คลั่งจับกุม

สงขลา – ระทึกเมืองหาดใหญ่หนุ่มเสพยาบ้าและไอซ์จนหลอนตระเวนจี้ชิงรถจักรยานยนต์และใช้มีดแทงผู้หญิงต่อเนื่อง3เคสรวดมีผู้บาดเจ็บ2คนและชิงรถจักรยานยนต์ไปสองคันตำรวจตามบุกชาร์จจับได้คาบ้าน

ระทึกเมืองหาดใหญ่หนุ่มเสพยาบ้าและไอซ์จนหลอนตระเวนจี้ชิงรถจักรยานยนต์และใช้มีดแทงผู้หญิงต่อเนื่อง3เคสรวดมีผู้บาดเจ็บ2คนและชิงรถจักรยานยนต์ไปสองคันตำรวจตามบุกชาร์จจับได้คาบ้าน พบเคยทำร้ายแม่จนน่วมจนต้องหนีออกจากบ้าน อ้างต้องการหาเงินไปซื้อข้าวสาร เคยเป็นยามแต่ต้องออกเพราะเหนื่อยต้องทำงานทุกวันต่อเนื่อง3เดือน
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่(24เม.ย.67)เจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบ50นาย ทั้งชุดเวหาหรือชุดมาแชล ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วของสภ.หาดใหญ่ ร่วมกับชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่ ชุดป้องกันปราบปรามสภ.หาดใหญ่ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา และชุดสืบสวนภาค9 นำโดย พ.ต.ต.ธีรพงศ์ วิชิต สว.สส.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.เอกภพ มุสิกปักษ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา และร.ต.อ.เสน่ห์ โพธิ์ศรี รอง สว.กก.สส.ภ.จว.สงขลา


นำเหล็กง่ามเข้าชาร์จจับกุม นายฐิติพงษ์ กวมทรัพย์ อายุ 35 ปีหรือชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหนุ่มทิพย์ ที่หน้าบ้านพักภายในซอย1 ถนนสามชัย เขตเทศบาลนครหาดใหญ่
และสามารถล๊อคตัวเอาไว้ได้โดยไม่มีโอกาสต่อสู้ขัดขืนหรือเหตุบานปลายรุนแรง โดย นายฐิติพงษ์ อยู่ในอาการหลอนยาและรับว่าเพิ่งเสพยาบ้าและยาไอซ์มา
โดยก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่เข้าชาร์จจับกุม นายฐิติพงษ์ ได้ก่อเหตุทำร้ายผู้หญิงและชิงรถจักรยานยนต์ต่อเนื่องกัน3 รายในเวลาไล่เลี่ยกันจากอาการหลอนยาอย่างหนัก
เริ่มจากเมื่อเวลา 17.10 น.ได้ก่อเหตุใช้มีดจี้และกระชากคอผู้หญิงที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับเพื่อนผู้หญิงและใช้มีดแทงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณวงเวียนสามชัย
ต่อมาเวลา 17.15 น.ใช้มีดจี้ผู้หญิงและชิงรถจักรยานยนต์ไป1คัน แถวหน้าโรงแรมเจบี
ตามมาด้วยเวลา 17.30 น.ได้ก่อเหตุชิงรถจักรยานยนต์บริเวณแยกไฟแดง ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์2 ตัด ถ.นิพัทธ์สงเคราะห์1ซอย 4 ขณะที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิงจอดรถจักรยานยนต์ติดไฟแดงและใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ ได้ใช้อาวุธมีดจี้บังคับเพื่อชิงโทรศัพท์ แต่ฝ่ายหญิงได้ขว้างโทรศัพท์เข้าไปในร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ จึงใช้มีดแทง3ครั้ง และชิงรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบเบาะแสของคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อสีขาวขณะเดินอยู่ริมถนนนิพัทธ์สงเคราะห์2 ก่อนที่จะไปก่อเหตุในจุดที่สามและแกะรอยภาพวงจรปิดเส้นทางหลบหนี พบว่าได้ขับรถเข้าไปภายในซอย1 ถนนสามชัย จึงเข้าไปตรวจสอบจนพบตัวและประสานขอกำลังเข้าชาร์จจับกุมได้
และจากการตรวจสอบภายในบ้านพบรถจักรยานยนต์1คันที่ นายฐิติพงษ์ ขโมยมาจอดอยู่ในบ้านซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่ชิงมาจากการก่อเหตุจุดที่สอง และตามไปยึดรถจักรยานยนต์อีก1คันซึ่งถูกนำไปทิ้งในซอย10เพชรเกษมซึ่งจี้มาจากจุดที่สาม


เมื่อสอบถามก็บอกว่าจะเอาไปขายแต่ยังไม่มีคนซื้อ นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ1 เครื่องแต่ไม่มีซิมการ์ดอ้างว่าใช้ดูเวลา
และจากการสอบถาม นายฐิติพงษ์ ก็บอกว่าก่อนที่จะลงมือก่อเหตุได้เสพยาบ้าและยาไอซ์เข้าไป และหลังก่อเหตุก็ยังกลับมาเสพยาบ้าอีกครั้ง และบอกว่ายังเคยทำร้ายแม่โดยลงมือกระทืบอ้างว่าแม่จ้างให้ทำ
นอกจากนี้จากการสอบถามชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าก่อนหน้านี้ก็อยู่กับแม่แต่ว่าพักหลังอยู่ตัวคนเดียวเพราะว่าแม่ไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้เพราะกลัวลูกชายถูกทำร้าย
โดยพฤติกรรมในการก่อเหตุสามีของผู้หญิงที่ถูก นายฐิติพงษ์ ทำร้ายตรงจุดที่สอง เล่าว่า ชายคนนี้ได้เดินไปเจอภรรยาของตนที่จอดรถจักรยานยนต์ติดเครื่องอยู่ซึ่งเป็นจุดที่สองและเข้าไปล๊อคคอชิงกระเป๋าแต่ภรรยาสะบัดหลุดและผลักรถจักรยานยนต์จนล้มใส่ชายคนนี้ ก่อนที่จะชิงรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป
หลังการจับกุมตำรวจชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่ได้คุมตัว นายฐิติพงษ์ ไปสอบถามถึงแรงจูงใจที่ก่อเหตุทำร้ายผู้หญิงและชิงรถจักรยานยนต์บอกว่าเพราะไม่มีจะกินต้องการชิงรถจักรยานยนต์ไปขายเพื่อหาเงินซื้อข้าวสาร เพราะว่าอยู่ตัวคนเดียว และที่ใช้มีดจ้วงแทงไปก็ไม่รู้ว่าจะมีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่อยากจะขอโทษผู้เสียหายทุกคน
และยังบอกว่าก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นยามอยู่3เดือนแต่ว่าเหนื่อยเพราะตลอด3เดือนไม่ได้หยุดพักจึงลาออก และจะกลับไปทำอีกก็ไม่ได้เพราะว่าไม่มีเงินซื้อรองเท้า หมวกก็ขาดเนคไทก็ขาดมีเฉพาะเสื้อและกางเกง
ส่วนยาบ้าและไอซ์เพิ่งมาเสพต่อเนื่องทุกวันมีคนมาขายให้ถึงบ้านโดยจะขอเงินญาติและเพื่อนบ้านแถวนั้นครั้งละ 10-20 บาทเพื่อนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ
ตำรวจจึงควบคุมตัวเอาไว้และเบื้่องต้นได้แจ้งข้อหาพยามชิงทรัพย์ฯ, ข้อหาชิงทรัพย์ฯ, ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธฯ,ทำร้ายร่างกาย,พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต,และข้อหาเสพยา

พี่เสือ นักข่าวสงขลา