่ามีเงินแค่ 180 บาทนั้น ความจริงแล้วคนที่ติดต่อมาเป็นแม่ครัวและมีปัญหากับสัปเหร่ออยู่ก่อนแล้วและมามีปากเสียงกันอีกในวันเกิดเหตุไม่ได้เกี่ยวกับทางวัดเลือกปฏิบัติระหว่างคนจนคนรวยศาลาทุกศาลาสามารถตั้งได้หมดทุกคน ที่สำคัญศพนี้ที่แจ้งว่าเป็นศพยากจนมีเงินแค่ 180 บาทนั้นปรากฏว่ามีการตั้งศพ38คืนและมีการตังเวทีร้องคาราโกะด้วย
ด้าน นายภคพล แพทอง หรือหมอกอล์ฟ สัปเหร่อของวัด เปิดเผยว่า ศพที่มีปัญหาจนชาวบ้านมารวมตัวกันนั้น แม่บ้านซึ่งสนิทกับตนโทรมาหาว่าจะนำศพที่ครอบครัวลำบากญาติมีเงินแค่ 180 บาทก็บอกว่ายินดีและให้เอามาตั้งศาลาสองเพราะค่าใช้จ่ายจะน้อยประหยัดกว่า หากตั้งศาลาใหญ่จะมีค่าใช่จ่ายมากกว่าเกินความจำเป็น
แต่พอศพมากลับมาเปิดศาลาใหญ่ไม่ใช่ตามที่คุยกัน จึงมีปากเสียงกับแม่บ้านที่ติดต่อไม่ได้มีปัญหากับญาติหรือห้ามไม่ให้ตั้งศพศาลาใหญ่ซึ่งถ้าจะตั้งก็ตั้งได้แต่ต้องมีการค่าใช้15,000 บาท
ที่สำคัญตนก็ไม่ได้เป็นคนพูดว่าศาลาใหญ่เตรียมไว้ให้คนรวย อีกฝ่ายเป็นคนพูดเอง พอมีปัญหากันตนก็ออกไปและบอกว่าให้อีกฝ่ายจัดการกันเอาเองและยอมรับว่าพอมีกันหากันแล้วตนก็ไม่อยากทำอะไรให้อีกให้ไปจัดการกันเอาเอง
สัปเหร่อกอล์ฟยืนยันว่าตลอด3ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหามาก่อน ถ้าเป็นศพคนจนศพไม่มีญาติหรือคนที่ลำบากจริงๆก็เผาให้ฟรีและบางครั้งก็เอาเงินส่วนตัวทำบุญด้วย ตนกินอยู่กับผีไม่ได้โกหก และทราบว่าศพนี้มาตั้งบำเพ็ญกุศล3วันและมีการร้องเพลงคาราโอเกะด้วย
และศพนี้เป็นศพแรกที่ตนไม่เผาให้เพราะว่ามีปัญหากับคนที่มาติดต่อแต่ฐานะสัปเหร่อก็ต้องขออภัยเพราะพอมีปัญหากันยอมรับว่าไม่มีจิตใจที่จะไปทำอะไรให้แล้ว ทั้งๆที่ทีแรกก็อยากจะช่วยเพราะว่ารู้จักกันดี
ในวันที่มีปัญหาที่ชาวบ้านมารวมตัวกันที่วัดตนก็ไปตัดหญ้าอยู่ที่วัด และมีคนมาเชิญตนให้เข้าไปและบอกว่าหมดหน้าที่แล้วให้ออกจากวัดไปและมีการเปลี่ยนกรรมการวัดใหม่หมดแล้ว และยังโดนตบหัวโห่ไล่ด้วย จึงต้องการที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมเข้าใจตนและเข้าใจวัดว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติกักศาลาใหญ่ไว้ให้คนรวยตามที่ถูกชาวบ้านอีกฝ่ายกล่าวหา