เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 29 เมษายน 2567 ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพระสมุทรเจดีย์ น.ส.สุภาภรณ์ ยาประดิษฐ์ อายุ 31 ปี (แม่) ได้พา ด.ญ.ศุภิสรา(หรือเหมียว) ยาประดิษฐ์ อายุ 13 ปี (ลูกสาว) และ ด.ญ.นนท์ภัสร(หรือมด) ยาประดิษฐ์ อายุ 9 ปี (ลูกสาวคนเล็ก) ได้เดินทางมาร้องของความเป็นธรรม โดยมี นาย ภูริปกรณ์ ประกอบผล ปลัดอำเภอพระสมุทรเจดีย์ เป็นผู้รับเรื่อง ว่า ลูกสาวคนโต น้องเหมียว ถูก นายสมเกียรติ เรืองศรี อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นครูสอนวิชาสังคมศึกษา ที่โรงเรียนบ้านขุนสมุทรไทย ล่วงละเมิดทางเพศ ในขณะที่ น้องเหมียว ผู้เสียหายเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และในขณะก่อเหตุนั้นก็มี น้องมด ลูกสาวคนเล็ก อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
หลังรับเรื่อง นาย ภูริปกรณ์ ประกอบผล ปลัดอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ได้พาสามแม่ลูกเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สุนทร พิมพันธ์ สารวัตรสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีกับทาง นายสมเกียรติ
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 13.30 น ที่บริเวณลานจอดรถองค์พระสมุทรเจดีย์ ด้วยผู้ก่อเหตุได้ขับรถกระบะไปรับน้องทั้งสองคนที่บริเวณคลองยายหลีใกล้บ้านพัก และไปจอดบริเวณลานจอดรถองค์พระสมุทรเจดีย์ และผู้ก่อเหตุได้ลงมือก่อเหตุล่วงละเมิด น้องเหมียว ผู้เสียหาย ในขณะที่น้องสาวอยู่ในรถเช่นเดียวกัน ถึงได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แล้วจากนั้นจึงได้ขับรถไปส่งน้องทั้งสองที่ท่าเรือคลองยายหลี ผู้ก่อเหตุได้ให้เงิน น้องมด ซึ่งเป็นน้องสาว ไปจำนวน 50 บาท บอกว่าไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร จนหลังจากวันเกิดเหตุประมาณ 2 วัน แม่มาจับพิรุธได้โดยดูโทรศัพท์มือถือ จึงเห็นข้อความแชทระหว่าง น้องเหมียว กับ ครูที่ก่อเหตุ โดยข้อความเหมือนสนิทกันมาก เหมือนไม่ใช่ครูกับลูกศิษย์ จากนั้นแม่พยายามสอบถามจน น้องเหมียว เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วจากนั้นแม่จึงพาลูกสาวไปแจ้งกับครูประจำชั้น และผู้อำนวยการโรงเรียน จนเรื่องนี้ไปถึงเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาที่ 1 จากนั้นทางโรงเรียนจึงได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีมูลข้อเท็จจริง จากนั้นทางโรงเรียนจึงได้ไล่ครูผู้ก่อเหตุออกโดยทันที หลังจากนั้น ครูผู้ก่อเหตุได้ประสานติดต่อไปทางแม่ของน้อง เพื่อจะชดใช้ให้เงินช่วยเหลือ ได้บอกให้แม่ของน้องไปเปิดบัญชีธนาคาร แล้วครูผู้ก่อเหตุได้โอนเงินเข้าไปในบัญชีแม่ของน้องจำนวน 10,000 บาท และย้ำไม่ให้เอาเรื่องดำเนินคดีหรือแจ้งความกับตำรวจ จนผ่านไปประมาณ 2-3 อาทิตย์ แม่ของน้องดูแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือลูกสาวของตนเป็นฝ่ายสูญเสียมากกว่ามองถึงอนาคตของลูกสาว ถึงได้ไปปรึกษาคนที่รู้จัก และแนะนำให้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ต่อจากนั้นจึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
น.ส.สุภาภรณ์(แม่)ได้เล่าว่า นัดเจอกันที่ลานพระสมุทรเจดีย์แล้วก็ ไปกับคุณครู พร้อมกับพี่สาวและลูกสาวคนเล็ก นั่งรถกระบะไป โดยที่คุณแม่ไม่ได้ไปด้วย โดยไปถ่ายรูปและกลับมาที่บ้าน ซึ่งไปช่วงเวลาประมาณ 13:00 น แล้วกลับมาถึงบ้านประมาณ 15.00 น น้ลูกสาวของตนเองทราบแล้วว่าพี่สาวถูกโดนล่วงละเมิดทางเพศเนื่องจาก น้องสาวเขาเห็น เพราะนั่งอยู่ในรถด้วยกัน จึงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่า พี่สาวถูกกระทำอะไรบ้าง ส่วนคุณแม่รู้เหตุการณ์ว่าน้องถูกล่วงละเมิดทางเพศเมื่อ เห็นจดหมาย ของครูที่ก่อเหตุส่งมาให้ลูกสาวของตน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองไม่เคยรู้ว่าคุณครูพูดคุยกับลูกสาวในเชิงชู้เพิ่งจะมาทราบเรื่องในวันนั้น โดยข้อความในจดหมายมีสาระสำคัญว่า เป็นดั่งดวงใจของเขาและเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งแฟน เป็นทั้งคนคุย และเป็นทั้งเมียผม ซึ่งคุณครูคนดังกล่าวได้เขียนและระบุในจดหมายแบบนั้น หลังจากที่ตนเองได้เห็นจดหมายรับทราบเข้ากันดังกล่าวจริงโทรหาคุณครูประจำชั้น พร้อมกับพาลูกสาวเพื่อไปแจ้งผู้อำนวยการของโรงเรียน จากนั้น ตนเองจึงไปประสานที่เขตการศึกษา ว่ามีเรื่องเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซึ่งในขณะนั้นอุณหภูมิที่ก่อเหตุร้ายดังกล่าวได้ออกจากสถานศึกษาไปแล้ว โดยการลาออกด้วยตน โดยหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคุณครูคนดังกล่าวก็ไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยกันอีกเลย แต่หลังจากนั้นคุณครูผู้ก่อเหตุร้ายดังกล่าวได้ติดต่อกลับมาให้คุณแม่เปิดบัญชีเพื่อที่จะ มอบเงิน 10,000 บาท เป็นค่าเสียหาย และขอให้เรื่องนี้เงียบไปโดยที่ไม่ต้องไปแจ้งความกับ ทางสถานีตำรวจ ตนเองจริงเก็บเรื่องไว้ประมาณ 2 อาทิตย์จากนั้นจึงไปปรึกษาเจ้าหน้าที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ที่อยู่แถวบ้าน ซึ่งความตั้งใจจริงตนเองจะเอาเรื่องอยู่แล้วแต่เงิน 10,000 บาทผู้ก่อเหตุเป็นคนให้เอง โดยอ้างว่าถ้าไม่รับก็คิดว่าให้เป็นค่าขนมลูกสาว และในวันนี้ที่ตนเองมาศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพระประแดงเนื่องจากมาขอความเป็นธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีมูลนิธิบ้านพักเด็กได้ให้เข้ามาช่วยเหลือบ้างแล้ว ส่วนกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องนี้เงียบไปเลย ไม่ให้ความช่วยเหลือ หลังจากคุณครูที่ก่อเหตุผลได้ลาออกไปเรื่องก็ เงียบหายไปเลย
น้องเหมียว ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงตอนที่ตอนเรียนอยู่ ม. 6 เทอม 1 เพราะตนรู้สึกแอบชอบครูคนนี้มานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกชอบไป จนมาช่วงบ่างหลัง เริ่มได้มีการพูดคุยกับครูผ่านแชทเฟซบุ๊ก ตนจึงบอก ขอคบกับครูไป ซึ่งครูก็ตอบตกลง ซึ่งหลังจากคบกันได้ คุณครูก็พาตนและน้องไปเที่ยว และถ่ายรูปบริเวณ 3 แยกพระสมุทรเจดีย์ หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็พาไปเที่ยวบริเวณลานพระสมุทรเจดีย์ จุดเกิดเหตุก็เกิดที่นั้น ซึ่งขณะนั้นนั่งอยู่ในรถครู จู่ๆ ครูก็เริ่มล่วงละเมิดทางเพศตน ตนพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงคุณครูได้ ซึ่งขณะนั้นน้องก็อยู่ในเหตุการณ์และเห็นเหตุการณ์ ขณะที่ตนโดนข่มขืน หลังจากนั้นคุณครูก็พากลับไปส่งที่บ้าน ซึ่งหลังจากนั้น 2 วัน คุณครูได้ส่งจดหมายมาในเชิงชู้สาว แต่แม่ก็การมาเห็นและพามาแจ้งความ
นาย ภูริปกรณ์ ปลัดอำเภอพระสมุทรเจดีย์ เล่าว่า ได้รับแจ้งจากครอบครัวของน้องนักเรียน ซึ่งเรียนอยู่ในพื้นที่พระสมุทรเจดีย์ว่าถูกคุณครูสอนวิชาสังคมในโรงเรียนล่วงละเมิดทางเพศ ทางด้านคุณแม่ของน้อง เพิ่งจะมาทราบเรื่องในช่วงหลัง จึงพาไปแจ้งกับทางโรงเรียน ซึ่งหลังจากแจ้งไป รู้สึกว่าเรื่องมันเงียบจึงได้ติดต่อมาทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งทางอำเภอได้รับเรื่องคำร้องไว้แล้ว และทางหน่วยงาน จะให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ และจะติดต่อกับ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาช่วยเหลือและประสานงาน และรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดในรูปคดี
*********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ