เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 18 ก.พ. 2567
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ถูกรถเก๋งสีแดงชนเข้าอย่างจังระหว่าจะออกไปตรวจสอบเหตุผู้ป่วยย่านราษฎร์บูรณะ กทม. นอกจากนี้ เด็กผู้หญิงซึ่งเป็นอาสาสมัครกู้ภัยฝึกงานยังถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถเก๋งคู่กรณีไม่มีการขอโทษแล้วขับรถหนีไป โดยอาสากู้ภัยสังเกตเห็นคนขับมีท่าทางคล้ายคนเมา เบื้องต้นได้นำหลักฐาน ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือที่บันทึกภาพของหน้าตาคู่กรณีเอาไว้ได้อย่างชัดเจนรวมทั้งภาพถ่ายของรถเก๋งสีแดงพร้อมทะเบียนรถที่ก่อเหตุ และคลิปวีดีโอกล้องหน้ารถซึ่งบันทึกภาพตอนเกิดเหตุ เข้าแจ้งความที่ สน.ราษฎร์ราษบูรณะ
นายโสรส อายุ 40 ปี อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จุด สน.ราษฎร์บูรณะ เปิดเผยว่า ตนเองขับรถมาตามทางปกติ ซึ่งออกมาจากทางซอยสุขสวัสดิ์ 13 เมื่อกำลังจะทะลุออกปากซอยราษฎร์บูรณะ ซอย 6/1 ตนเองก็ได้จอดรถแล้วเพื่อกำลังจะเลี้ยวซ้ายไปตามทางถนนราษฎร์บูรณะเพื่อกำลังจะไปกลับรถที่บริเวณโค้งอู่ม้อเพราะตรงบริเวณทางแยกตรงนี้นั้นกลับรถไม่ได้แล้วรถของคู่กรณีก็พุ่งมาชนรถของตนเองเลย แล้วก็ขับรถหนีไปโดยไม่ยอมลงมาพูดคุยหรือเรียกประกัน
รถคู่กรณีมุ่งหน้ามาทางถนนราษฎร์บูรณะ แล้วเลี้ยวเข้าซอยราษฎร์บูรณะซอย 6/1 เก่อนมุ่งหน้าออกไปทางซอยสุขสวัสดิ์ 13 ท่าทางของผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวเหมือพูดจาไม่รู้เรื่อง ถ้าคนเราปกติดีทุกอย่าง ในเมื่อรถชนรถก็ต้องลงมาพูดคุยกันหรือเรียกประกันมาตกลงกัน แล้วตอนนั้นก็มีเคสผู้ป่วยด้วย ตนเองกำลังจะไปตรวจสอบเคสแต่แล้วก็มาเกิดเรื่องก่อน ตนยืนยันว่าไม่ได้ขับรถเร็วมาตามทางด้วยความเร็วปกติแล้ว เมื่อถึงทางแยกตนเองก็กำลังจะเบี่ยงซ้ายออกไปทางถนนราษฎร์บูรณะ เพื่อจะไปกลับรถ แล้วตนเองมาถึงทางแยกตรงนี้ก็จอดรถแล้วด้วย เขาก็ขับมาเลนกลางแล้วเลี้ยวขวาพุ่งมาชนรถของตนเอง
ด้านน.ส.ทองวิสา อายุ 22 ปี กล่าวว่า เขาพยายามจะบิดแขนของตนเองแล้วเขาก็บอกว่าเขาจะกลับบ้านส่วนตนเองก็ไม่อยากให้เขากลับ ตนพยายามบอกว่าแล้วจะหนีทำไมเขาก็พยายามที่จะปิดประตูตนเองก็ไม่ยอมให้เขาปิดแล้วเขาก็มาจิกที่แขนของตนแล้วก็กำแขนของตนแน่นเลยแล้วแฟนของตนเองเมื่อเห็นอย่างนั้นก็พยายามที่จะเอามือของเขาออกจากแขนของตนแต่เขาก็กำแขนของตนแบบแน่นเลย แล้วตนเองก็จะไปแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายแล้วจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด