ข่าวพาดหัวทุกข์ชาวบ้าน

สมุทรปราการ – บ้านตรงข้ามร้องสื่อเจอป้าบ้านตรงข้ามสาดน้ำใส่ ด่าทอ นานกว่า 2 ปี ส่วนชาวบ้านเอือมระอาบ้านดังกล่าว

บ้านตรงข้ามร้องสื่อเจอป้าบ้านตรงข้ามสาดน้ำใส่ ด่าทอ นานกว่า 2 ปี ส่วนชาวบ้านเอือมระอาบ้านดังกล่าว
จากกรณีที่ เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้โพสต์คลิปวีดีโอภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยแบริ่ง 48 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นภาพวีดีโอของบ้านตรงข้ามกล้องวงจรปิดดังกล่าว ลักษณะมีหญิงเจ้าของบ้านฝั่งตรงข้าม เดินมาสาดน้ำบริเวณถนนหน้าบ้าน และ ได้มีปากเสียงกับคนในบ้านที่ติดกล้องวงจงปิด โดยคลิปดังกล่าวมีความยาวกว่า 4 นาที พร้อมกับลงข้อความว่า #เล่าเรื่องจากหลังไมค์ ถ้าจะไม่พอใจจะมีปัญหากับสามีอย่างไรก็ไม่ควรสร้างให้กับชาวบ้านนะคะป้า สวัสดีค่ะ อยากส่งเรื่องให้ค่ะมีป้าบ้านตรงข้ามอาจจะคิดมาก หวงผัว ตัวเองแล้วเที่ยวไล่ด่าชาวบ้าน ที่เป็นผู้หญิง แล้วชอบสาดน้ำใส่ถนน รถที่ผ่านไปผ่านมาอันตราย ก่อนหน้านี้มีรถเคยล้ม ตอนนั้นยังไม่มีกล้องวงจรปิดแล้วก็มีพฤติกรรมแบบนี้ เวลาเห็นผู้หญิง ชอบด่าชอบหาเรื่อง สาดน้ำ คนแถวนี้เขารู้หมด อยากให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องมาช่วยดูแลค่ะ สถานที่ซอยแบริ่ง 48 สำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ


ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 27 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายในซอยแบริ่ง 48 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ไปพบกับเจ้าของคลิปวีดีโอวงจรปิดที่เป็นต้นเรื่อง พร้อมกับเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เจอกับคู่กรณีบ้านฝั่งตรงข้ามบ้าน ซึ่งชาวบ้านละแวกดังกล่าวก็เคยโดน หญิงคนดังกล่าวที่อยู่ในคลิปวงจรปิด สาดน้ำ ด่า หรือ ทำให้เกิดความลำคานเวลากลางคืน โดยจะเคาะกำแพงบ้าง เคาะเหล็กบ้าง ส่วนบ้านป้าคู่กรณีนั้นจากการเรียกไม่มีใครออกมาแสดงตัว
จากการสอบถาม นางสาวนฤมล อยู่ข้างบ้าน ( สวมแมสสีชมพู ) เล่าว่าทางคู่กรณีชอบเคาะให้เกิดเสียงดังรบกวนทุกวัน ตอนช่วงเช้าตีสี่ตีห้า ถ้าเกิดได้ยินเสียงตนก็จะด่าและปารองเท้าข้ามมาที่บ้าน บางครั้งก็นำเสื้อผ้าสามีมาเผาที่ข้างบ้านตนก็กลัวว่าจะเกิดไฟไหม้ เคยพูดคุยกับทางสามีของเจ้าตัวไปแล้ว ฝ่ายนั้นก็ขอโอกาสโดยอ้างว่าไม่มีคนดูแลหลาน แต่ตนก็บอกว่าให้โอกาสมาเยอะแล้ว ทางฝ่ายนั้นก็เลยบอกว่าจะพาไปรักษา แต่ก็เงียบหายมาถึงทุกวันนี้ นางสาวนฤมล เล่าต่อ ว่าฝ่ายนั้นชอบสาดน้ำใส่เวลาเดินผ่าน ตนเองโดนแบบนี้มาหลายปี บางครั้งก็ได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่ในบ้าน ก็เกิดกลัว และเป็นห่วงว่าเด็กจะเป็นอันตราย เลยอยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล
นางสาวเอ๋ บ้านฝั่งตรงข้าม ( สวมแมสสีดำ เสื้อสีน้ำตาลอ่อน ) เล่าว่า ป้าฝั่งตรงข้ามบ้านนั้นมีพฤติกรรมเหมือนคนเป็นโรคจิต ก็คือเขาชอบสาดน้ำใส่ผู้หญิง เขาจะเน้นผู้หญิงที่เดินผ่านหน้าบ้านเขา โดยตนเองนั้นได้รับผลกระทบเต็มเลย เนื่องจากตนเองตอนเช้าไปทำงาน แต่งตัวไปทำงานก็แต่งตัวสวยไปทำงาน เขาเห็นตนเองเขาก็จะเตรียมถังน้ำแล้วก็จะเล็งเวลาตนเองข้ามฝั่งไปเพื่อขึ้นรถ ก็มีทั้งสาดโดนและสาดไม่โดน ขึ้นอยู่ว่าตนเองจะหลบน้ำที่สาดมาได้หรือไม่ ตนเองต้องมาคอยหลบเขาอย่างนี้ทุกเช้า โดยที่ตนเองนัดได้ประมาณ 4 ครั้ง ที่เขาสาดน้ำโดนตนเองเปียกจนต้องกลับเข้าบ้านมาเปลี่ยนชุดใหม่ต้องเสียเวลาไปทำงานสายอีก นี้คือเรื่องพฤติกรรมการสาดน้ำ ยังมีการ ด่าทออีก ถ้าเจอตนเอง หรือ เจอพีสาวของตนเองอีก 2 คน หรือ เห็นผู้หญิงคนอื่นเดินผ่านหน้าบ้านก็ด่าแล้ว ด่าขึ้นมาเลยเหมือนกลัวว่าจะไปแย่งสามีเขา โดยที่ตนเองทราบมาว่า ที่เขาเป็นอย่างนี้เนื่องจากเขาหวงสามีมาก ถ้าคลั่งมากมาก ๆ ก็จะมีการโยนข้าวของ โยนข้ามรั่วบ้าง หรือ เปิดประตูโยนออกมา โยนก้อนหินใส่พีสาว โดยที่ตนเองมาอยู่ที่นี้ 2 ปีแล้ว ตนเองก็พบว่าเขาเป็นอยู่แล้ว โดยที่เขาเจอตนเองครั้งแรกก็ด่าตนเองเลย โดยที่พีสาวตนเองก็บอกว่าไม่ต้องสนใจหลอกเขาเป็นอย่างนี้ละเขาด่าทุกคน ตนเองก็ไม่ถึงละ ไม่ถือคนบ้า แต่มามีพฤติกรรม โยนของ และ สาดน้ำ ใส่ตนเองตนเองก็ไม่โอเค โดยเขายังเลี้ยงเด็กน้อยอยู่ในบ้าน เห็นอุ้มไปอุ้มมา ส่วนครั้งที่ตนเองโดนหนัก ๆ ก็เปียกทั้งตัว เหมือนเขาตั้งเวลายืนรอตนเองไปทำงานเลย โดยทุกคนที่เป็นผู้หญิงที่ยืนหน้าบ้านเขาจะโดนสาดหมด โดยตอนนี้ตนเองเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กที่เขาเลี้ยง ตนเอง และ ชาวบ้านบริเวณนี้ และ อยากให้มีใคร หรือ หน่วยงาน พาเขาไปรักษา และ มีการปาก้อนหินใส่พีสาวตนเอง จนได้มีการเขาไปแจ้งความที่ สภ.สำโรงเหนือ โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาแล้ว
นางสาวหน่อย อายุ 50 ปี บ้านตรงข้าม ( สวมแมสดำ เสื้อสีเทา ) เล่าว่า ตั้งแต่คู่กรณีย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังดังกล่าวก็มีพฤติกรรมที่ชอบสาดน้ำใส่ และ ยกส้นเท้าใส่คนที่สัญจรไปมา มีเคสที่ได้รับบาดเจ็บต้องได้ไปนอนโรงพยาบาลอยู่ 2 วัน จนสามีของคู่กรณีต้องได้ชดเชยค่าเสียหายให้กับการกระทำดังกล่าวของภรรยา บางวันก็มีพฤติกรรมปาแก้วใส่กำแพงจนเศษแก้วกระเด็นออกมา บางครั้งก็จุดไฟใส่เศษผ้ามาห้อยตามต้นไม้ และ ประตูหน้าบ้านของตัวเอง และ ยังชอบด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย กล่าวหาว่าตนไปแย่งสามี แต่ก็ไม่อยากจะเอาเรื่องเพราะดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ปกติ แต่เมื่อเดือนธันวาที่ผ่านมา น้องสาวกับน้องสะใภ้ได้ถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย เพราะฝ่ายนั้นเอาก้านมะพร้าวจะมาตีน้องสาวแต่น้องสาวคว้าเอาไว้ได้ทันแต่ก็เกิดพลาดท่าลื่นล้มจนฝ่ายนั้นตามมาเตะเข้าที่ใบหน้า น้องสาวจึงได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ แต่ก่อนหน้านี้ทางฝ่ายนั้นก็เคยเอาก้อนหินมาปาใส่เกือบจะโดนน้องสาว พอไปแจ้งความเสร็จก็เลยมีการมาเจรจากับทางสามีของฝ่ายนั้น เพื่อให้เป็นเซ็นยินยอมและให้นำภรรยาไปรักษาแต่ฝ่ายนั้นก็ยังเฉย ๆ อยู่ จนชาวบ้านแถวนั้นเอือมระอากับพฤติกรรมเดิม ๆ ตนเองเพียงแค่อยากให้ทางครอบครัวพาตัวไปรักษา เพราะก็ไม่อยากจะมีเรื่องหรือเอาความอะไรเพราะพฤติกรรมดังกล่าวเป็นนานมากว่า 3 ปีแล้ว แต่ทางสามีของเจ้าตัวก็ยังไม่สามารถที่จะจัดการอะไรได้
นางสาวนฤมล อยู่ข้างบ้าน ( สวมแมสสีชมพู ) เล่าว่าทางคู่กรณีชอบเคาะให้เกิดเสียงดังรบกวนทุกวัน ตอนช่วงเช้าตีสี่ตีห้า ถ้าเกิดได้ยินเสียงตนก็จะด่าและปารองเท้าข้ามมาที่บ้าน บางครั้งก็นำเสื้อผ้าสามีมาเผาที่ข้างบ้านตนก็กลัวว่าจะเกิดไฟไหม้ เคยพูดคุยกับทางสามีของเจ้าตัวไปแล้ว ฝ่ายนั้นก็ขอโอกาสโดยอ้างว่าไม่มีคนดูแลหลาน แต่ตนก็บอกว่าให้โอกาสมาเยอะแล้ว ทางฝ่ายนั้นก็เลยบอกว่าจะพาไปรักษา แต่ก็เงียบหายมาถึงทุกวันนี้ นางสาวนฤมล เล่าต่อ ว่าฝ่ายนั้นชอบสาดน้ำใส่เวลาเดินผ่าน ตนเองโดนแบบนี้มาหลายปี บางครั้งก็ได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่ในบ้าน ก็เกิดกลัว และเป็นห่วงว่าเด็กจะเป็นอันตราย เลยอยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล
****************************
***หมายเหตุ : เบลอหน้าชาวบ้านที่ให้สัมภาษณ์***
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ