ข่าวพาดหัวตรวจสอบ

เพื่อนร่วมงานช๊อค!!หนุ่มช่างซ่อมเรือวัย 39 บอกลา ก่อนกลายเป็นศพลอยน้ำ

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16.00 น.

พันตำรวจโท ภานุพงศ์ พันธ์สน สว.สอบสวน สน.บางคอแหลม รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตลอยน้ำบริเวณท่าน้ำอู่ต่อเรือแห่งหนึ่งย่านธนบุรี จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำเรือตรวจการณ์ทางน้ำของ สน.บางคอแหลม เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเรือตรวจการณ์ทางน้ำไปถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณท่าน้ำอู่ต่อเรือ ถนน มไหสวรรย์ แขวง ดาวคะนอง เขต ธนบุรี กรุงเทพมหานคร ภายในที่เกิดเหตุเป็นลักษณะท่าน้ำสำหรับใช้ประกอบและซ่อมเรือสินค้าขนาดใหญ่ จากการตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิตในลักษณะลอยคว่ำหน้าเป็นชาย 1 ราย ลักษณะการแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ไม่สวมรองเท้า เป็นชายไทย อายุ 39 ปี เป็นช่างซ่อมเครื่องยนต์เรือ ของอู่ต่อเรือเอกชนแห่งหนึ่ง ผู้ตายทำงานได้แค่ 2 เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการบันทึกภาพถ่ายในที่เกิดเหตุเอาไว้เป็นหลักฐาน แล้วนำลากจูงมาตรวจสอบที่ท่าน้ำ สน.บางคอแหลม

จากการสอบถาม เพื่อนร่วมงานกล่าวว่า ผู้ตายทำงานอยู่อู่ต่อเรือเดียวกับตน เป็นช่างยนต์เข้างานได้แค่ 2 เดือน เมื่อวานเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณช่วงบ่ายโมงของเมื่อวานนี้วิ่งผ่านหน้าตนไปแต่ตนคิดว่าน่าจะไปห้องน้ำเห็นว่ามือข้างหนึ่งถือไฟฉายอีกข้างหนึ่งถือยาเส้น ตอนเขาเดินลงไปในน้ำไม่มีใครเห็นมาเจอศพอีกทีก็ประมาณบ่าย 3 โมงของวันนี้ก็พบว่าเป็นศพไปแล้ว

และจากการสอบถามหัวหน้างาน กล่าวว่า เมื่อวานช่วงประมาณบ่าย 2 โมง ถึงบ่าย 3 โมงผู้ตายหายไปก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนมารู้อีกทีก็กลายเป็นศพลอยอยู่ในน้ำแล้ว

แล้วหัวหน้างาน ยังเล่าถึงเหตุการณ์ชวนขนลุกก่อนเจอศพอีกว่า พอเมื่อช่วงเช้าของวันนี้พอมีคนงานมาพบกองเสื้อผ้าของผู้ตายตนก็เริ่มใจคอไม่ดีแล้วล่ะ แล้วพอช่วงบ่าย 3 โมง ตนก็อธิษฐานบอกกล่าวกับผู้ตายว่าถ้าตายแล้วก็ขอให้ลอยโผล่ขึ้นมาให้ตนเห็นอย่าได้ลอยไปไกลกว่านี้เลยพออธิษฐานเสร็จไม่เกิน 5 นาทีศพก็ลอยโผล่ขึ้นมาให้ตนเห็นจริงๆตนถึงกับขนลุกเลยทีเดียวแล้วก็ตกใจมากเมื่อเห็นแบบนั้นก็เลยรีบแจ้งทางหัวหน้างานของตนให้ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบทันที แล้วพอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงเขาตรวจสอบเสร็จแล้วและพอจะลากจูงมาที่ท่าน้ำ สน. อยู่ๆลมก็ไม่รู้มาจากไหนพัดแรงมากเลยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีลมพัดมาก่อนเลยจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลากจูงศพออกมาจนพ้นสายตาลมก็หยุดพัดทันที ตนยอมรับเลยว่าตนไม่เชื่อเรื่องของสิ่งเล้นลับอะไรทั้งสิ้น แต่คราวนี้ต้องเชื่อแล้วเพราะเจอมากับตัวแล้วตนก็เชื่อว่าวิญญาณของผู้ตายรับรู้ได้ว่าตนและเพื่อนร่วมงานเป็นห่วง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์นิติเวชตรวจสอบสภาพร่างผู้เสียชีวิตแล้วไม่พบร่องรอยจากการถูกทำร้ายร่างกาย และไม่พบบาดแผลใดๆภายในร่างกายของผู้ตาย แต่อย่างไรแล้วต้องส่งร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และจะให้ญาตินำเอกสารไปติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป