วันที่ 19 เมษายน 2567 เวลา 13.06 น.
ร้อยตำรวจเอก ลิขิต โหมงสูงเนิน รอง สว.สอบสวน สน.บางขุนนนท์ รับแจ้งจากสายด่วน 199 และศูนย์วิทยุผ่านฟ้า เหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยจรัญสนิทวงศ์ 31 แยก 1 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงที่เหตุพบแสงเพลิงและกลุ่มควันเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 291 / 76 ซอย จรัญสนิทวงศ์ 31 แยก 1 ถนน จรัญสนิทวงศ์ แขวง บางขุนศรี เขต บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารคอนกรีต 2 ชั้น แบ่งเป็นห้องให้เช่า มีรั้วรอบขอบชิต พยแสงเพลิงและกลุ่มควันเป็นจำนวนมากเกิดขึ้นบริเวณชั้นที่ 2 ของตัวอาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครกู้ภัย ต้องช่วยกันแบกเครื่องหาบหามเข้าไปภายในซอยดังกล่าวเพราะเป็นซอยแคบรถดับเพลิงขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ เเละเมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้นำเครื่องหาบหามมาถึงจุดเกิดเหตุแล้วจึงรับรุดจัดวาหัวฉีดน้ำเพื่อเรีงรัดทำการระงับเหตุโดยทันที ใช้เวลาในการระงับเหตุ 20 นาที แสงเพลิงและกลุ่มควันจึงหมดไป แล้วหลังจากนั้นได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดจึงไปพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องต้นเพลิงดังกล่าว เป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาชื่อ น.ส.ยศิพร อายุ 63 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารช่วยเหลือตัวเองได้ ในลักษณะศพไหม้เกรียม ห่างจากเตียงนอนของตัวเอง 2 เมตร คาดว่าตอนเกิดเหตุน่าจะพยายามตะเกียกตะกายเพื่อเอาชีวิตลอดแต่ไม่ทัน แล้วประตูหน้าห้องของผู้ตายก็ถูกล๊อคจากด้านนอก แล้วชาวบ้านคาดว่าห้องของผู้ตายไม่มีคนอยู่นึกว่าผู้ตายออกไปหาหมอ เพราะผู้ตายป่วยเป็นโรคไต ต้องไปฟอกไตที่โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ แล้วคนที่ขึ้นไปดูตอนที่ไฟกำลังรุกไหม้ก็เห็นว่าหน้าห้องถูกล๊อคด้วยแม่กุญแจจากภายนอกจึงคิดว่าภายในห้องไม่มีคนอยู่ก็เลยรีบออกมา
และจากการสอบถาม นาย สุริยะ เรืองพุ่ม อายุ 54 ปี เป็นประธาน อพม. เขตบางกอกน้อย กล่าวว่า ผู้ตายป่วยเป็นโรคไต บางทีต้องออกไปฟอกไต ตนเองเป็นผู้ดูแลป้าแต่ว่าเคสของป้านี้จำชื่อจริงของเขาไม่ได้ เพราะว่าตนดูแลหลายคน แต่ชื่อเล่นผู้ตายชื่อป้าใหม่ เบื้องต้นต้องใช้ออกซิเจนตลอดเวลา เพราะว่าเคยเปลี่ยนจากเครื่องเล็กเป็นเครื่องใหญ่ แล้วมีผู้ใจบุญเห็นว่าแก ไม่ค่อยดีก็เลย ซื้อเครื่องใหญ่อันใหม่ให้ แล้วทีนี้เครื่องเล็กก็ไม่ได้ใช้เพราะว่าเครื่องเล็กมันร้อน ต้องคอยเติมน้ำบ่อยๆ เครื่องใหญ่ก็จะดีหน่อยเติมน้ำ ไม่ต้องบ่อย ที่นี้มีคนเขาบอกว่า เขาเห็นควันก่อนเสียงระเบิด แล้วถ้ามีควันก่อนเสียงระเบิดตนคาดว่า ระบบอากาศมันไม่พอหรือว่าช็อต หรือว่าอะไรสักอย่าง แล้วพอนานไปก็เกิดเสียงระเบิด แล้วก็เกิดไฟไหม้ ตนคาดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ ตนเองดูแลป้ามาหลายปีแล้ว พอดีตนดูแลหลายคน ก็ว่าหลังสงกรานต์จะหาเวลามาเยี่ยม ป้าแกเดินได้เมื่อก่อนแกขายโดนัทอยู่ตรงจรัญ 29 แล้วพอแกป่วยเป็นไต แกก็ไม่ได้ขาย แล้วก็มาใช้เงินผู้สูงอายุ แต่ก็ไม่ได้เท่าไหร่ แล้วคนละแวกใกล้เคียงก็ช่วยเอาอาหารมาให้บ้างอะไรบ้าง
ทางด้าน นาย อนุชา อายุ 58 ปี จนนอนหลับอยู่แล้วได้กลิ่นควัน แล้วตนก็เลยชะโงกดูเพราะว่าตนทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แล้วตนก็เห็นว่ามีคนวิ่งเอาถังออกซิเจน วิ่งมาต้นก็รู้อยู่แล้วว่าเกิดไฟไหม้ แล้วทั้งควันและไฟมันก็โพยพุ่งออกมา ตนก็ยืนดูอยู่ ทำฟันแล้วไฟ ก็พุ่งออกมาจากห้องผู้เสียชีวิต ปกติผู้เสียชีวิตจะอยู่คนเดียวแต่ก็จะมีญาติคอยมาดู จะมาตอนช่วงเช้าช่วงเย็น ทุกวันเพื่อนำอาหารมาส่ง เพราะว่าผู้เสียชีวิตเขาไปไหนไม่ได้บางทีก็จะมีเด็กๆวิ่งมาดู แต่ปกติก็จะมีคนมาดูแลแค่ช่วงเช้าเพราะช่วงเย็นเท่านั้น
และทางด้าน นางสาว ศรีชญา อายุ 49 ปี กล่วว่า ตนทราบว่าแกป่วยมากแล้วก็เป็นหอบ เราก็ต้องคอยใช้ออกซิเจนตลอด แล้วก็แกเดินไม่ค่อยไหวแกก็จะป่วยนอนที่โรงพยาบาลก่อน แต่ว่าไม่ทราบรายละเอียดมากกว่านี้ แล้วจะมีคนที่เป็นญาติกัน ชื่อว่าป้าตุ่ม จะเป็นคนที่ขายผัก อยู่ตรงริมถนนใหญ่ที่เป็นแผงผักเขาเป็นญาติกับผู้เสียชีวิต เขาคอยดูแลอยู่แล้วก็ เที่ยวไปเที่ยวมาบ่อยๆ คนนั้นจะรู้ข้อมูลเยอะเพราะว่าเขาเป็นญาติกัน ปกติถ้าแกไม่อยู่ก็จะมีพวกอุปกรณ์การแพทย์ แกจะทิ้งเอาไว้ในห้องเยอะ แล้วแกเหมือนจะมีเครื่องช่วยหายใจ แกก็จะคอยเสียบปลั๊ก ปกติแกจะไม่ค่อยอยู่ ถ้าเห็นว่ามีแม่กุญแจล็อคอยู่ ประตูหน้าห้องปุ๊บทุกคนก็จะคิดว่า ภายในห้องไม่มีคนอยู่ เขาน่าจะไปหาหมอ ต้นมันรู้ว่าเกิดเหตุไฟไหม้เพราะว่ามีคนวิ่งไปบอกไฟไหม้เพราะว่าบ้านเช่าหลังนี้เป็นบ้านของคุณพ่อพอวิ่งมาก็เห็นว่าประตูหน้าล๊อคก็ต้องวิ่งกลับบ้านไปหาอะไรมางัดประตู แต่พอกลับมาอีกทีก็เข้าไปงัดไม่ได้แล้วไฟพุ่งออกมาแล้วมันร้อนมาก
นาย อุเทน อายุ 45 ปี เป็นคนที่เข้าไปช่วยเป็นคนแรก ตอนที่ตนมาถึงก็พยายามวิ่งขึ้นไปช่วยแต่ว่าได้ยินเสียงระเบิดดังออกมาเหมือนเสียงแก๊ซระเบิดแล้วเห็นว่าห้องล๊อคอยู่ด้วยก็เลยเข้าไปไม่ได้แล้วก็มีเสียงระเบิดจากถังออกซิเจนอยู่ตลอดเวลา ก็เลยเกรงว่าจะเกิดอันตรายแล้วไฟก็รุกเต็มพื้นที่แล้วก็เลยถอยกันลงมา พอมารู้ว่ามีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ภายในห้องมันก็สายไปแล้ว
และทางด้าน นาง พิศมัย อายุ 62 ปี ผู้ดูแลผู้เสียชีวิตกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตนเองก็มาดูแกตอนช่วง 8 โมงเช้าแล้วตนก็ไปทำงาน พอกลับเข้าบ้านเขาก็โทรมาหาบอกให้มาที่บ้านก็เลยรีบมาดูแล้วกุญแจก็ไม่ได้เอามาตนก็เลยโทรหาหลานให้รีบเอากุญแจมาแล้วควันก็พุ่งออกมาเยอะแล้ว ส่วนสาเหตุที่ต้องล๊อคประตูหน้าเอาไว้ก็เพราะว่าเกรงความปลอดภัยเพราะแกป่วยอยู่คนเดียวในห้องก็เลยกลัวว่าจะมีขโมยเข้าไปของภายในห้องมีเยอะแยะ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้งก่อนถึงจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่วนศพของผู้เสียชีวิตแพทย์นิติเวชมอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบที่นิติเวชศิริราช อย่างระเอียดอีกครั้ง และจะให้ญาตินำเอกสารไปรับร่างผู้เสียชีวิตนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป