ไฟไหม้สารเคมีภายในบริษัทที่เลิกกิจการแล้ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงฉีดน้ำกลับปะทุเพิ่มต้องนำทรายมากลบเพลิงจึงสงบ
เมื่อเวลา 09.47 น. วันที่ 21 มีนาคม 2567 ศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุสารเคมีรั่วไหลและเกิดกลุ่มควัน ภายในบริษัทแห่งหนึ่ง ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลบางปู จำนวน 6 คัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบ
ที่หน้าถนนพบกลุ่มควันสีขาวลอยออกมาจากบริษัทดังกล่าว ที่ด้านหลังของบริษัท พบแสงเพลิงและกลุ่มควันสีขาว จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงทำการใช้ถังเคมี และ น้ำฉีด แต่ก็ไม่สามารถดับเพลิงได้ แถมเพลิงเมื่อโดนน้ำก็ยิ่งลุกหนักกว่าเก่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงประสานขอทรายมาทำการกลบ แต่ก็ยังมีการปะทุขึ้นมาหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงเฝ้าระวัง จนกว่าเหตุการณ์จะสงบ ในที่เกิดเหตุยังพบผงสารเคมีสีน้ำเงิน เต็มพื้น และ ในถุงบิ๊กแบ็ค จำนวน 2 ถุง จากการสอบถามพบว่าเป็นกากสารเคมีที่นำออกมาจากเครื่องโม้ ซึ่งเป็นสารเคมีฆ่าหญ้า (คาร์แทป)
จากการสอบถาม พบว่า โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานที่ปิดกิจการไปแล้ว ไปตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม และ อยู่ระหว่างเคลียร์ของทำความสะอาดโรงงาน โดยสารเคมีดังกล่าวรอโรงงานที่รับกำจัดมารับไปดำเนินการ แต่ก็มาปะทุเสียก่อน
จากการสอบถาม นางสาวอ่อย อายุ 45 ปี พนักงานของบริษัทดังกล่าว เล่าว่า สารเคมีที่เกิดไฟไหม้เป็นยาฆ่าหญ้า ตอนทำความสะอาดก็เอามารวบรวมไว้ในถุงบิ๊กแบ็ค เพื่อจะส่งไปบำบัด ตอนนี้กำลังให้บริษัทดับบิวเอ็มเอสเขาดำเนินการอยู่ คือต้องขออนุญาต กรมโรงงานก่อนเพื่อที่จะขนออกนอกโรงงาน แต่ว่ามันปะทุขึ้นก่อน ตนก็ไม่ทราบว่าปะทุขึ้นจากอะไร เพราะว่าเก็บไว้นานแล้ว ไม่ใช่พึ่งเก็บเป็นการเก็บใส่ถุงบิ๊กแบ็คเพื่อ เตรียมรอส่งบำบัด ตนไม่แน่ใจว่าสารเคมีตัวนี้โดนน้ำแล้วจะติดไฟหรือไม่ แต่ว่าสารตัวนี้เขาเอาไว้หว่านในนาข้าว แต่ว่าจะมีตัวอื่นปนอยู่หรือเปล่าตนไม่แน่ใจ เพราะว่าเป็นการทำความสะอาดมา แล้วเอามารวมกันไว้ ที่โกดังไม่ได้มีแค่เคมีนี้ตัวเดียวทำหลายตัวแต่ตอนนี้บริษัทปิดกิจการแล้ว ตอนนี้แค่ทำความสะอาด อันไหนที่จะต้องส่งบำบัดก็จะมารวบรวมไว้ บริษัทปิดกิจการตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม ช่วงนี้อยู่ในระหว่างเคลียร์ของทำความสะอาด มีคนงานอยู่แค่ 4 คน เพราะนอกนั้น เลิกจ้างหมดแล้ว ตอนที่ไฟเริ่มลุกตนเอาถังดับเพลิงฉีดก่อนก็ไม่ดับ และก็ไหม้ขึ้นเรื่อยๆ ตนเลยเอาน้ำฉีดแต่ก็ไม่ดับ มันก็ลุกติดไฟขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็มีเสียงเหมือนมันระเบิดดังปัง แต่ไม่แรงมาก ตนคิดว่าไม่ไหวจึงเรียกรถดับเพลิง
เบื้องต้นทาเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเฝ้าระวังเพลิงจะปะทุขึ้นอีก และ ได้วางกระสอบทราบปิดท่อระบายน้ำของโรงงานดังกล่าว เพื่อไม่ให้น้ำที่ใช้ดับเพลิงไหลออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ส่วนลำรางด้านหน้าโรงงานทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการบล็อกลำรางทั้ง 2 ด้าน เพื่อไม่ให้น้ำไหลไปปนเปื้อนที่อื่น ก่อนที่จะมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำบริเวณดังกล่าวต่อไป
***********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ