ข่าวพาดหัวจับกุมลักทรัพย์

สมุทรปราการ – รวบชายเร่ร่อน เข้าไปขโมยพระเครื่องในร้านรับเลี่ยมกรอบพระ

รวบชายเร่ร่อน เข้าไปขโมยพระเครื่องในร้านรับเลี่ยมกรอบพระ
เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์ เจ้าของร้านรับเลี่ยมกรอบพระ ริมถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ว่าถูกคนร้ายเข้าไปขโมยพระเครื่องภายในร้าน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 มกราคม 2567 พร้อมส่งภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านจำหน่ายแบตเตอรี่ ที่สามารถจับภาพคนร้ายขณะเดินเข้าไปก่อเหตุในร้าน ให้ผู้สื่อข่าวดู โดยหลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ แล้ว ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ภาพจากกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพ คนร้ายซึ่งเป็นชาย 1 คน สวมเสื้อคอกลมสีดำกางเกงขาสั้นสีดำ เดินผ่านหน้าจำหน่ายแบตเตอรี่ ก่อนจะเดินเลี้ยวเข้ามาหน้าร้านทองซึ่งมีร้านรับเลี่ยมกรอบพระตั้งอยู่ จากนั้นคนร้ายได้เดินปรี่เข้าไปในร้านรับเลี่ยมพระ โดยอาศัยจังหวะที่เจ้าของร้านออกไปซื้อของ แล้วลงมือก่อเหตุขโมยพระเครื่องเกจิชื่อดังหลายองค์จากภายในร้านใส่กระเป๋าเป้สีดำเดินออกจากร้านผ่านหน้าร้านทองไป โดยไม่สนใจสายตาของคนแถวนั้น


ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับทางเจ้าของร้าน ระบุว่าวันเกิดเหตุ ตนเอง เปิดร้านตามปกติ และมีลูกค้านำพระมาให้ใส่กรอบเลี่ยม ระหว่างที่ทำงานอยู่ ของบางอย่างที่ต้องใช้ เกิดหมด จึงต้องออกไปซื้อ และวางพระทั้งหมด เกือบ 10 องค์รวมของตนเองและพระของลูกค้าด้วย โดยไม่คาดคิดว่าจะมีใครหรือมีคนร้ายกล้าเข้ามาก่อเหตุกลางวันแสกอีกทั้งอยู่หน้าร้านทอง แต่พอกลับมาพบว่าพระที่วางไว้เตรียมเลี่ยมกรอบส่งลูกค้าหายไป จึงขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพบว่ามีคนร้ายรายนี้มาก่อเหตุ รวมมูลค่าความเสียหายหลักหมื่นบาท ทั้งนี้ตนเองอยากได้พระของลูกค้าคืน ตอนนี้เดือดร้อนมาก เนื่องจากเป็นพระของลูกค้าส่วนหนึ่ง
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ นำกำลังพร้อมด้วยฝ่ายสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามภาพวงจรปิดเอาไว้ได้ โดยจับกุมตัวได้ที่สะพานภูมิพล ในขณะที่ผู้ต้องหารายนี้นอนพักผ่อนอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นคนเร่ร่อนไม่มีแหล่งพักพิงแน่นอน ไม่มีเอกสารติดตัว จึงคุมตัวมาสอบเพิ่มเติมที่โรงพัก ซึ่งจากการตรวจสอบ ผู้ต้องหารายนี้ไม่ยอมให้การใดๆ และจำชื่อตัวเองไม่ได้ ตำรวจจึงเชิญตัวผู้เสียหายมาชี้ตัว ซึ่งก็ชี้ตัวได้ตามภาพวงจรปิด
ขณะที่ผู้เสียหาย บอกความรู้สึกหลังจากที่ตำรวจตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ ซึ่งผู้เสียบอกว่า จะรู้สึกว่าดีใจ ได้ไหม ที่จับคนร้ายได้ แต่กลับรู้สึกปวดหัวมากกว่าเครียดหนักกว่าเดิม เพราะคนร้ายรายนี้ พูดจาไม่รู้เรื่องให้การอะไรไม่ได้ จำไม่ได้แม้แต่ชื่อตัวเอง ถามหาของกลางที่เอาไป ก็ตอบไม่ได้ แถมพอตำรวจจะดำเนินคดี ก็ยังทำไม่ได้เพราะไม่ทราบชื่อนามสกุล
ด้าน พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ ระบุว่า ในส่วนของผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นยังไม่สามารถแจ้งข้อหาใดๆ ได้ เนื่องจากยังไม่ทราบชื่อ และนามสกุล ทำได้เพียงจัดให้อยู่ในที่ปลอดภัย และเร่งพิมพ์มือส่งตรวจอัตลักษณ์บุคคล เพื่อติดต่อแจ้งญาติในการนำเข้าสู่ขบวนการทางกฎหมาย ส่วนของกลางที่ผู้เสียหายกังวลนั้น ต้องให้ฝ่ายสืบสวนไล่กล้องวงจรปิดหลังก่อเหตุว่าผู้ก่อเหตุเอาไปไหนขายให้ใครหรือไม่
*********************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ