ข่าวทั่วไป

สสส.- สคอ. นำทัพสื่อและเครือข่ายเยือนเชียงราย ศึกษาพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมป้องกันอุบัติเหตุทางถนน

สสส.- สคอ. นำทัพสื่อและเครือข่ายเยือนเชียงราย ศึกษาพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมป้องกันอุบัติเหตุทางถนน
ก่อนปีใหม่ 2564 ชี้เกิดเหตุสูงช่วงกลางวัน บาดเจ็บ-ตาย จากขับเร็วและไม่ชำนาญทาง เร่งติดตั้งอุปกรณ์ป้องกัน ป้ายเตือน แนะ 5 สิ่งต้องรู้ ก่อนขับขึ้นเขา-ลงเขา-ทางโค้ง เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว

(วันที่17พ.ย.63) ที่โรงแรมแกรนด์วิสต้าเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย-ในการประชุมขับเคลื่อนสื่อสารประชาสัมพันธ์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อเพิ่มศักยภาพบทบาทสื่อมวลชนและเครือข่ายด้านการสื่อสาร เผยแพร่ข้อมูล สร้างความตระหนักขับขี่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน จัดโดย สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สมาคมเคเบิลทีวีและโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย สมาคมสื่อช่อสะอาด สมาคมเครือข่ายหมออนามัยวิชาการ และเครือข่ายภาคเหนือกว่า 70 คนร่วมประชุมฯ
นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมฯว่า ประเทศไทยมีการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนที่มีแนวโน้มสูงอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการตายเฉลี่ยสูงปีละ 24,000 ราย พิการกว่าปีละ 50,000 คน คิดเป็นความสูญเสียกว่าปีละ 5 แสนล้านบาท สาเหตุจากดื่มและขับเร็ว พฤติกรรมผู้ขับขี่ที่ไม่เคารพกฎหมาย ประมาท ยานพาหนะที่ไม่พร้อมฯ ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นให้คิดเสมอว่าไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญหรือเวรกรรม แต่เกิดจากการกระทำที่ประมาท ขาดสติ และเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถป้องกันตนเองได้

โดยในระยะเวลาอันใกล้นี้ก็จะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ 2564 เชียงรายเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆของประเทศ มีเส้นทางท่องเที่ยวหลายแห่ง รถมาก ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากพื้นที่มีเส้นทางที่เป็นภูเขา มีทางโค้งจุดเสี่ยงหลายจุด หากไม่ชำนาญทางหรือประมาท ก็จะเสี่ยงอันตรายเกิดอุบัติเหตุได้
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า สสส.เป็นหนึ่งในหลายหน่วยงานที่ทำงานสร้างมาตรการความปลอดภัยทางทางถนนมาอย่างต่อเนื่อง มีบทบาทเป็นผู้จุดประกาย เสริมพลังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม ให้ได้มีโอกาสร่วมคิด เรียนรู้ พัฒนาต่อยอดให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย สนับสนุนและผลักดันในการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน ด้วยการสร้างกลไกการทำงานอย่างบูรณาการทั้งในระดับชาติ จังหวัด และระดับพื้นที่หวังลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน พร้อมสนับสนุนข้อมูลวิชาการ และร่วมพัฒนานโยบาย และมาตรการด้านความปลอดภัยทางถนนในทุกมิติ ตลอดจนจัดให้มีการสื่อสารรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ภาคประชาสังคม ประชาชน รวมถึงสื่อมวลชน เพื่อสร้างความตระหนักและความร่วมมือของผู้ใช้รถใช้ถนนให้ขับขี่อย่างปลอดภัยและมีวินัยจราจร ขณะนี้ สสส. ขยายการทำงานลงถึงระดับอำเภอและตำบล มุ่งสนองนโยบาย ‘ตำบลขับขี่ปลอดภัย’ ของกระทรวงมหาดไทย ด้วยการสนับสนุนให้เกิด
‘พลังชุมชน/ท้องถิ่น ร่วมขบวนการสร้างความปลอดภัยทางถนน’ เพื่อให้ชุมชนมีบทบาทในการสร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับพื้นที่ตนเอง ซึ่งน่าจะทำให้ลดการตายได้ปีละกว่า 7,000 คน หากทุกท้องถิ่นทั้งประเทศขับเคลื่อนร่วมกัน

นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ Thai RSC ของบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด (ณ วันที่ 13 พ.ย.63) พบว่าจังหวัดเชียงราย มีสถิติผู้บาดเจ็บ 12,024 ราย เสียชีวิต 266 ราย โดยตำบลป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นพื้นที่ศึกษาดูงานครั้งนี้ มีพื้นที่เสี่ยงทางโค้ง ขึ้นเขาและเกิดอุบัติเหตุบ่อย ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่มีการจัดการแก้ไขปัญหาที่ได้ผล จึงได้นำคณะสื่อและเครือข่ายลงพื้นที่เรียนรู้ร่วมนำเสนอข้อมูล ทั้งนี้อยากฝากข้อควรระวังในการขับรถขึ้นเขา-ลงเขา สิ่งที่ต้องรู้คือ 1.ขาขึ้น-ลงเขา ควรใช้เกียร์ต่ำตลอดเส้นทาง 2.ทางโค้งต้องระวังและลดความเร็วลง 3.ห้ามแซงเพราะถนนแคบไม่สามารถมองเห็นรถอีกฝั่งได้ชัดและไม่ควรแซงในเขตห้ามแซง 4.ควรแตะเบรกเป็นระยะเพื่อชะลอความเร็วรถ แต่อย่าแตะเบรกแช่ยาวเพราะจะทำให้เบรกไหม้และเบรกไม่อยู่ และ 5.ควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมก่อนเดินทาง
นายศักดิ์ดา ธานินทร์ สาธารณสุขอำเภอแม่จัน จ.เชียงราย กล่าวว่าอำเภอแม่จันมี 11 อำเภอ พบว่า 1 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์อุบัติเหตุในพื้นที่เกิดหตุรวม 1,193 ครั้ง เสียชีวิต 31 ราย สาเหตุหลักจากขับเร็ว ดื่มแล้วขับและไม่สวมหมวกนิรภัย เดือนธันวาคมเป็นช่วงที่เกิดเหตุค่อนข้างสูงเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่มีการเดินทางกลับบ้านของคนในพื้นที่ และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไม่ชำนาญทางและดื่มฉลองสังสรรค์แล้วขับรถ
นายทรงพล ชีวินมหาชัย นายก อบต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย กล่าวว่า สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนตำบลป่าตึง ปี 2563 บาดเจ็บ 10 ราย เสียชีวิต 4 ราย ยานพาหนะเกิดเหตุส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ จึงได้แก้ไขป้องกันโดยติดตั้งกระจกโค้งในจุดเสี่ยงที่มองไม่ชัดเจน 50 จุด ติดตั้งเสาสัญญาณไฟกระพริบในทางแยก ทางร่วม 12 จุด ติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV 4 จุด ทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไขและปรับปรุงจุดเสี่ยงต่างๆ ที่เป็นอันตรายและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังตั้งจุดบริการประชาชนลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาล พร้อมกับอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการขับขี่ปลอดภัยแก่เด็กนักเรียน ผู้ปกครองอย่างต่อเนื่อง
นายแดนชัย สำราญพงษ์ รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเชียงรายที่1 ฝ่ายวิศวกรรม กล่าวว่า ถนนโค้งบ้านทุ่งต่าง ม.1 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นจุดเสี่ยงอันตรายบนทางหลวง 107 ตอนเมืองงาม-แม่จัน กม.227+950 เส้นทางราบสลับภูเขา มีทางโค้ง ถนน 2 ช่องจราจร ไม่มีเกาะกลาง มีความยาว 240 กว่ากิโลเมตร เชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ปริมาณรถแต่ละวันค่อนข้างมาก เคยเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บจนถึงเสียชีวิต ส่วนใหญ่เกิดตอนกลางวันจากรถเสียการควบคุมข้ามช่องจราจรชนกับรถในทิศทางที่สวนมาหรือตกข้างทางเพราะใช้ความเร็วเกินกำหนดและไม่ชำนาญเส้นทาง ซึ่งได้ปรับปรุงแก้ไขโดยติดตั้งราวเหล็กลูกฟูก เปลี่ยนป้ายเตือนทางโค้งให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ติดตั้งป้ายจำกัดความเร็ว และป้ายเขตชุมชน มีเครื่องหมายจราจรบนพื้นทาง แถบชะลอความเร็ว และเส้นแถบลดความกว้างของช่องจราจร ติดตั้งไฟกระพริบเตือน ตัดแต่งต้นไม้ข้างทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น

สมภพ ฝึกฝน ผู้สื่อข่าวทั่วไทยนิวส์ รายงาน