ข่าวพาดหัวฆาตกรรมจับกุม

ต่างด้าวโหดเก้าอี้ตีเพื่อนร่วมงานไม่ยั้งจนหักแล้วเอาเหล็กแทงจนดับคามือ

เมื่อเวลา 07.00 น.
วันที่ 12 เม.ย.2567
ร.ต.อ.ภัคธร หมวดเมือง รองสว.(สอบสวน)สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายร่างกายเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 547/54 ซอยสาธุประดิษฐ์ 39 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม.จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสูง 2 ชั้น ที่บริเวณในตัวบ้าน ใกล้ประตูบ้าน พบศพชายไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อฟุตบอลสีแดง กางเกงยีนส์ขาสั้น มีบาดแผลถูกแทงที่บริเวณคอด้านขวาเป็นบาดแผลฉกรรจ์ นอกจากนี้ยังมีแผลแตกที่คาง และหน้าผาก เลือดไหลนองพื้น ใกล้ศพพบท่อนโลหะปลายเหล็กมีลักษณะเป็นปากฉลาม เก้าอี้กลมขาเก้าอี้ทำด้วยโลหะ สภาพหักบิดเบี้ยว คาดว่า ขาเก้าอี้ใช้เป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนาย ชาน ยูน นาย อายุ 41 ปี ชาวเมียนมา ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุไว้ได้ อยู่ในอาการมึนเมาสุรา สอบสวนเบื้องต้นได้ความว่า ตนมีความมึนเมาสุรา ได้มาเจอกับผู้ตายในบ้าน ขณะที่ตัวผู้ตายก็มีอาการมึนเมาเมื่อเจอกันเกิดมีปากเสียงกันกระทบกระทั่งเรื่องส่วนตัว ตนจึงฉวยเอาเก้าอี้ในบ้านเอามาฟาดจนขาเก้าอี้หักจากนั้นจึงใช้ขาเก้าอี้ซึ่งเป็นโลหะแทงไปที่คอของผู้ตาย แต่การสอบสวนยังไม่ได้ความชัดเจนเนื่องจากตัวผู้ก่อเหตุยังมีอาการมึนเมา จึงควบคุมตัวไปที่ สน.บางโพงพาง

จากการสอบถามทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นที่อยู่ของชาวพม่าและชาวไทยใหญ่ที่นายจ้างเช่าไว้สำหรับให้คนงานทำงานเจียระไนพลอย ทั้งทำงานและอยู่อาศัย โดยผู้เสียชีวิต คนในซอยเรียกกันติดปากว่า “นายยี่” ชาวเมียนมา อาศัยอยู่ที่ในซอยแห่งนี้มานานนับ 10 ปีแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นคนงานเจียระไนพลอยด้วยเช่นกัน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและผู้ก่อเหตุต่างมึนเมาสุรา กระทั่งมีปากเสียงกันในช่วงเวลา 20.00 น. ของวันที่ 11 มิ.ย. ก่อนที่จะมาพบศพเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

สอบถามจาก นาย สุทธิพจน์ โพธิ์ศรี อายุ 25 ปี อยู่ในซอยและรู้จัก บอกเล่าว่า เมื่อคืนประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ตนเห็นคนก่อเหตุ เดินกลับเข้ามาสภาพเมามาก แทบจะเดินไม่ได้ ตนจึงพยุงเดินเข้าไปส่ง ส่งได้แค่ตรงแยก แล้วเค้าก็ไหว้จะกราบขอบคุณแล้วบอกไม่เป็นไร เค้าเกินกลับเองได้ ตนจึงส่งแค่นั้น แล้วหลังจากนั้น คนตายก็เดินกลับเข้ามาตามหลัง แต่ไม่ได้ไปด้วยกัน คือต่างคนต่างไปกินกัน คนตายยังพอมีสติ ยังทักคุยลูบหัวตนอยู่เลย แล้วก็เดินเข้าบ้านไป พอเที่ยงคืนได้มั้ง คนตายก็เดินออกไปข้างนอกอีก แล้วก็กลับเข้าไปที่บ้าน คนข้างบ้านเค้าก็บอกว่าได้ยินเสียงทะเลาะกันเสียงดัง ก็มารู้อีกทีว่ามีคนตายก็ตอนประมาณ 6 โมงครึ่งได้ คนตายกับคนก่อเหตุเค้าทำงานและพักอยู่ที่เดียวกัน ตอนที่พบศพที่ คนตายนอนอยู่หน้าประตู ส่วนคนก่อเหตุนอนอยู่ตรงบันได ตอนเจ้าหน้าที่มาถึง คนก่อเหตุยังนอนหลับอยู่เลย

และนางสาว สุธาสินี รุจิสรณ์ริ (คุณ ฟ้า )อายุ 46 ปี บ้านอยู่ตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ บอกเล่าว่า ตนกำลังเดินออกจากบ้านไปทานข้าวข้างนอก จังหวะตนเดินออก เค้าก็เดินเข้า แล้วก็ได้ยินเสียงคุยหรือทะเลาะกันดังอันนี้ตนไม่ได้สนใจหันเข้าไปมอง เพราะข้างในบ้านมันมืดมาก เค้าไม่ได้เปิดไฟ พอตนทานข้าวเสร็จ ตนก็เดินเข้าบ้าน แต่ก็ยังได้ยินเสียงตุ๊บๆ ดังต่อเนื่องในบ้าน แต่ตนก็ไม่ได้สนใจมองเข้าไปอีก เพราะมันมืด ตนก็รีบเข้าบ้านแค่นั้น แต่ตอนระหว่างที่ตนออกไปถึงประมาณกลางซอยตนเจอแบงค์ 20 บาทตกอยู่ ตนก็หยิบขึ้นมา แล้วบ้านกลางซอยก็บอก ต้องเป็นของคนเมาที่เดินเข้าไปตะกี้แน่ๆ ตนก็บอกไม่รู้เหมือนกัน ถามว่าเคยเห็นมั้ยก็เคยเห็นนะ เป็นแรงงานที่ทำพลอยด้วยกันนั่นแหละ

ส่วนผู้ตายไม่พบเอกสารติดตัว เจ้าหน้าที่มอบหมายให้อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพผู้เสียชีวิตส่งไปผ่าชันสูตรศพ ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ และรอสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายต่อไป.