ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

ตำรวจ เตรียมประสานญาติชาวจีนแจ้งสิทธิ์เงินประกัน ขณะที่ตัวคนขับล่าสุดแชดบอกทางเจ้าของรถหนีกลับกัมพูชาแล้ว

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 มีนาคม 2567 ที่ห้องประชุม ศปก. สภ.บางบ่อ พ.ต.อ.ชัยรัตน์ รุ่งเรือง ผกก.สภ.บางบ่อ ได้เรียกประชุมคณะทำงานคลีคลายคดีหนุ่มชาวเขมรขับรถยนต์กระบะชนนักท่องเที่ยวชาวจีนขณะเดินข้ามทางม้าลายจนเสียชีวิตคาที่ เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 1 มีนาคม 2567


หลังจากทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบจนตามพบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวหลบหนีไปซ่อนไว้ในบริษัทรับเหมาก่อสร้างย่านบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งพอไปตรวจสอบผู้ครอบครอง พบว่าเป็นหญิงสาวชาวไทยคนหนึ่ง ตำรวจจึงเชิญมาสอบปากคำตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าของรถออกมาระบุว่ามีการขายต่อให้กับทาง นาย ทอน อายุ 35 ปี คนงานชาวเขมร ไปแล้ว โดยมีสัญญาซื้อขายมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน


ขณะที่ พ.ต.อ.ชัยรัตน์ รุ่งเรือง ผกก.สภ.บางบ่อ ได้กำชับให้ตรวจสอบการทำประกันภัยของบริษัททัวร์แก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้ความช่วยเหลือทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตมีการทำประกันภัยการเดินทางและท่องเที่ยวไว้กับบริษัททัวร์ในวงเงิน 1 ล้านบาท และยังมีประกันภัยที่ประเทศจีนอีก 3 แสนยวน รวมถึงเงินเยียวยาจากกองทุนยุติธรรมติของภาครัฐสำหรับเหยื่อในคดีอาญาสูงสุดหนึ่งแสนบาท นอกจากนั้นทางด้าน สองสามีภรรยาเจ้าของรถ ยังออกมาแสดงความรับผิดชอบในฐานะเจ้าของรถยนต์ซึ่งจะมีการเยียวยาตามกำลังทรัพย์ที่พอไหว รวมวงเงินที่ทางครอบครัวได้รับสิทธ์เงินเยียวยารวมกว่า 2.5 ล้านบาท ซึ่งทางพนักงานสอบสวนและตำรวจท่องเที่ยว จะได้แจ้งสิทธิ์ดังกล่าวและอำนวยความสะดวกพร้อมทั้งประสานไปยังบริษัททัวร์เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนรวมถึงการอำนวยความสะดวกเรื่องงการเดินทางของญาติและการรับศพดำเนินการตามประเพณี ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการที่วัดไทยในการจัดการพิธีศพตามศาสนา


ส่วนตัวผู้ต้องหานั้นพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ของกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อมาประกอบสำนวนขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหารายนี้
ด้านสองสามีภรรยาเจ้าของรถ เปิดเผยว่า ตนเองได้ขายต่อรถคันดังกล่าวให้กับนายทอน ไปเมื่อปีเศษแล้ว แต่ยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือเปลี่ยนสัญญากับทางไฟแนนซ์แต่อย่างใด เป็นการขายดาวน์เงินสด40,000บาท แล้วให้ผ่อนชำระต่อ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยผิดนัดการชำระแต่อย่างใด อีกทั้งที่ไว้ใจก็เพราะว่าเห็นว่านายทอนทำงานกับบริษัทมานานกว่า 15 ปี แล้ว ซึ่งมีการยึดพาสปอร์ตนายทอนและภรรยาไว้ค้ำประกันกับทางบริษัทแต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ตนเองมาทราบข่าวตอนสายของวันนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองได้ติดต่อนายทอนผ่านทางแชดเฟสบุ๊คโดยมีการพูดคุยและเกลี้ยกล่อมให้นายทอนกลับมามอบตัว แต่กลับได้รับคำตอบว่านั่งรถตู้กลับไปถึงชายแดนสระแก้วและข้ามฝั่งกลับถึงบ้านเกิดในกัมพูชาแล้วเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาก่อนจะปิดแชดเงียบหายไป
************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ