จากกรณี ดร.พระครูธรรมธร(พระสุชาติ) ฐิตวโร เจ้าอาวาสวัดจวนดำรงค์ราชพลขันธ์ เข้าไปตักเตือนกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คน ที่แอบมาตกปลาภายในคลองบริเวณหน้าวัด จนถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร้ายได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เวลา 00.45 น. บริเวณถนน คสล.ทางเข้าชุมชนบ้านตา อยู่ตรงข้ามวัดจวนดำรงค์ราชพลขันธ์ หมู่ที่ 7 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ที่ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นาย บัญชา รับธงชัย อายุ 52 ปี ได้เดินทางมาพร้อมกับ นายณัชพล(หรือบอส) เสียงแจ่มใส อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นเด็กที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อเข้ามอบตัวกับ ร.ต.อ.ณัฐพฤทธ์ ด้วงเกตุ รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย พระสุชาติ จนได้รับบาดเจ็บ พร้อมชี้รอยช้ำที่ถูกทาง พระสุชาติ ตีด้วยไม้ ที่กกหูข้างซ้ายและหัวไหลข้างซ้าย ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบปากคำ นายบัญชา พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วน นายบัญชา จะแจ้งความ กับเจ้าอาวาสเช่นเดียวกัน ว่าตัวเองก็ถูกทำร้ายร่างกายก่อนจนได้รับบาดเจ็บ
นายบัญชา รักธงไชย อายุ 52 ปี ได้เล่าให้ฟังว่า ตอนแรกยิงหนังสติ๊กอยู่แล้วมันมีซอยข้างๆ หมาดุ ร้านจึงพามาทางนี้ด้วยความที่เราไม่รู้ ตนเองจริงเดินไปดูหลานเพราะตกปลาอยู่ ตรงวัดโมกเดินมาเจอไม้ตกอยู่ที่พื้น 1 อัน ตนเองจึงถือไม้อันที่เจอไปเพราะว่าเก็บไว้ตีและไล่หมาที่ซอยนี้ดุ จากนั้นจึงเดินมากับหลานผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย จะเอาไปตีหมาแต่ตีพลาด มีหนังสติ๊กยิงออกมาก่อนเลย จากกอกล้วยจำนวน 1 นัด พร้อมกับวิ่งตามถือไม้ออกมา ซึ่งเป็นพระพอถือไม้ออกมาก็ตีผมก่อนเลย ที่หัวกลับไหล่ 2 ทีตีเราก่อนเลย ซึ่งตนเองมีไม้อยู่ในมือก็ได้ซัดกลับไป ซึ่งไม้ของตนเองที่ถือมาไม่ได้เจตนาที่จะเตรียมไว้ตีพระ ซึ่งเตรียมมาไว้เพื่อป้องกันหมาส่วนหลาน ไม่ได้ตกปลาแค่ดูว่าพระมาทำอะไร ซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 23:00 น กว่า หลังจากนั้นตนเองก็กลับบ้าน ช่วงที่ทานออกมาตีผมผมก็ตีคืน ซึ่งกันเองตีไปทีเดียวโดนที่หัวแตก จากนั้นตนเองก็วิ่งหนีออกมา เพื่อเอารถจักรยานยนต์แล้วก็ ไปตกปลาข้างนอกต่อ คิดว่าไม่มีอะไรแต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที ก็ไปไล่ตีชุดหลังผมอีก บริเวณที่เดิม จนเด็กร่วงตกน้ำสิ้นคืนนั้นมี 2 เหตุการณ์ คือของผมกับหลานและชุดกลุ่มเด็กวัยรุ่นอีกประมาณ 7 คน จากนั้นก็ถูกเด็กกลุ่มวัยรุ่นเขาต่อย ซึ่งตนเองก็รู้ว่าคนที่ถูกทำร้ายเป็นพระ ส่วนสาเหตุที่ทำร้ายไปตนเองก็อยากจะถามว่าไปห้ามเด็กทำไมตีเด็ก ยิงเด็กทำไม คุณเป็นพระอยู่นะ หรือเป็นอะไรถ้าเด็กไปตกปลาอยู่ฝั่งคุณ ว่าไปอย่างอันนี้ตกอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งตนเองก็เข้าใจเหมือนชาวบ้านว่ามันเป็นเขตอภัยทานแต่เขาก็ตกมาสมัยไหนนมนานแล้ว ซึ่งตนเองก็แปลกใจทำไมพระถึงมาไล่ยิงโยม เป็นพระนักเลงหรือเปล่ากลางคืนไม่ยอมหลับยอมนอน สาเหตุน่าจะรู้แล้วว่าเพราะอะไรเพราะน่าจะดื่มมาน่ะสิ ซึ่งตนเองก็ยอมรับว่าได้ทำร้ายพระและตีจากนั้นก็ออกมา ซึ่งถ้าผมไม่มีมาให้ไปเขาไม่ตีผมตายหรือ ซึ่งเขาใช้หนังสติ๊กมาไม่โดนผมยิงโดนใครก็ไม่รู้ ตนเองก็ด่าออกไปใครยิงผมจากนั้นพาก็ออกมาจากเกาะกล้วยเลย เลยหลานของตนเองก็พวกหนังสติ๊กไปแต่ไม่ได้ยิงเขายิงออกมาก่อนเลย ซึ่งผมก็ไปตกปลาอีกที่นึง ซึ่งความคิดของตนเองพระดังกล่าวน่าจะไม่ใช่พระแต่เป็นอันธพาล ใครมาก็ตีเขาใครมาก็ยิงเขา เป็นพระอะไรเปิดกิจการเป็นของตัวเองหรอหรือขายอาหารปลา
ทางด้าน นายบอส ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตนกำลังนั่งเล่นกันอยู่และลุงที่รู้จักขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับไม้เพื่อจะไว้กันหมา ซึ่งตรงจุดนั้นมีหมาดุ เขาลงรถและถือไม้มาเพื่อจะกันหมา ตนจึงพยายามบอกกับลุงว่ามีพระ เพราะลุงเขาถือคันเบ็ดมาด้วย พอพระเห็นว่าลุงถือคันเบ็ดมาก็ตีลุงเลย ทีนี้ลุงโดนทำร้ายจึงได้สวนกลับเพื่อป้องกันตัว ก่อนหน้านี้ที่ลุงจะมา ทางพระมีการยิงหนังสะติ๊กใส่พวกตนก่อน คิดว่าพวกตนตกปลา แต่ยิงไม่โดน ตนตกใจจึงได้วิ่งหนีไป ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์คล้ายๆกัน ตอนนั้นตนกำลังนั่งเล่นอยู่บนถนนใกล้กับบ้านร้าง จู่ๆเห็นอะไรใต้น้ำโผล่ขึ้นมา ตนก็ตกใจคิดว่าเป็นผี พอมองดีๆก็เห็นว่าเป็นคนที่ห่มผ้าเหลืองครึ่งตัวขึ้นมา พอโผล่ขึ้นมากก็ถามว่า กำลังทำอะไรกัน ตกปลาอยู่เหรอ ได้บ้างรึยังแล้วจะกลับบ้านกันกี่โมง ตนก็ไม่ได้อะไร จึงตอบไปว่า ยังครับ อีกสักพักก็กลับ หลังจากนั้นก็วิ่งหนี เพราะ ยังตกใจอยู่ที่จู่ๆก็มีคนโผล่จากใต้น้ำมาถาม ทีแรกคิดว่าเป็นผี และมารู้ทีหลังว่าคนที่ดำน้ำมาคือพระตัวจริง
พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง ได้กล่าวว่า เหตุการณ์พระวัดจวนดำรงค์ราชพลขันธ์ กลับชาวบ้านที่มาแอบตกปลา ได้รับแจ้งอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งตำรวจก็ไปทันเจอตัวผู้ก่อเหตุหรือชาวบ้านที่แอบตกปลา บางครั้งก็ไปไม่ทัน แต่ทางเจ้าที่ตำรวจเมื่อได้รับแจ้งก็ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจไปทุกครั้ง ก่อนหน้านี้ก็ยังจับคนที่มาแอบตกปลาและดำเนินคดีไปได้อยู่หลายราย แต่บางครั้งเมื่อทางวัดแจ้งเหตุมาสายตรวจระงับเหตุอยู่พอดีอาจจะทำให้ล่าช้าไปไม่ทันบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไรวันนี้เราได้มีมาตรการ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตู้แดง และกำชับให้สายตรวจให้เพิ่มวงรอบการตรวจมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยกับชาวบ้านบริเวณนั้นและพระสงฆ์ที่อยู่ในวัดที่คอยดูแลปลาบริเวณหน้าวัด
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ