ข่าวพาดหัวยาเสพติดอัคคีภัย

สงสัยคนเร่ร่อนย่องเข้าเสพยา แล้ววางเพลิงเผาฟิตเนส ย่านราษฎร์บูรณะ

สงสัยคนเร่ร่อนย่องเข้าเสพยา แล้ววางเพลิงเผาฟิตเนส ย่านราษฎร์บูรณะ

วันที่ 8 เมษายน 2567 เวลา 20.56 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในซอยข้างวัดราษฎร์บูรณะ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัย ราษฎร์บูรณะ และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร. ) ราษฎร์บูรณะ พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

 

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของหน่วยงานบรรเทาสาธารภัยของหน่วยงานต่างๆมาถึงที่เกิดเหตุพบแสงเพลิงและกลุ่มควันเกิดขึ้นบริเวณส่วนต่อขยายด้านหลังของฟิตเนส เลขที่ 373 ซอย ข้างวัดราษฎร์บูรณะ ถนน ราษฎร์บูรณะ เเขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ซึ่งฟิตเนสดังกล่าวเป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น ส่วนจุดเกิดเหตุเป็นลักษณะส่วนต่อเติมด้านหลังเป็นปูนชั้นเดียว ซึ่งแต่เดิมเคยใช้เป็นห้องครัว ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิท 19 ฟิตเนตดังกล่าวจึงปิดตัวลงจนถึงปัจจุบัน และภายในส่วนจุดเกิดเหตุดังกล่าวได้ทำการนำเครื่องครัวออกไปหมดแล้ว เหลือแต่แท้งค์น้ำพลาสติกขนาดใหญ่ 3 ถังอยู่ด้านในภายในแท้งค์น้ำดังกล่าวไม่มีน้ำหลงเหลืออยู่แล้ว แสงเพลิงและกลุ่มควันเกิดขึ้นบริเวณแท้งค์น้ำดังกล่าวและรุกรามเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งวางหัวฉีดแล้วระดมฉีดน้ำเพื่อเร่งระงับเหตุเป็นการเร่งด่วน ใช้เวลา 20 นาที เพลิงจึงสงบ และจากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนแท้งค์น้ำพลาสติก 3 ใบ เสียหายทั้งหมด และภายในที่เกิดเหตุยังพบกับผ้าจีวรพระ ถูกเผาไปด้วย 1 ผืน

จากการสอบถามเจ้าของฟิตเนส กล่าวว่า เมื่อก่อนเปิดบริการจะมีปั๊มน้ำแต่พอปิดบริการก็จะนำปั๊มน้ำออกไป คงเหลือไว้แต่แท้งค์น้ำ อยู่ 3 ใบ และเครื่องครัวทั้งหมด ก็ขนออกไปแล้ว ส่วนตนก็พยายามให้เด็กๆวนไปวนมาตรวจตราอยู่ตลอด ขนาดเขาเข้ามาตอนเย็น ก็ยังเรียกตำรวจ เมื่อตอนทุ่มกว่าแต่ไม่เจอตัว ตนก็เลยคิดว่า จะติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม ตอนนั้นก็ต่อจาก ฟิตเนสออกไปแล้วพอเลิก ก็เลยเอาออก แต่ว่าคนที่เขาแจ้งดับเพลิง เป็นคนที่ขายของอยู่ภายในวัด ก็จะเห็นหน้าคนก่อเหตุประจำ แต่ตนเพิ่งมาเห็นเมื่อ 2 อาทิตย์กว่าๆที่เห็นว่าผู้ก่อเหตุ เริ่มเดินเข้ามาในสถานที่ดังกล่าว ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอพักหลังก็มีคนมาบอกว่า เขาแอบเข้าไป ภายในฟิตเนส เราก็เลยทำตัวล็อคใหม่ พอล็อคไปเสร็จปุ๊บเขาก็เข้าไปไม่ได้ เขาก็เลยเข้ามาอยู่ ตรงห้องเกิดเหตุดังกล่าว พอตกเย็นวันนี้มีคนเห็นแล้วหลายวันนี้ก็พูดกันอยู่แล้วว่าใครเห็นก็เรียกกันก็เลยเรียกตำรวจ จะให้ล็อคตัวเอาไว้เลย แต่พอตำรวจมาก็หาไม่เจอ แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาแอบอยู่หลังแท้งค์น้ำหรือเปล่า แล้วพอตำรวจกลับไปไม่เกินชั่วโมงไฟก็เกิด ไหม้ขึ้นมาเลย

เบื้องต้นทางเจ้าของฟิตเนสจะเข้าแจ้งความรัองทุกข์ต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ในวันพรุ่งนี้ และทางด้านมูลค่าของความเสียหายนั้นยังประเมินไม่ได้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง