ข่าวพระราชสำนักจับกุม

ตร.บางแก้ว รวบชายห่มจีวรเมาสุราเดินตามสีกากลางตลาดย่านกิ่งแก้ว ตะลึงแขวนของขลังเต็มตัว

ตำรวจบางแก้วรวบชายสูงวัยห่มจีวรเมาสุราเดินตามสีกากลางตลาดย่านกิ่งแก้ว ตำรวจเข้าตรวจสอบถูกปล่อยหมัดสวนใส่ ก่อนจะถูกตำรวจคุมตัวมาโรงพัก ถึงกับตะลึงพบเครื่องรางของขลังมัดเต็มตัวเดือดร้อนกู้ภัยนำอุปกรณ์ช่วยตัดนานกว่าชั่วโมง


เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 3 เมษายน 67 ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจของสภ.บางแก้ว ควบคุมตัว นาย สุพจน์ แดงกระจ่าง อายุ 62 ปี พร้อมกับจีวรพระที่สวมใส่ คุมตัวมายังสภ.บางแก้ว เพื่อสอบสวน แต่พอมาถึงที่โรงพักตำรวจจะขอตรวจค้นร่างกาย เจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึง เพราะสิ่งที่เจอตามร่างกายของ นาย สุพจน์ คนนี้ คือ ห่วงเหล็กเส้น ขนาดต่างๆ เข็มขัดที่ดัดแปลงจากบานพับกลอนประตู และอื่นๆอีกหลายรายการ ซึ่งนายสุพจน์ นำมาสวมใส่ทั้งแขน ขา เอว ไม่เว้นแม้แต่ตรงอวัยวะเพศ ตำรวจต้องโร่แจ้งมูลนิธิร่วมกตัญญู ส่งเจ้าหน้าที่นำเครื่องตัดถ่างและอุปกรณ์ตัดแหวนมาการตัดเครื่องรางของขลังทั้งหมดออกจากตัว นายสุพจน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงจนสามารถตัดทุกชิ้นออกได้สำเร็จ นำมากองรวมกันคาดมีน้ำหนักเกือบ 10 กิโลกรัม


นาย สุพจน์ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ถอกเครื่องรางของขลังตามความเชื่อของนายสุพจน์ออกจนหมดตัวแล้ว ยังพบรอยสักยันต์เต็มตัวอีกด้วย เจ้าตัวบอกกับนักข่าวเราแบบนี้ เครื่องรางของขลังที่เห็น ทำมาใส่เพื่อปกกันคุณไสยต่างๆ ทำเพื่อให้หนังเหนียว ส่วนที่ใส่ตรงอวัยวะเพศนั้น ก็ป้องกันไม่ให้แกว่งไปแกว่งมาโดนโคนขา พอถามว่าเป็นพระจริงไหม เจ้าตัวบอกว่า ตนเองเป็นพระมาจากวัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีบวชมาหลายปีแล้ว


พ.ต.ท.ณรรฐพงษ์ มัคเจริญ รอง ผกก.ป.สภ.บางแก้ว เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมชายรายนี้ สืบเนื่องจาก ด.ต.เสกสรรค์ ชิดนอก ผบ.หมู่(ป.) สภ.บางแก้ว ปฏิบัติหน้าที่เป็นสายตรวจเดินเท้าในตลาดกิ่งแก้ว ได้รับแจ้งจากประชาชนที่มาใช้บริการในตลาดว่าพบเห็นชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ มีอาการเมาสุรา และเดินจ้องมองก้นและหน้าอกของสุภาพสตรีในตลาด ด.ต.เสกสรรค์ จึงไปตรวจสอบ ก็พบชายคนดังกล่าวจริง แต่พอเข้าไปสอบถามเรื่องราวกับชายคนดังกล่าว กลับถูกชายคนดังกล่าวใช้หมัดชกเข้าที่หน้าของ ด.ต.เสกสรรค์ แต่โชคดีที่หลบทัน และเกิดการต่อสู่ขณะจับกุมตัวจนมีการวิทยุขอกำลังเสริมและมีชาวบ้านช่วยกันรุมจับกุมตัวเอาไว้ได้ ก่อนจะคุมตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.บางแก้ว


ตำรวจจึงแจ้ง 4 ข้อหา 1.ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่ / 2.ทำร้ายเจ้าพนักงาน โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ / 3.เสพสุราหรือของเมาอย่างอื่น จนเป็นเหตุให้ตนเมา ประพฤติวุ่นวายหรือครองสติไม่ได้ขณะอยู่ในถนนสาธารณะหรือสาธารณสถาน / 4.ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคามหรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ
ส่วนที่อ้างว่าเป็นพระและสวมใส่จีวรนั้นตรวจสอบแล้วไม่พบเอกสารใบสุทธิของพระภิกษุสงฆ์นั้นไม่พบเอกสารใดๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบทางต้นสังกัดหากไม่พบว่าเป็นพระจริงก็อาจถูกแจ้งข้อหาเพิ่มภายหลัง
***********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ