22-04-67 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
ร้านมือถือหัวร้อนชักปืนโชว์และชี้ใส่หน้า”รองสารวัตรสืบสวน”ที่แต่งชุดบ้านไปซื้อมันเดือยที่ขายอยู่หน้าร้าน ไม่พอใจที่จอดรถขวางหน้าร้าน พอรู้เป็นตำรวจถึงกับหน้าถอดสียกมือไหว้ขอโทษตัวงอ ฝ่ายตำรวจไม่ยอมแจ้งความดำเนินคดีโดนไป2ข้อหาหายซ่าทันที
เจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือหัวร้อนชักปืนโชว์และชี้ปืนใส่หน้าขู่รองสารวัตรสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา ซึ่งแต่งกายชุดบ้านธรรดาใส่ผ้ากันเปื้อนไปซื้อมันเดือยซึ่งขายอยู่หน้าร้านมือถือ เพราะไม่พอใจที่จอดรถล้ำไปหน้าร้านและพูดขึ้นเสียงไม่ให้จอด
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่(21เม.ย.67)ขณะที่ ร.ต.ต.ธนกฤต สิริกุลวิตรา อายุ 55 ปี รองสารวัตรสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ซึ่งแต่งกายด้วยชุดบ้านธรรมดาและยังใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่ด้วย
ได้ขับรถยนต์กระบะไปซื้อมันเดือย ซึ่งตั้งอยู่หน้าร้านเจมส์โมบาย เลขที่ 36/93 ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์1 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา
แต่ได้จอดรถล้ำเข้าไปหน้าร้านมือถือเล็กน้อย ระหว่างที่รอแม่ค้าทำมันเดือยโดยสั่งไว้8ถุงแม่ค้าทำเสร็จแล้ว5ถุงเหลืออีก3 ถุง และติดเครื่องจอดรถรอที่หน้าร้านมือถือ
แต่ปรากกว่าระหว่างนั้น ได้มีนายสักรินทร์ คงเรือง อายุ 49 ปีเจ้าของร้านมือถือออกมือ ไม่พอใจที่มีรถกระบะมาจอดขวางหน้าบ้านและพูดจาขึ้นเสียงไม่ให้จอดขวางหน้าร้าน ร.ต.ต.ธนกฤต ก็ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นตำรวจและบอกให้พูดจาดีๆไม่ต้องขึ้นเสียง
ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจเดินเข้าไปหยิบอาวุธปืนที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานออกมาและเดินไปที่เคาท์เตอร์หน้าร้านโชว์ปืนให้ดูและยังชักปืนชี้ใส่หน้า ร.ต.ต.ธนกฤต พูดท้าทายถามว่า”พาปืนมาด้วยมั้ย”แล้วเดินเอาปืนไปเก็บไว้ในลิ้นชัก
ด้าน ร.ต.ต.ธนกฤต เห็นว่าไม่ปลอดภัยเพราะอีกฝ่ายมีปืนและตอนนั้นก็ไม่ได้พกปืนติดตัวเพราะอยู่นอกเวลางาน จึงได้แจ้งไปยังตำรวจชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่ ให้มาตรวจสอบ
หลังจากที่ชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่ นำโดย พ.ต.ต.ธีรพงศ์ วิชิต สว.สส.สภ.หาดใหญ่ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้ยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม.1กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด 9 มม.13 นัด ที่อยู่ในโต๊ะทำงาน
พร้อมกับตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านก็พบพฤติกรรมของ นายสักรินทร์ ที่ชักอาวุธปืนออกมาโชว์และชี้ปืนใส่หน้า ร.ต.ต.ธนกฤต จริงซึ่งกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ตลอด
จึงคุมตัว นายสักรินทร์ ไปสอบสวนที่ชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่และเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นตำรวจถึงกับหน้าถอดสีและยกมือไหว้ขอโทษบอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนตลอดชีวิตจบเรื่องนี้แล้วจะขายปืนเพราะมีแต่เรื่อง และก็ยอมรับว่าเอาปืนออกมาโชว์จริงเพราะมีปากเสียงกับ ร.ต.ต.ธนกฤต ที่ขับรถไปขวางหน้าร้าน
ด้าน ร.ต.ต.ธนกฤต บอกว่า ตอนนั้นตกใจเหมือนกันเพราะอีกฝ่ายมีปืนและได้พูดเตือนสติอารมณ์ นายสักรินทร์ ว่าอย่าทำแบบนี้อีก
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้แม้อีกฝ่ายจะขอโทษแต่ในทางคดี ร.ต.ต.ธนกฤต ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.หาดใหญ่ ให้ดำเนินคดีกับ นายสักรินทร์
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญโดยใช้อาวุธ และข้อหาพรบ.อาวุธปืนอีก 1 ข้อหา
ในส่วนของการดำเนินการทางคดีนั้นพนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายแม้ว่าผู้เสียหายในคดีนี้จะเป็นตำรวจก็ตาม ไม่มีการเข้าข้างฝ่ายใดว่ากันไปตามพยานหลักฐาน