วันนี้ 29 มีนาคม 2567 พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมคณะ เดินทางไปบ้านเลขที่ 44/ 1 บ้านกาแย ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับครอบครัวของ อาสาสมัคร ทหารพรานหญิง นูรีซัน พรหมศรี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 อายุ 36 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิงบริเวณตลาดดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ในขณะที่ผู้เสียชีวิตอยู่ในระหว่างลาพัก และได้ไปช่วยญาติขายอาหารในตลาด เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งทางครอบครัวยังคงอยู่ในอาการเสียใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับ นายนิมิต พรหมศรี และนางซีตีอามีเน๊าะ สะอะ ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของผู้เสียชีวิต
พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้นำความห่วงใยจาก พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ท่านผู้บัญชาการทหารบกฝากมายังครอบครัว ซึ่งทางกองทัพบก จะเร่งดำเนินการช่วยเหลือตามหลักสิทธิ สวัสดิการต่างๆมาให้กับครอบครัว พร้อมกำชับกับหน่วยงานในพื้นที่ เข้ามาช่วยเหลือดูแล เยียวยาทั้งสิทธิ และเยียวยาด้านความรู้สึกให้ครอบครัวที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ พร้อมกับได้ประณามการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่โหดเหี้ยมอำมหิต ไร้ซึ่งอุดมการณ์ที่ทำร้ายพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ กระทำได้แม้กระทั่งผู้หญิงคนหนึ่ง ถึงแม้เขาจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เขาไม่มีทางสู้ และการก่อเหตุในเดือนรอมฎอนอันบริสุทธิ์นี้ ด้วยความเชื่อที่ว่า จะทำให้ได้บุญเป็นร้อยเท่าพันเท่านั้น ไม่เคยมีปรากฏอยู่ในหลักศาสนา ไม่มีในคัมภีร์อัลกุรอาน แท้จริงแล้วทุกศาสนาสอนให้คนทำความดี ทั้งการให้และการแบ่งปันถือเป็นผลบุญที่ยิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นแล้วอยากให้ทุกคนช่วยกันติดตาม หากใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าช่วยกันปกปิด ให้นำข้อมูลนั้นส่งมาให้เจ้าหน้าที่ หรือส่วนราชการต่างๆ ได้ทุกช่องทาง จะได้เร่งดำเนินการจับกุมผู้ที่กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด และสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คืออยากให้ทุกคนทุกฝ่ายมาช่วยกัน ทั้งนักการเมือง นักสิทธิสตรี องค์กรสิทธิมนุษยชน มาร่วมกันต่อต้านปฏิเสธความรุนแรง และมาร่วมกันทวงความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ทั้งการเพิ่มมาตรการในการป้องกันเหตุต่างๆ และได้เน้นย้ำกำชับกำลังพลที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ต้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท ไม่ว่าจะอยู่ในหน้าที่ หรือการเดินไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวก็ตาม โดยเฉพาะในห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนอันประเสริฐนี้ เราทุกคนจะช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดี ให้เอื้ออำนวยความสะดวกกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมได้ปฏิบัติศาสนกิจอย่างเต็มที่และสมบูรณ์แบบที่สุด
ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส